Check out the new design

ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐ ߟߎ߬ ߘߟߊߡߌߘߊ - ߟߊߘߛߏߣߍ߲" ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐߦߌߘߊ ߘߐ߫ ߕߊߌߟߊߣߘߌ߲ߞߊ߲ ߘߐ߫ * - ߘߟߊߡߌߘߊ ߟߎ߫ ߦߌ߬ߘߊ߬ߥߟߊ


ߞߘߐ ߟߎ߬ ߘߟߊߡߌ߬ߘߊ߬ߟߌ ߝߐߘߊ ߘߏ߫: ߕߐ߬ߝߍ߬ߦߊ߬ߣߍ߲ ߠߎ߬   ߟߝߊߙߌ ߘߏ߫:
۞ إِلَيۡهِ يُرَدُّ عِلۡمُ ٱلسَّاعَةِۚ وَمَا تَخۡرُجُ مِن ثَمَرَٰتٖ مِّنۡ أَكۡمَامِهَا وَمَا تَحۡمِلُ مِنۡ أُنثَىٰ وَلَا تَضَعُ إِلَّا بِعِلۡمِهِۦۚ وَيَوۡمَ يُنَادِيهِمۡ أَيۡنَ شُرَكَآءِي قَالُوٓاْ ءَاذَنَّٰكَ مَا مِنَّا مِن شَهِيدٖ
ความรู้แห่งวันอวสานนั้นขึ้นกับพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น,ดังนั้นพระองค์เท่านั้นคือผู้ที่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่,จึงไม่มีผู้ใดอื่นจากพระองค์รู้เรื่องดังกล่าว,และไม่มีผลไม้ใดออกมาจากกลีบดอกที่ห่อหุ้มมัน และไม่มีหญิงใดตั้งครรภ์ หรือให้กำเนิด เว้นแต่ด้วยความรอบรู้ของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดจากเรื่องดังกล่าวจะผ่านพ้นพระองค์ไปได้ และวันที่พระองค์ทรงเรียกบรรดาผู้ที่ตั้งภาคี ที่เคยสักการะบูชาบรรดาเจว็ดพร้อมกับพระองค์ เพื่อเป็นการเยาะเย้ยพวกเขาที่ได้ทำการเคารพสักการะบรรดาเจว็ดเหล่านั้นว่า "ไหนเล่าภาคีทั้งหลายของข้า ที่พวกเจ้านั้นอ้างว่าพวกเขาเป็นภาคี?" พวกเขากล่าวว่า "เราขอสารภาพต่อหน้าพระองค์ วันนี้ไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเราเป็นพยานว่าพระองค์มีภาคี"
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
وَضَلَّ عَنۡهُم مَّا كَانُواْ يَدۡعُونَ مِن قَبۡلُۖ وَظَنُّواْ مَا لَهُم مِّن مَّحِيصٖ
และบรรดาเจว็ดที่พวกเขาเคยวิงวอนกราบไหว้นั้นได้เตลิดหนีไปจากพวกเขา และพวกเขาเชื่อมั่นว่า พวกเขานั้นไม่มีทางหนีสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีการลงโทษของอัลลอฮ์ไปได้
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
لَّا يَسۡـَٔمُ ٱلۡإِنسَٰنُ مِن دُعَآءِ ٱلۡخَيۡرِ وَإِن مَّسَّهُ ٱلشَّرُّ فَيَـُٔوسٞ قَنُوطٞ
มนุษย์ไม่เคยเบื่อหน่ายต่อการวิงวอนขอการมีสุขภาพที่ดี ความมั่งคั่ง ลูก และความสุขทางโลกอื่นๆ แต่เมื่อความยากจนและโรคภัยไข้เจ็บมาประสบแก่พวกเขาเข้า เขาก็จะท้อถอยหมดอาลัยจากความเมตตาของอัลลอฮ์เป็นอย่างมาก
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
وَلَئِنۡ أَذَقۡنَٰهُ رَحۡمَةٗ مِّنَّا مِنۢ بَعۡدِ ضَرَّآءَ مَسَّتۡهُ لَيَقُولَنَّ هَٰذَا لِي وَمَآ أَظُنُّ ٱلسَّاعَةَ قَآئِمَةٗ وَلَئِن رُّجِعۡتُ إِلَىٰ رَبِّيٓ إِنَّ لِي عِندَهُۥ لَلۡحُسۡنَىٰۚ فَلَنُنَبِّئَنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُواْ بِمَا عَمِلُواْ وَلَنُذِيقَنَّهُم مِّنۡ عَذَابٍ غَلِيظٖ
และเมื่อเราได้ให้เขาลิ้มรสการมีสุขภาพที่ดี ความมั่งคั่งและความสุขสบายหลังจากที่ได้ประสบกับความทุกข์ยากและโรคภัยต่างๆ แน่นอนเขาก็จะกล่าวว่า นี่คือความสามารถของฉัน เพราะฉันเป็นผู้ที่คู่ควรและเหมาะสมกับมัน และฉันไม่คิดว่าวันแห่งการอวสานนั้นจะเกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าวันแห่งการอวสานเกิดขึ้นจริง แน่นอนฉันก็จะอยู่ในฐานะที่ร่ำรวยและมีทรัพย์สิน ณ ที่อัลลอฮ์ ดั่งที่พระองค์ได้ทรงประทานให้แก่ฉันในโลกดุนยา เพราะความเหมาะสมของฉันต่อเรื่องดังกล่าว พระองค์จึงทรงประทานให้แก่ฉันในวันอาคิเราะฮ์ด้วย ดังนั้นเรา(อัลลอฮ์)จะให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้รู้เห็นในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธศรัทธาและการฝ่าฝืน และแน่นอนเราจะให้พวกเขาได้ลิ้มรสการลงโทษอันรุนแรง
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
وَإِذَآ أَنۡعَمۡنَا عَلَى ٱلۡإِنسَٰنِ أَعۡرَضَ وَنَـَٔا بِجَانِبِهِۦ وَإِذَا مَسَّهُ ٱلشَّرُّ فَذُو دُعَآءٍ عَرِيضٖ
และเมื่อเราประทานความโปรดปรานแก่มนุษย์ ด้วยการให้มีสุขภาพที่ดีและควมสุขสบายอื่น ๆ เขาก็จะละเลยการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการเชื่อฟังต่อพระองค์ และเขาก็เหินห่างและปลีกตัวออกไปข้าง ๆ อย่างโอหัง และเมื่อโรคภัยไข้เจ็บ ความยากจนและอื่น ๆ มาประสบแก่เขา เขาก็เป็นผู้วิงวอนขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์อย่างมาก ด้วยการระบายต่อพระองค์ถึงความทุกข์ที่ประสบแก่เขา เพื่อให้พระองค์ขจัดทุกข์นั้นไปจากเขา แต่เขาไม่ขอบคุณผู้อภิบาลของเขาเมื่อพระองค์ทรงประทานความโปรดปรานให้แก่เขา และไม่อดทนต่อบททดสอบของพระองค์เมื่อพระองค์ทรงทดสอบเขา
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
قُلۡ أَرَءَيۡتُمۡ إِن كَانَ مِنۡ عِندِ ٱللَّهِ ثُمَّ كَفَرۡتُم بِهِۦ مَنۡ أَضَلُّ مِمَّنۡ هُوَ فِي شِقَاقِۭ بَعِيدٖ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย -แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาว่า “จงบอกฉันมาเถิดว่า หากอัลกุรอานนี้มาจากอัลลอฮ์ แล้วพวกเจ้าปฏิเสธและไม่ศรัทธาตอมัน ดังนั้นพวกเจ้าจะเป็นอย่างไร?! และใครกันแน่ที่จะหลงทางมากกว่าคนที่ดื้อรั้นต่อความจริง ทั้งที่ความจริงนั้นปรากฎชัดเจน ด้านการเป็นหลักฐานที่กระจ่างชัดและมีน้ำหนัก?!
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
سَنُرِيهِمۡ ءَايَٰتِنَا فِي ٱلۡأٓفَاقِ وَفِيٓ أَنفُسِهِمۡ حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَهُمۡ أَنَّهُ ٱلۡحَقُّۗ أَوَلَمۡ يَكۡفِ بِرَبِّكَ أَنَّهُۥ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ شَهِيدٌ
เราจะให้พวกปฏิเสธศรัทธากุร็อยชฺได้เห็นสัญญาณทั้งหลายของเราในแผ่นดินอันไกลโพ้น จากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงพิชิตมันให้แก่บรรดาผู้ศรัทธาและเราจะให้พวกเขาได้เห็นสัญญาณทั้งหลายของเราในตัวของพวกเขาเองด้วยการพิชิตเมืองมักกะฮ์ จนเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาด้วยกับสิ่งที่ทำให้หายสงสัยว่า อัลกุรอานนั้นเป็นความจริงที่ไม่มีการเคลือบแคลงใดๆในนั้น บรรดาผู้ตั้งภาคีเหล่านั้นยังไม่พอเพียงอีกหรือว่า อัลกุรอานคือสัจธรรม ด้วยการเป็นพยานของอัลลอฮ์ ว่ามันนั้นมาจากพระองค์?! แล้วจะมีใครเป็นพยานที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าอัลลอฮ์?! ดังนั้นถ้าหากพวกเขาปรารถนาในสัจธรรมอย่างแท้จริง แน่นอนพวกเขาย่อมพอเพียงต่อการเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
أَلَآ إِنَّهُمۡ فِي مِرۡيَةٖ مِّن لِّقَآءِ رَبِّهِمۡۗ أَلَآ إِنَّهُۥ بِكُلِّ شَيۡءٖ مُّحِيطُۢ
พึงรู้เถิดว่า แท้จริงบรรดาผู้ตั้งภาคีนั้น อยู่ในการสงสัยของพวกเขาเกี่ยวกับการพบพระเจ้าของพวกเขาในวันกิยามะฮ์ เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธการฟื้นคืนชีพ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์ ด้วยเหตุนี้ชี้ถึงว่า พวกเขาไม่ได้เตรียมการงานที่ดีสำหรับวันนั้นเลย พึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงครอบคลุมทุกสิ่งด้วยความรู้และความสามารถ
ߊߙߊߓߎߞߊ߲ߡߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߟߎ߬:
ߟߝߊߙߌ ߟߎ߫ ߢߊ߬ߕߣߐ ߘߏ߫ ߞߐߜߍ ߣߌ߲߬ ߞߊ߲߬:
• علم الساعة عند الله وحده.
ความรู้แห่งวันอวสารนั้น มีอยู่ ณ ที่อัลลอฮ์ เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น

• تعامل الكافر مع نعم الله ونقمه فيه تخبط واضطراب.
ทัศนคติของผู้ปฏิเสธศรัทธาที่มีต่อความโปรดปราณและการลงโทษของอัลลอฮ์นั้นไม่มั่นคงและสับสน

• إحاطة الله بكل شيء علمًا وقدرة.
อัลลอฮ์ ทรงครอบคลุมทุกสิ่งด้วยความรู้และความเดชานุภาพ

 
ߞߘߐ ߟߎ߬ ߘߟߊߡߌ߬ߘߊ߬ߟߌ ߝߐߘߊ ߘߏ߫: ߕߐ߬ߝߍ߬ߦߊ߬ߣߍ߲ ߠߎ߬
ߝߐߘߊ ߟߎ߫ ߦߌ߬ߘߊ߬ߥߟߊ ߞߐߜߍ ߝߙߍߕߍ
 
ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐ ߟߎ߬ ߘߟߊߡߌߘߊ - ߟߊߘߛߏߣߍ߲" ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐߦߌߘߊ ߘߐ߫ ߕߊߌߟߊߣߘߌ߲ߞߊ߲ ߘߐ߫ - ߘߟߊߡߌߘߊ ߟߎ߫ ߦߌ߬ߘߊ߬ߥߟߊ

ߡߍ߲ ߝߘߊߣߍ߲߫ ߞߎ߬ߙߊ߬ߣߊ ߞߘߐߦߌߘߊ ߕߌߙߌ߲ߠߌ߲ ߝߊ߲ߓߊ ߟߊ߫

ߘߊߕߎ߲߯ߠߌ߲