আল-কোৰআনুল কাৰীমৰ অৰ্থানুবাদ - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم * - অনুবাদসমূহৰ সূচীপত্ৰ


অৰ্থানুবাদ ছুৰা: ছুৰা আল-ক্বাচাচ   আয়াত:

Al-Qasas

ছুৰাৰ উদ্দেশ্য:
سنة الله في تمكين المؤمنين المستضعفين وإهلاك الطغاة المستكبرين.
เป็นวิถีแห่งอัลลอฮ์ในการช่วยเหลือผู้ศรัทธาที่อ่อนแอและทำลายล้างคนชั่วที่ยิ่งสโยโอหัง

طسٓمٓ
(طسٓمٓ) คำลักษณะนี้ได้กล่าวถึงแล้วในตอนต้นของสูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮฺ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
تِلۡكَ ءَايَٰتُ ٱلۡكِتَٰبِ ٱلۡمُبِينِ
นี้คือโองการทั้งหลายของคัมภีร์อัลกุรอานอันชัดแจ้ง
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
نَتۡلُواْ عَلَيۡكَ مِن نَّبَإِ مُوسَىٰ وَفِرۡعَوۡنَ بِٱلۡحَقِّ لِقَوۡمٖ يُؤۡمِنُونَ
เราจะอ่านแก่เจ้าซึ่งเรื่องราวบางส่วนของมูซาและฟิรเอานฺด้วยความจริง ที่ไม่มีข้อแคลงใจใดๆ เลยสำหรับหมู่ชนผู้ศรัทธา เพราะพวกเขาเท่านั้นคือผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่อยู่ในเรื่องราวนั้น
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
إِنَّ فِرۡعَوۡنَ عَلَا فِي ٱلۡأَرۡضِ وَجَعَلَ أَهۡلَهَا شِيَعٗا يَسۡتَضۡعِفُ طَآئِفَةٗ مِّنۡهُمۡ يُذَبِّحُ أَبۡنَآءَهُمۡ وَيَسۡتَحۡيِۦ نِسَآءَهُمۡۚ إِنَّهُۥ كَانَ مِنَ ٱلۡمُفۡسِدِينَ
แท้จริงฟิรเอานฺเป็นผู้ละเมิดในแผ่นดินอียิปต์และทรงมีอิทธิพลในแผ่นดินนั้น และเขาทำให้ประชาชนชาวอียิปต์แตกแยกเป็นกลุ่มๆ เขายังทำให้ชนกลุ่มหนึ่งจากพวกเขานั้นอ่อนแอ คือ ลูกหลานของอิสรออีล ด้วยการฆ่าเพศชายและไว้ชีวิตเพศหญิงเพื่อเอาไปรับใช้เป็นทาสให้กับพวกเขา แท้จริงเขาเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้บ่อนทำลายในแผ่นดิน ด้วยการอธรรม หยิ่งผยอง และการละเมิด
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَنُرِيدُ أَن نَّمُنَّ عَلَى ٱلَّذِينَ ٱسۡتُضۡعِفُواْ فِي ٱلۡأَرۡضِ وَنَجۡعَلَهُمۡ أَئِمَّةٗ وَنَجۡعَلَهُمُ ٱلۡوَٰرِثِينَ
และเราปรารถนาที่จะให้ความโปรดปรานแก่ลูกหลานของอิสรออีลที่ถูกฟิรเอาน์กดขี่ข่มเหงในแผ่นดินอียิปต์ ด้วยการทำลายล้างผู้ที่เป็นศัตรูกับพวกเขาและขจัดความตกต่ำออกจากพวกเขา และทรงทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในเรื่องสัจธรรม และเรายังทำให้พวกเขาเป็นผู้สืบทอดในแผ่นดินชามอันทรงจำเริญภายหลังจากการล่มสลายของฟิรเอาน์ ดังที่พระองค์ทรงตรัส ว่า : "และเราได้ให้แก่กลุ่มชนที่ถูกนับว่าอ่อนแอได้รับการสืบทอดซึ่งแผ่นดินทางทิศตะวันออกและบรรดาทิศตะวันตกของมัน อันเป็นแผ่นดินที่เราได้ให้มีความจำเริญอยู่ในนั้น..."
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• الإيمان والعمل الصالح سببا النجاة من الفزع يوم القيامة.
การศรัทธาและการประกอบคุณงามความดีเป็นสาเหตุให้รอดพ้นจากความตื่นตระหนก(เหตุการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ)ในวันกิยามะฮฺ

• الكفر والعصيان سبب في دخول النار.
การปฏิเสธศรัทธาและการไม่เชื่อฟังเป็นสาเหตุของการเข้านรก

• تحريم القتل والظلم والصيد في الحرم.
ห้ามมีการฆ่า การอธรรม และการล่าสัตว์ในเขตแผ่นดินหะรอม

• النصر والتمكين عاقبة المؤمنين.
ชัยชนะและพลังอำนาจเป็นผลลัพธ์สุดท้ายสำหรับผู้ศรัทธา

وَنُمَكِّنَ لَهُمۡ فِي ٱلۡأَرۡضِ وَنُرِيَ فِرۡعَوۡنَ وَهَٰمَٰنَ وَجُنُودَهُمَا مِنۡهُم مَّا كَانُواْ يَحۡذَرُونَ
และเราปรารถนาที่จะให้พวกเขาครอบครองในแผ่นดินด้วยการทำให้พวกเขาเป็นผู้ปกครองแผ่นดินนั้น และเราจะให้ฟิรเอานฺและฮามานตลอดจนไพร่พลของเขาทั้งสองที่คอยอารักขาเขาทั้งสองในการครองราชย์ได้เห็นในสิ่งที่พวกเขากลัวนั้นคือการสูญสิ้นอำนาจของพวกเขาและจะทดแทน (ตำแหน่งของพวกเขา) ด้วยน้ำมือของลูกผู้ชายที่เป็นลูกหลานของอิสรออีล
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَوۡحَيۡنَآ إِلَىٰٓ أُمِّ مُوسَىٰٓ أَنۡ أَرۡضِعِيهِۖ فَإِذَا خِفۡتِ عَلَيۡهِ فَأَلۡقِيهِ فِي ٱلۡيَمِّ وَلَا تَخَافِي وَلَا تَحۡزَنِيٓۖ إِنَّا رَآدُّوهُ إِلَيۡكِ وَجَاعِلُوهُ مِنَ ٱلۡمُرۡسَلِينَ
และเราได้ดลใจแก่มารดาของมูซาว่า "จงให้นมแก่เขา จนกระทั่งเมื่อเจ้ากลัวว่าเขาจะถูกฟิรเอานฺและบริวารของเขาฆ่าเขา เจ้าก็จงเอาเขาใส่ลงหีบแล้วโยนลงไปในแม่น้ำไนล์ และเจ้าอย่าได้กังวลว่าเขาจะจมน้ำหรือจะถูกฟิรเอานฺฆ่า และอย่าได้เสียใจอันเนื่องจากการจากไปของเขา แท้จริงเราจะเป็นผู้ทำให้เขากลับมาหาเจ้าในสภาพที่ยังมีชีวิต และเราจะเป็นผู้ทำให้เขาเป็นรอสูลคนหนึ่งในบรรดารอสูลของอัลลอฮฺที่ถูกส่งไปยังผู้คน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَٱلۡتَقَطَهُۥٓ ءَالُ فِرۡعَوۡنَ لِيَكُونَ لَهُمۡ عَدُوّٗا وَحَزَنًاۗ إِنَّ فِرۡعَوۡنَ وَهَٰمَٰنَ وَجُنُودَهُمَا كَانُواْ خَٰطِـِٔينَ
ดังนั้นนางก็ได้ทำตามสิ่งที่เราได้ดลใจแก่นางด้วยการเอาเขาใส่ลงหีบแล้วโยนลงไปในแม่น้ำไนล์ จากนั้นบริวารของฟิรเอานฺก็ได้เก็บเขาขึ้นมา ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงสิ่งที่อัลลอฮฺทรงปรารถนาที่จะให้มูซาเป็นศัตรูกับฟิรเอานฺ แล้วอัลลอฮฺจะทรงทำให้อำนาจของฟิรเอานฺสูญสิ้นด้วยน้ำมือของมูซา แท้จริงฟิรเอานฺและรัฐมนตรีของเขาฮามานและไพร่พลของเขาทั้งสองเป็นพวกที่กระทำบาปอันเนื่องจากการฝ่าฝืน การละเมิด และบ่อนทำลายบนหน้าแผ่นดินของพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالَتِ ٱمۡرَأَتُ فِرۡعَوۡنَ قُرَّتُ عَيۡنٖ لِّي وَلَكَۖ لَا تَقۡتُلُوهُ عَسَىٰٓ أَن يَنفَعَنَآ أَوۡ نَتَّخِذَهُۥ وَلَدٗا وَهُمۡ لَا يَشۡعُرُونَ
และเมื่อฟิรเอานฺปรารถนาที่จะฆ่าเขา ภรรยาของเขาก็ได้กล่าวกับเขาว่า: "เด็กน้อยคนนี้จะเป็นที่น่ายินดีน่าชื่นชมแก่ฉันและท่าน อย่าได้ฆ่าเขาเลย บางทีเขาจะเป็นประโยชน์แก่เราเอาไว้ใช้งานหรือเรารับเขาเป็นลูกบุญธรรมก็ได้ และพวกเขาหารู้สึกตัวไม่ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้อำนาจของพวกเขาตกอยู่ในกำมือของมูซา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَصۡبَحَ فُؤَادُ أُمِّ مُوسَىٰ فَٰرِغًاۖ إِن كَادَتۡ لَتُبۡدِي بِهِۦ لَوۡلَآ أَن رَّبَطۡنَا عَلَىٰ قَلۡبِهَا لِتَكُونَ مِنَ ٱلۡمُؤۡمِنِينَ
และหัวใจของมารดามูซาได้วิตกกังวลไม่มีเรื่องใดให้คิดเลยที่เป็นเรื่องดุนยานอกจากเรื่องของมูซาซึ่งนางไม่สามารถที่จะอดทนได้ จนกระทั่งนางเกือบจะเปิดเผยว่ามูซาเป็นลูกของนาง อันเนื่องด้วยความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นที่มีต่อเขา หากเรามิได้ผูกมัดหัวใจของนางให้มั่นคงและมีความอดทน เพื่อที่นางจะได้เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ศรัทธาที่มอบหมายต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขาและเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้อดทนต่อสิ่งที่พระองค์จะทรงกำหนดไว้
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالَتۡ لِأُخۡتِهِۦ قُصِّيهِۖ فَبَصُرَتۡ بِهِۦ عَن جُنُبٖ وَهُمۡ لَا يَشۡعُرُونَ
ภายหลังจากที่มารดาของมูซาได้เอาเขาใส่ลงหีบแล้วโยนเขาลงไปในแม่น้ำไนล์แล้ว นางก็ได้กล่าวแก่พี่สาวมูซาว่า: "จงติดตามไปดูเรื่องราวของเขาเพื่อที่เจ้าจะได้รู้ว่าเขาทำอะไรบ้างแก่มูซา" ดังนั้นนาง (พี่สาวมูซา) ได้คอยเฝ้าดูเขาอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ว่านางกำลังติดตาม ทั้งฟิรเอานฺรวมถึงกลุ่มชนของเขาไม่มีใครรู้ว่านางคือพี่สาวของมูซาที่กำลังติดตามข่าวคราวของเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
۞ وَحَرَّمۡنَا عَلَيۡهِ ٱلۡمَرَاضِعَ مِن قَبۡلُ فَقَالَتۡ هَلۡ أَدُلُّكُمۡ عَلَىٰٓ أَهۡلِ بَيۡتٖ يَكۡفُلُونَهُۥ لَكُمۡ وَهُمۡ لَهُۥ نَٰصِحُونَ
ด้วยการบริหารจัดการของอัลลอฮ์ ทำมูซาได้ปฏิเสธการดื่มนมจากผู้หญิงอื่น เมื่อพี่สาวของเขาได้เห็นถึงความพยายามของพวกเขาในการหาแม่นมให้เขา นางจึงกล่าวแก่พวกเขาว่า:" เอาไหมฉันจะแนะนำชาวบ้านแก่พวกเจ้าที่สามารถให้นมเขาและเลี้ยงดูเขา และพวกเขาเป็นผู้ให้คำแนะนำอย่างดี"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَرَدَدۡنَٰهُ إِلَىٰٓ أُمِّهِۦ كَيۡ تَقَرَّ عَيۡنُهَا وَلَا تَحۡزَنَ وَلِتَعۡلَمَ أَنَّ وَعۡدَ ٱللَّهِ حَقّٞ وَلَٰكِنَّ أَكۡثَرَهُمۡ لَا يَعۡلَمُونَ
ดังนั้นเราจึงคืนมูซาให้แม่ของเขาเพื่อที่นางจะได้มีความสุขด้วยการได้เห็นเขาใกล้ ๆ และจะไม่โศกเศร้าเพราะการถูกแยกจากเขาอีก และเพื่อให้นางได้เข้าใจว่า สัญญาของอัลลอฮ์ที่จะคืนมูซาให้เขานั้นเป็นความจริง โดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ แต่ส่วนมากจากพวกเขานั้นไม่รู้ถึงสัญญานี้ และไม่มีใครสักคนรู้ว่านางเป็นแม่ของเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• تدبير الله لعباده الصالحين بما يسلمهم من مكر أعدائهم.
การจัดการของอัลลอฮ์ที่มีต่อบบรรดาบ่าวที่ดีของพระองค์ คือพระองค์จะให้พวกเขาปลอดภัยจากแผ่นการร้ายของศัตรูของพวกเขา

• تدبير الظالم يؤول إلى تدميره.
การจัดการของผู้อธรรมจะหวนกลับมาทำลายตัวของเขาเอง

• قوة عاطفة الأمهات تجاه أولادهن.
สัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่มีต่อลูกนั้นยิ่งใหญ่

• جواز استخدام الحيلة المشروعة للتخلص من ظلم الظالم.
อนุญาตให้ใช้เล่ห์เลี่ยมที่ไม่ขัดกับบทบัญญัติเพื่อขจัดความอธรรม

• تحقيق وعد الله واقع لا محالة.
สัญญาของอัลลอฮ์เป็นจริงเสมออย่างหนี้ไม่พ้น

وَلَمَّا بَلَغَ أَشُدَّهُۥ وَٱسۡتَوَىٰٓ ءَاتَيۡنَٰهُ حُكۡمٗا وَعِلۡمٗاۚ وَكَذَٰلِكَ نَجۡزِي ٱلۡمُحۡسِنِينَ
และเมื่อเขาบรรลุความเป็นหนุ่ม มีร่างกายสมบูรณ์ และมีพละกำลังเข้มแข็ง เราก็ได้มอบความเข้าใจและความรู้ในศาสนาของบนีอิสรออีลก่อนที่จะถูกแต่งตั้งเป็นนบี และดังที่เราได้ตอบแทนแก่มูซาในการเชื่อฟังของเขา เราก็จะตอบแทนแก่บรรดาผู้กระทำความดีในทุกยุคสมัย
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَدَخَلَ ٱلۡمَدِينَةَ عَلَىٰ حِينِ غَفۡلَةٖ مِّنۡ أَهۡلِهَا فَوَجَدَ فِيهَا رَجُلَيۡنِ يَقۡتَتِلَانِ هَٰذَا مِن شِيعَتِهِۦ وَهَٰذَا مِنۡ عَدُوِّهِۦۖ فَٱسۡتَغَٰثَهُ ٱلَّذِي مِن شِيعَتِهِۦ عَلَى ٱلَّذِي مِنۡ عَدُوِّهِۦ فَوَكَزَهُۥ مُوسَىٰ فَقَضَىٰ عَلَيۡهِۖ قَالَ هَٰذَا مِنۡ عَمَلِ ٱلشَّيۡطَٰنِۖ إِنَّهُۥ عَدُوّٞ مُّضِلّٞ مُّبِينٞ
และเมื่อมูซาได้เข้าไปในเมืองในช่วงเวลาที่ชาวเมืองกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านของพวกเขา ที่นั่นเขาได้เห็นผู้ชายสองคนกำลังต่อสู้กัน คนหนึ่งมาจากบนีอิสรออีลซึ่งเป็นหมู่ชนของมูซาและอีกคนมาจากกิบฏี(อียิปต์)ซึ่งเป็นหมู่ชนของฟิรเอานฺศัตรูของมูซา คนที่มาจากหมู่ชนของเขาจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือให้มีชัยเหนือศัตรูของเขาที่มาจากกิบฏี ดังนั้น มูซาได้กำมือของเขาต่อยกิบฏีอย่างแรงจนเสียชีวิต มูซาจึงกล่าวว่า:" นี่เป็นการยั่วยวนของชันฏอน แท้จริงชัยฏอนนั้นคือศัตรูอย่างชัดแจ้ง ผู้ที่ทำให้ผู้ติดตามมันนั้นหลง ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันนั้นเป็นเพราะความเป็นศัตรูของเขาที่ต้องการให้ฉันหลงทาง"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ رَبِّ إِنِّي ظَلَمۡتُ نَفۡسِي فَٱغۡفِرۡ لِي فَغَفَرَ لَهُۥٓۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلۡغَفُورُ ٱلرَّحِيمُ
มูซาได้วิงวอนสารภาพผิดต่อพระเจ้าของเขากับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเขาว่า: "ข้าแต่พระเผู้อภิบาลของฉัน แท้จริงฉันได้อธรรมต่อตัวเอง ด้วยการฆ่าชาวกิบฏีคนหนึ่ง ดังนั้น ขอพระองค์โปรดอภัยต่อบาปของฉันด้วยเถิด" ดังนั้น อัลลอฮฺได้ชี้แจงแก่เราถึงการอภัยโทษของพระองค์แก่มูซา แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยสำหรับผู้กลับเนื้อกลับตัวจากบ่าวของพระองค์และเป็นผู้ทรงเมตตาแก่พวกเขาเสมอ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ رَبِّ بِمَآ أَنۡعَمۡتَ عَلَيَّ فَلَنۡ أَكُونَ ظَهِيرٗا لِّلۡمُجۡرِمِينَ
หลังจากนั้น ต่อด้วยเรื่องราวการวิงวอนของมูซา: "ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ประทานความโปรดปรานแก่ฉันให้มีพลังเข้มแข็ง มีวิทยปัญญาและความรู้ ฉันจะไม่เป็นผู้ให้การช่วยเหลือแก่บรรดาผู้กระทำผิดที่มีต่อความผิดของพวกเขาอีกต่อไป"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَأَصۡبَحَ فِي ٱلۡمَدِينَةِ خَآئِفٗا يَتَرَقَّبُ فَإِذَا ٱلَّذِي ٱسۡتَنصَرَهُۥ بِٱلۡأَمۡسِ يَسۡتَصۡرِخُهُۥۚ قَالَ لَهُۥ مُوسَىٰٓ إِنَّكَ لَغَوِيّٞ مُّبِينٞ
ดังนั้น หลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาจากการฆ่าชาวกิบฏีนั้น ทำให้เขาอยู่ในเมืองในสภาพที่หวาดกลัวและระแวดระวังว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทันใดนั้น (เขาเห็น) คนที่เคยร้องขอให้เขาช่วยเหลือปราบศัตรูของเขาที่เป็นชาวกิบฏีเมือวานนั้น กำลังร้องขอให้เขาช่วยเหลือปราบชาวกิบฏีอีกคน มูซาจึงกล่าวแก่เขาว่า:" แท้จริงเจ้านั้นคือผู้สร้างความหายนะและหลงผิดอย่างชัดแจ้ง"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَلَمَّآ أَنۡ أَرَادَ أَن يَبۡطِشَ بِٱلَّذِي هُوَ عَدُوّٞ لَّهُمَا قَالَ يَٰمُوسَىٰٓ أَتُرِيدُ أَن تَقۡتُلَنِي كَمَا قَتَلۡتَ نَفۡسَۢا بِٱلۡأَمۡسِۖ إِن تُرِيدُ إِلَّآ أَن تَكُونَ جَبَّارٗا فِي ٱلۡأَرۡضِ وَمَا تُرِيدُ أَن تَكُونَ مِنَ ٱلۡمُصۡلِحِينَ
ดังนั้น เมื่อมูซาต้องการจะจับชาวกิบฏีคนซึ่งเป็นศัตรูของเขาและเป็นศัตรูของชาวอิสรออีล ชาวอิสรออีล (คนที่มูซาเคยช่วยชีวิตเขาไว้) คิดว่ามูซาจะทำร้ายเขาเพราะเขาได้ยินมูซากล่าวว่า: "แท้จริงเจ้านั้นเป็นผู้หลงผิดอย่างชัดแจ้ง" เขาจึงร้องออกมาว่า: "(โอ้มูซา) เจ้าต้องการจะฆ่าฉันดั่งที่เจ้าได้ฆ่าคนหนึ่งไปแล้วเมื่อวานกระนั้นหรือ เจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากเป็นผู้กดขี่ในแผ่นดินนี้ เจ้าฆ่าผู้คนและอธรรมต่อพวกเขา และเจ้าไม่ปรารถนาที่จะเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ที่สร้างความปรองดองระหว่างผู้ที่ทะเลาะกันอย่างนั่นหรือ?!"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَجَآءَ رَجُلٞ مِّنۡ أَقۡصَا ٱلۡمَدِينَةِ يَسۡعَىٰ قَالَ يَٰمُوسَىٰٓ إِنَّ ٱلۡمَلَأَ يَأۡتَمِرُونَ بِكَ لِيَقۡتُلُوكَ فَٱخۡرُجۡ إِنِّي لَكَ مِنَ ٱلنَّٰصِحِينَ
และเมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แพร่กระจาย มีชายคนหนึ่งออกมาจากชานเมืองอย่างรีบเร่งด้วยความเอ็นดูที่มีต่อมูซาจากการถูกไล่ล่า เขาจึงกล่าวว่า: "โอ้มูซา พวกเสนาบดีจากหมู่ชนฟิรเอวนฺกำลังว่างแผนที่จะฆ่าท่าน ดังนั้นท่านจงออกไปจากเมืองนี้เถิด แท้จริงฉันเป็นผู้หวังดีอีกทั้งเอ็นดูต่อท่านจากการที่ท่านจะถูกพวกเขาจับตัวไปฆ่า"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَخَرَجَ مِنۡهَا خَآئِفٗا يَتَرَقَّبُۖ قَالَ رَبِّ نَجِّنِي مِنَ ٱلۡقَوۡمِ ٱلظَّٰلِمِينَ
ดังนั้น มูซาจึงได้น้อมรับคำแนะนำของผู้ชายผู้หวังดีคนนั้น ท่านจึงได้ออกจากเมืองนั้นในสภาพที่ความกลัวได้ติดตามเขาตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง และได้วิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของเขาว่า: ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดช่วยเหลือฉันให้รอดพ้นจากหมู่ชนผู้อธรรมด้วยเถิด แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถนำภัยอันตรายใดๆ มาถึงฉันได้"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• الاعتراف بالذنب من آداب الدعاء.
ส่วนหนึ่งจากมารยาทในการขอดุอาอ์ คือ การสำนึกผิดต่อบาปที่ผ่านมา

• الشكر المحمود هو ما يحمل العبد على طاعة ربه، والبعد عن معصيته.
การสำนึกที่ดีที่น่ายกย่องนั้น คือการที่บ่าวได้เชื่อฟังเคารพภักดีต่อพระผู้อภิบาลของเขา และห่างไกลจากการเนรคุณต่อพระองค์

• أهمية المبادرة إلى النصح خاصة إذا ترتب عليه إنقاذ مؤمن من الهلاك.
ความสำคัญของรีบเร่งในการชี้นำตักเตือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งนั้นจะนำไปสู่การช่วยเหลือชีวิตผู้ศรัทธาให้พ้นจากความพินาศ

• وجوب اتخاذ أسباب النجاة، والالتجاء إلى الله بالدعاء.
จำเป็นที่จะต้องยึดหลักกฎของเหตุและผลเพื่อสู่ความความสำเร็จ และการขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺด้วยการขอดุอาอ์

وَلَمَّا تَوَجَّهَ تِلۡقَآءَ مَدۡيَنَ قَالَ عَسَىٰ رَبِّيٓ أَن يَهۡدِيَنِي سَوَآءَ ٱلسَّبِيلِ
และเมื่อเขาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองมัดยัน เขากล่าวว่า "ฉันหวังว่าพระอภิบาลของฉันจะทรงนำฉันไปสู่ทางที่ดีกว่าแล้วฉันจะไม่หลงจากมัน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَمَّا وَرَدَ مَآءَ مَدۡيَنَ وَجَدَ عَلَيۡهِ أُمَّةٗ مِّنَ ٱلنَّاسِ يَسۡقُونَ وَوَجَدَ مِن دُونِهِمُ ٱمۡرَأَتَيۡنِ تَذُودَانِۖ قَالَ مَا خَطۡبُكُمَاۖ قَالَتَا لَا نَسۡقِي حَتَّىٰ يُصۡدِرَ ٱلرِّعَآءُۖ وَأَبُونَا شَيۡخٞ كَبِيرٞ
และเมื่อเขาได้มาถึงบ่อน้ำแห่งเมืองมัดยันซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาใช้ตักน้ำ เขาได้พบคนกลุ่มหนึ่งกำลังให้น้ำแก่สัตว์เลี้ยงของพวกเขาอยู่ และนอกจากพวกเขาเหล่านี้แล้ว เขายังได้พบหญิงสองคนยืนคุมสัตว์เลี้ยงของพวกนางทั้งสองมิให้เข้าใกล้บ่อน้ำจนกว่าพวกเขาจะตักน้ำเสร็จเสียก่อน มูซาจึงถามนางทั้งสองว่า "ท่านทั้งสองมีเรื่องอะไรอยู่หรือ ทำไมไม่ตักน้ำพร้อมกับพวกเขา? นางทั้งสองตอบว่า "โดยธรรมเนียมของเรานั้น เราจะไม่รีบร้อนตักน้ำจนกว่าคนเลี้ยงแกะเหล่านั้นจะถอยออกไปเสียก่อนเพื่อป้องกันการปะปนกับพวกเขา และบิดาของเราก็เป็นคนแก่มากไม่สามารถจะมาตักน้ำได้ เราจึงต้องมาทำหน้าที่ตักน้ำให้สัตว์เลี้ยงของเราแทน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَسَقَىٰ لَهُمَا ثُمَّ تَوَلَّىٰٓ إِلَى ٱلظِّلِّ فَقَالَ رَبِّ إِنِّي لِمَآ أَنزَلۡتَ إِلَيَّ مِنۡ خَيۡرٖ فَقِيرٞ
ดังนั้น มูซาจึงได้เมตตานางทั้งสอง เขาจึงตักน้ำให้ฝูงสัตว์แทนนางทั้งสอง หลังจากนั้น เขาก็หันไปพักผ่อนในที่ร่ม และได้วิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของเขาในสิ่งที่เขาอยากได้ว่า"แท้จริงแล้ว ต่อสิ่งที่พระองค์ได้ประทานลงมาให้แก่ข้าที่เป็นความดีทั้งหลายนั้น ข้าต้องการเสมอ"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَجَآءَتۡهُ إِحۡدَىٰهُمَا تَمۡشِي عَلَى ٱسۡتِحۡيَآءٖ قَالَتۡ إِنَّ أَبِي يَدۡعُوكَ لِيَجۡزِيَكَ أَجۡرَ مَا سَقَيۡتَ لَنَاۚ فَلَمَّا جَآءَهُۥ وَقَصَّ عَلَيۡهِ ٱلۡقَصَصَ قَالَ لَا تَخَفۡۖ نَجَوۡتَ مِنَ ٱلۡقَوۡمِ ٱلظَّٰلِمِينَ
ดังนั้น เมื่อนางทั้งสองกลับถึงบ้านจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อทราบ จากนั้นเขาได้ส่งคนหนึ่งในสองคนไปหามูซา นางเดินไปด้วยความเขินอายแล้วกล่าวขึ้นว่า "แท้จริงพ่อของฉันเชิญท่านไปพบเขา เพื่อจะตอบแทนที่ช่วยตักน้ำ (ให้สัตว์) แทนพวกเรา" เมื่อมูซาได้มาหาพ่อของนางทั้งสอง มูซาก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขาก็ตอบอย่างสงบเสงี่ยมไปว่า "ท่านไม่ต้องกลัว ท่านได้หนี้ออกมาจากกลุ่มชนผู้อธรรมของฟิรเอวนฺและเสนาบดีของเขาแล้ว แท้จริงพวกเขาไม่มีอำนาจเหนือเมืองมัดยัน และพวกเขาก็ไม่สามารถมาทำร้ายท่านถึงที่นี้ได้หรอก"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَتۡ إِحۡدَىٰهُمَا يَٰٓأَبَتِ ٱسۡتَـٔۡجِرۡهُۖ إِنَّ خَيۡرَ مَنِ ٱسۡتَـٔۡجَرۡتَ ٱلۡقَوِيُّ ٱلۡأَمِينُ
หนึ่งในลูกกสาวทั้งสองได้กล่าวว่า "โอ้พ่อจ๋า รับเขาเป็นลูกจ้างสิ ไว้เลี้ยงสัตว์ของเรา เพราะเขาเป็นคนดีที่ท่านควรจะจ้างเขาไว้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่แข็งแรงและซื่อสัตย์" เพราะด้วยความแข็งแรงจะทำให้เขามีความกระตือรือร้นในหน้าที่ และด้วยความซื่อสัตย์เขาสามารถจะรักษาสิ่งที่เขาได้รับมอบหมายนั้นได้
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ إِنِّيٓ أُرِيدُ أَنۡ أُنكِحَكَ إِحۡدَى ٱبۡنَتَيَّ هَٰتَيۡنِ عَلَىٰٓ أَن تَأۡجُرَنِي ثَمَٰنِيَ حِجَجٖۖ فَإِنۡ أَتۡمَمۡتَ عَشۡرٗا فَمِنۡ عِندِكَۖ وَمَآ أُرِيدُ أَنۡ أَشُقَّ عَلَيۡكَۚ سَتَجِدُنِيٓ إِن شَآءَ ٱللَّهُ مِنَ ٱلصَّٰلِحِينَ
พ่อของนางทั้งสองได้กล่าวแก่มูซาว่า "แท้จริงฉันต้องการสมรสท่านกับลูกสาวคนหนึ่งในสองคนนี้ โดยที่สินสอดของนางคือท่านจะต้องเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของเราเป็นเวลาแปดปี ถ้าหากท่านทำครบถึงสิบปีนั้นก็เป็นความดีของท่านซึ่งไม่เป็นการบังคับใดๆ สำหรับท่าน เพราะสัญญาจ้างนั้นคือแปดปี ส่วนที่มากกว่านั้นคือความสมัครใจ และฉันไม่ต้องการที่จะเข้มงวดกับท่าน สร้างความลำบากให้ท่าน -อินชาอัลลอฮฺ- ท่านจะพบว่าฉันอยู่ในหมู่คนดีคนหนึ่งผู้ที่ให้ครบถ้วนซึ่งสัญญาและจะไม่ทำลายซึ่งพันธะสัญญา"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ ذَٰلِكَ بَيۡنِي وَبَيۡنَكَۖ أَيَّمَا ٱلۡأَجَلَيۡنِ قَضَيۡتُ فَلَا عُدۡوَٰنَ عَلَيَّۖ وَٱللَّهُ عَلَىٰ مَا نَقُولُ وَكِيلٞ
มูซาได้ตอบว่า "นั่นคือข้อสัญญาที่เราได้ตกลงระหว่างฉันกับท่าน สัญญาใดจากทั้งสองที่ฉันได้ปฏิบัติครบกำหนดจะแปดปีหรือสิบปี ถือว่าฉันได้ปฏิบัติหน้าที่ของฉันครบแล้ว ดังนั้น ท่านอย่าได้ขอให้ฉันปฏิบัติเพิ่มอีก และอัลลอฮฺทรงเป็นพยานและเป็นผู้ดูแลต่อสิ่งที่เราได้สัญญาไว้"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• الالتجاء إلى الله طريق النجاة في الدنيا والآخرة.
การยึดมั่นกับอัลลอฮฺคือแนวทางแห่งความสำเร็จในโลกนี้และโลกหน้า

• حياء المرأة المسلمة سبب كرامتها وعلو شأنها.
ความละอายของสตรีมุสลิมคือสาเหตุแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของนาง

• مشاركة المرأة بالرأي، واعتماد رأيها إن كان صوابًا أمر محمود.
การมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการแสดงออกความคิดเห็น และยอมรับมันถ้าหากว่ามันถูกต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ดีน่าชื่นชม

• القوة والأمانة صفتا المسؤول الناجح.
ความแข็งแรงและความซื่อสัตย์ สองอย่างนี้ถือเป็นคุณลักษณะของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ

• جواز أن يكون المهر منفعة.
อนุญาตให้เอาการงานที่มีประโยชน์มาเป็นสินสอดได้

۞ فَلَمَّا قَضَىٰ مُوسَى ٱلۡأَجَلَ وَسَارَ بِأَهۡلِهِۦٓ ءَانَسَ مِن جَانِبِ ٱلطُّورِ نَارٗاۖ قَالَ لِأَهۡلِهِ ٱمۡكُثُوٓاْ إِنِّيٓ ءَانَسۡتُ نَارٗا لَّعَلِّيٓ ءَاتِيكُم مِّنۡهَا بِخَبَرٍ أَوۡ جَذۡوَةٖ مِّنَ ٱلنَّارِ لَعَلَّكُمۡ تَصۡطَلُونَ
ครั้นเมื่อมูซาได้ปฏิบัติตามสัญญาครบกำหนดหนึ่งในสองคือสิบปี และเขาก็ได้ออกเดินทางพร้อมครอบครัวของเขาจากมัดยันมุ่งสู่อียิปต์ เขาก็ได้เห็นแสงไฟอยู่ข้างภูเขาฎูร เขาจึงพูดกับครอบครัวของเขาว่า "จงอยู่ที่นี่นะ แท้จริงฉันเห็นแสงไฟ บางทีฉันจะนำข่าวดีจากที่นั้นหรือเอาคบไฟสักดุ้นหนึ่งมาให้พวกเจ้าเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ทำให้อบอุ่นให้ตัวเองจากความหนาว"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَلَمَّآ أَتَىٰهَا نُودِيَ مِن شَٰطِيِٕ ٱلۡوَادِ ٱلۡأَيۡمَنِ فِي ٱلۡبُقۡعَةِ ٱلۡمُبَٰرَكَةِ مِنَ ٱلشَّجَرَةِ أَن يَٰمُوسَىٰٓ إِنِّيٓ أَنَا ٱللَّهُ رَبُّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
เมื่อมูซาได้มาถึงบริเวณที่มีแสงไฟที่เขาได้เห็นมันนั้น พระผู้อภิบาลของเขาได้เรียกเขาจากริมหุบเขาทางด้านขวาซึ่งอยู่ในบริเวณต้นไม้ที่อัลลอฮฺได้ให้ความจำเริญด้วยการสนทนากับมูซาว่า "โอ้มูซาเอ๋ย แท้จริงข้าคืออัลลอฮฺพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَنۡ أَلۡقِ عَصَاكَۚ فَلَمَّا رَءَاهَا تَهۡتَزُّ كَأَنَّهَا جَآنّٞ وَلَّىٰ مُدۡبِرٗا وَلَمۡ يُعَقِّبۡۚ يَٰمُوسَىٰٓ أَقۡبِلۡ وَلَا تَخَفۡۖ إِنَّكَ مِنَ ٱلۡأٓمِنِينَ
(และได้มีบัญชาว่า) "จงโยนไม้เท้าของเจ้าลงไป" ดังนั้น มูซาก็ได้โยนมันลงเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของพระผู้อภิบาลของเขา เมื่อมูซาเห็นมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วคล้ายกับงู เขาก็ได้หันหลังหนีออกจากมันเพราะความกลัวและไม่หันกลับมาดูอีก จากนั้นพระผู้อภิบาลของเขาได้เรียกเขา "โอ้มูซาเอ๋ย จงกลับมาเถิดและอย่าได้หวาดกลัวกับมัน แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ปลอดภัยจากมันและอื่นๆ จากสิ่งที่เจ้ากลัว"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
ٱسۡلُكۡ يَدَكَ فِي جَيۡبِكَ تَخۡرُجۡ بَيۡضَآءَ مِنۡ غَيۡرِ سُوٓءٖ وَٱضۡمُمۡ إِلَيۡكَ جَنَاحَكَ مِنَ ٱلرَّهۡبِۖ فَذَٰنِكَ بُرۡهَٰنَانِ مِن رَّبِّكَ إِلَىٰ فِرۡعَوۡنَ وَمَلَإِيْهِۦٓۚ إِنَّهُمۡ كَانُواْ قَوۡمٗا فَٰسِقِينَ
"จงเอามือขวาของเจ้าล้วงเข้าไปในอกเสื้อที่อยู่ถัดลงจากคอของเจ้า มันจะออกมาเป็นสีขาวสว่างซึ่งไม่ใช้โรคเรื้อนขาว" จากนั้นมูซาก็ได้ล้วงมือเข้าไปปรากฏว่ามันได้ออกมาเป็นแสงสีขาวสว่างเหมือนหิมะ และจงพับแขนแนบไว้กับตัวเจ้าไว้เพื่อคล้ายความตกใจของเจ้า" จากนั้นมูซาก็พับมันไว้ความรู้สึกกลัวก็ได้หายไปจากเขา สองสิ่งที่ถูกกล่าวไว้นี้ -คือไม้เท้าและมือ- เป็นหลักฐานที่ถูกส่งมาจากพระเจ้าของเจ้าไปยังฟิรเอานฺและพวกขุนนางของเขาจากหมู่ชนของเขา แท้จริงพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ออกห่างจากการเชื่อฟังอัลลอฮฺด้วยการปฏิเสธศรัทธาและกระทำบาป
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ رَبِّ إِنِّي قَتَلۡتُ مِنۡهُمۡ نَفۡسٗا فَأَخَافُ أَن يَقۡتُلُونِ
มูซาได้กล่าวแก่พระผู้อภิบาลของเขาเป็นการร้องขอว่า "แท้จริงฉันได้ฆ่าพวกเขาไปคนหนึ่ง ฉะนั้น ฉันกลัวว่าพวกเขาจะฆ่าฉัน ถ้าหากฉันได้ไปหาพวกเขาเพื่อเผยแพร่สิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานมา"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَخِي هَٰرُونُ هُوَ أَفۡصَحُ مِنِّي لِسَانٗا فَأَرۡسِلۡهُ مَعِيَ رِدۡءٗا يُصَدِّقُنِيٓۖ إِنِّيٓ أَخَافُ أَن يُكَذِّبُونِ
"และฮารูนพี่ชายของฉันเขามีความคล่องแคล่วกว่าฉันในเรื่องการพูด ดังนั้น ขอพระองค์ได้โปรดส่งเขามาพร้อมกับฉันในฐานะผู้ช่วยพูดแทนฉัน หากเกิดว่าฟิรเอานฺและหมู่ชนของเขาปฏิเสธฉัน แท้จริงฉันกลัวว่าพวกเขาจะปฏิเสธฉัน ดั่งที่เคยเกิดขึ้นกับประชาชาติอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่บรรดารอสูลได้ถูกส่งมายังพวกเขา แต่พวกเขากลับปฏิเสธบรรดาเราะสูลเหล่านั้น"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ سَنَشُدُّ عَضُدَكَ بِأَخِيكَ وَنَجۡعَلُ لَكُمَا سُلۡطَٰنٗا فَلَا يَصِلُونَ إِلَيۡكُمَا بِـَٔايَٰتِنَآۚ أَنتُمَا وَمَنِ ٱتَّبَعَكُمَا ٱلۡغَٰلِبُونَ
อัลลอฮฺได้กล่าวตอบรับดุอาอ์ของมูซาโดยพระองค์ได้กล่าวว่า "เราจะทำให้เจ้า -โอ้มูซาเอ๋ย- เข้มแข็งด้วยการส่งพี่ชายของเจ้าพร้อมกับเจ้าในฐานะผู้ช่วย และเราจะทำให้เจ้าทั้งสองมีอำนาจ ดังนั้น พวกเขาไม่มีทางจะเข้าไปถึงเพื่อทำร้ายเจ้าทั้งสองได้ ด้วยสัญญาณทั้งหลายของเราที่เราได้มอบไว้แก่พวกเจ้านั้น เจ้าทั้งสองและผู้ติดตามเจ้าจากบรรดาผู้ศรัทธาจะเป็นผู้ชนะ"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• الوفاء بالعقود شأن المؤمنين.
การปฏิบัติตามสัญญาคือคุณลักษณะของผู้ศรัทธา

• تكليم الله لموسى عليه السلام ثابت على الحقيقة.
การสนทนาของอัลลอฮฺที่มีต่อมูซา อะลัยฮิสสะลาม เป็นปรากฏการณ์ที่เป็นจริง

• حاجة الداعي إلى الله إلى من يؤازره.
ผู้ที่เชิญชวนสู่อัลลอฮฺจำเป็นที่จะต้องมีผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือ

• أهمية الفصاحة بالنسبة للدعاة.
สำคัญมากสำหรับนักดาดียฺที่จะต้องมีทักษะการพูดที่คล่องแคล่ว

فَلَمَّا جَآءَهُم مُّوسَىٰ بِـَٔايَٰتِنَا بَيِّنَٰتٖ قَالُواْ مَا هَٰذَآ إِلَّا سِحۡرٞ مُّفۡتَرٗى وَمَا سَمِعۡنَا بِهَٰذَا فِيٓ ءَابَآئِنَا ٱلۡأَوَّلِينَ
หลังจากที่มูซา ได้มาหาพวกเขาพร้อมกับสัญญาณต่างๆของเราที่ชัดแจ้ง พวกเขากล่าวว่า: "นี่ไม่ใช่อะไรนอกจากความเท็จที่มูซาประดิษฐ์ขึ้นมา และเราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในหมู่บรรพบุรุษของเรามาก่อนเลย”
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالَ مُوسَىٰ رَبِّيٓ أَعۡلَمُ بِمَن جَآءَ بِٱلۡهُدَىٰ مِنۡ عِندِهِۦ وَمَن تَكُونُ لَهُۥ عَٰقِبَةُ ٱلدَّارِۚ إِنَّهُۥ لَا يُفۡلِحُ ٱلظَّٰلِمُونَ
มูซากล่าวแก่ฟิรเอานฺว่า "พระผู้อภิบาลของฉันทรงรู้ดีถึงผู้ที่มากับทางนำจากพระองค์ และยังทรงรู้ดีอีกว่าใครจะได้รับที่พำนักที่ดีในบั้นปลาย แท้จริงพวกอธรรมนั้นจะไม่ประสบกับความสำเร็จในสิ่งที่พวกเขาปรารถนาและจะไม่รอดพ้นจากความหวาดกลัวที่พวกเขามี"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالَ فِرۡعَوۡنُ يَٰٓأَيُّهَا ٱلۡمَلَأُ مَا عَلِمۡتُ لَكُم مِّنۡ إِلَٰهٍ غَيۡرِي فَأَوۡقِدۡ لِي يَٰهَٰمَٰنُ عَلَى ٱلطِّينِ فَٱجۡعَل لِّي صَرۡحٗا لَّعَلِّيٓ أَطَّلِعُ إِلَىٰٓ إِلَٰهِ مُوسَىٰ وَإِنِّي لَأَظُنُّهُۥ مِنَ ٱلۡكَٰذِبِينَ
ฟิรเอานฺได้กล่าวแก่เสนาบดีจากหมู่ชนของเขาว่า "โอ้เสนาบดีทั้งหลาย ฉันไม่เคยรู้จักสิ่งที่ถูกกราบไหว้มาก่อน (พระเจ้า) ของพวกเจ้านอกจากฉัน โอ้ฮามานเอ๋ย จงเผาอิฐไว้ให้ฉันจนกว่ามันจะแข็งแกร่ง แล้วจงสร้างหอคอยที่สูงให้ฉันเพื่อที่ฉันจะได้ขึ้นไปยืนดูพระเจ้าของมูซา เพราะแท้จริงฉันคิดว่ามูซาเป็นผู้โกหกต่อสิ่งที่เขาอ้าง ว่าเขาเป็นผู้ที่ถูกส่งมาจากอัลลอฮฺมายังฉันและหมู่ชนของฉัน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَٱسۡتَكۡبَرَ هُوَ وَجُنُودُهُۥ فِي ٱلۡأَرۡضِ بِغَيۡرِ ٱلۡحَقِّ وَظَنُّوٓاْ أَنَّهُمۡ إِلَيۡنَا لَا يُرۡجَعُونَ
ความยโสโอหังของฟิรเอานฺและไพร่พลของเขายิ่งทวีคูณเรื่อยๆ ในแผ่นดินอียิปต์อย่างไม่มีสิทธิ์ในความชอบธรรม พวกเขาปฏิเสธวันแห่งการฟื้นคืนชีพ และพวกเขาคิดว่า แท้จริงพวกเขาจะไม่ถูกนำกลับไปยังเราในวันกิยามะฮฺเพื่อคิดบัญชีและทำโทษ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَأَخَذۡنَٰهُ وَجُنُودَهُۥ فَنَبَذۡنَٰهُمۡ فِي ٱلۡيَمِّۖ فَٱنظُرۡ كَيۡفَ كَانَ عَٰقِبَةُ ٱلظَّٰلِمِينَ
ดังนั้น เราได้เอาชีวิตของพวกเขาแล้วโยนพวกเขาให้จมลงอยู่ในทะเลจนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดได้พินาศลง "ดังนั้นจงไตร่ตรองเถิด -โอ้รอสูลเอ๋ย- ว่าชะตากรรมของพวกอธรรมเป็นเช่นไร ซึ่งแท้จริงชะตากรรมของพวกเขาและบั้นปลายของพวกเขาคือความพินาศ"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَجَعَلۡنَٰهُمۡ أَئِمَّةٗ يَدۡعُونَ إِلَى ٱلنَّارِۖ وَيَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِ لَا يُنصَرُونَ
และเราได้ทำให้พวกเขาเป็นแบบอย่างสำหรับเหล่าบรรดาผู้ละเมิดผู้หลงทั้งหลายทางที่เชิญชวนผู้คนไปสู่ไฟนรกด้วยการเผยแพร่การปฏิเสธศรัทธาและแนวทางที่ไม่เที่ยงตรง และในวันกิยามะฮฺพวกเขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากการลงโทษ ยิ่งกว่านั้นการลงโทษจะยิ่งทวีคูณเรื่อยๆ แก่พวกเขาเพราะความชั่วที่พวกเขาได้ปฏิบัติเอาไว้ และพวกเขายังได้เชิญชวนสู่หนทางที่ผิด พวกเขาถูกบันทึกบาปที่พวกเขาได้กระทำไว้และบาปของผู้ที่ปฏิบัติตามพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَتۡبَعۡنَٰهُمۡ فِي هَٰذِهِ ٱلدُّنۡيَا لَعۡنَةٗۖ وَيَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِ هُم مِّنَ ٱلۡمَقۡبُوحِينَ
และเราได้ติดตามพวกเขาในโลกดุนยาด้วยความอัปยศและถูกขับออกจากความเมตตา เหล่านั้นเพื่อเป็นการเพิ่มการลงโทษให้แก่พวกเขา และในกิยามะฮฺพวกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ถูกติเตียนที่ห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮฺ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَقَدۡ ءَاتَيۡنَا مُوسَى ٱلۡكِتَٰبَ مِنۢ بَعۡدِ مَآ أَهۡلَكۡنَا ٱلۡقُرُونَ ٱلۡأُولَىٰ بَصَآئِرَ لِلنَّاسِ وَهُدٗى وَرَحۡمَةٗ لَّعَلَّهُمۡ يَتَذَكَّرُونَ
แท้จริงเราได้ประทานคัมภีร์เตารอตแก่มูซา หลังจากที่เราได้ส่งบรรดารอสูลของเราไปยังชนรุ่นก่อนๆ แล้วพวกเขาก็ได้ปฏิเสธไม่เชื่อฟังบรรดารอสูลเหล่านั้น ดังนั้น เราจึงได้ทำให้พวกเขาพินาศเพราะการปฏิเสธของพวกเขาที่มีต่อบรรดารอสูล ในการนี้ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ปวงมนุษย์ในสิ่งที่ให้ประโยชน์แล้วพวกเขาจะได้ปฏิบัติตามมัน และประจักษ์แจ้งในสิ่งที่ให้โทษแล้วพวกเขาจะได้ละทิ้งมัน และเพื่อเป็นแนวทาในการชี้นำพวกเขาสู่ความดี และเพื่อเป็นความเมตตาทั้งในโลกนี้และโลกหน้า โดยหวังว่าพวกเขาจะรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็จะขอบคุณและศรัทธาต่อพระองค์
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• رَدُّ الحق بالشبه الواهية شأن أهل الطغيان.
การตอบโต้สัจธรรมด้วยสิ่งที่คุลมเครือคือคุณลักษณะของพวกกดขี่ (ผู้ละเมิด)

• التكبر مانع من اتباع الحق.
ความหยิ่งยโสเป็นสิ่งกีดขวางมิให้ปฏิบัติตามสัจธรรม

• سوء نهاية المتكبرين من سنن رب العالمين.
ผลลัพธ์ที่ไม่ดีสำหรับบรรดาผู้หยิ่งยโสนั้นคือกฎที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้

• للباطل أئمته ودعاته وصوره ومظاهره.
สำหรับความเท็จนั้น จะมีผู้นำของมัน ผู้เชิญชวน รูปลักษณ์ของมัน และลักษณะที่เปิดเผยของมัน

وَمَا كُنتَ بِجَانِبِ ٱلۡغَرۡبِيِّ إِذۡ قَضَيۡنَآ إِلَىٰ مُوسَى ٱلۡأَمۡرَ وَمَا كُنتَ مِنَ ٱلشَّٰهِدِينَ
และเจ้า -โอ้รอสูลเอ๋ย- ไม่ได้อยู่ทางด้านภูเขาฝั่งทิศตะวันตกขณะที่เราได้กำหนดบทบัญญัติแก่มูซาด้วยการส่งเขาไปยังฟิรเอานฺและเสนาบดีของเขา และเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในหมู่ผู้เห็นเหตุการณ์จนเจ้าสามารถรับรู้ถึงเรื่องราวเหล่านั้น แล้วได้สาธยายเล่าเรื่องต่อแก่ผู้คน แท้จริง เรื่องราวที่เจ้าเล่ากันนั้นมันคือวะห์ยุจากอัลลอฮฺที่ประทานมายังเจ้า
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَٰكِنَّآ أَنشَأۡنَا قُرُونٗا فَتَطَاوَلَ عَلَيۡهِمُ ٱلۡعُمُرُۚ وَمَا كُنتَ ثَاوِيٗا فِيٓ أَهۡلِ مَدۡيَنَ تَتۡلُواْ عَلَيۡهِمۡ ءَايَٰتِنَا وَلَٰكِنَّا كُنَّا مُرۡسِلِينَ
แต่ทว่าเราได้บังเกิดประชาชาติอีกมากมายหลังจากมูซา แล้วเวลาก็ได้ยืดยาวพวกเขาไปนานจนกระทั่งพวกเขาได้ลืมพันธสัญญาของอัลลอฮฺ และเจ้าก็ไม่ได้อยู่ร่วมกับชาวมัดยัดเพื่อที่จะอ่านโองการของเราให้พวกเขาฟัง แต่เราต่างหากที่ได้ส่งเจ้ามา แล้วเราก็ได้มอบวะห์ยุแก่เจ้าถึงเรื่องราวของมูซาและความเป็นอยู่ของเขาที่เมืองมัดยันแก่เจ้า แล้วเจ้าก็ได้สาธยายเล่าเรื่องต่อแก่ผู้คน (ชาวมักกะฮฺ) ตามที่อัลลอฮฺได้วะห์ยุแก่เจ้าในเรื่องนั้น
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَمَا كُنتَ بِجَانِبِ ٱلطُّورِ إِذۡ نَادَيۡنَا وَلَٰكِن رَّحۡمَةٗ مِّن رَّبِّكَ لِتُنذِرَ قَوۡمٗا مَّآ أَتَىٰهُم مِّن نَّذِيرٖ مِّن قَبۡلِكَ لَعَلَّهُمۡ يَتَذَكَّرُونَ
และเจ้ามิได้อยู่ข้างภูเขาฏูรเมื่อตอนที่เราได้เรียกมูซาและได้วะห์ยุแก่เขา จนเจ้าสามารถสาธยายเล่าเรื่องเหล่านั้นได้ แต่ทว่าเราได้ส่งเจ้ามาเพื่อเป็นความเมตตาจากพระผู้อภิบาลของเจ้าแก่ปวงมนุษย์ ดังนั้น เราจึงได้วะห์ยุเรื่องราวเหล่านั้นแก่เจ้า เพื่อเจ้าจะได้ตักเตือนกลุ่มชนหนึ่งที่มิได้มีรอสูลถูกส่งมายังพวกเขาก่อนหน้าเจ้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ตรึกตรอง แล้วศรัทธาต่อสิ่งที่เจ้าได้นำมายังพวกเขาจากอัลลอฮฺ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَوۡلَآ أَن تُصِيبَهُم مُّصِيبَةُۢ بِمَا قَدَّمَتۡ أَيۡدِيهِمۡ فَيَقُولُواْ رَبَّنَا لَوۡلَآ أَرۡسَلۡتَ إِلَيۡنَا رَسُولٗا فَنَتَّبِعَ ءَايَٰتِكَ وَنَكُونَ مِنَ ٱلۡمُؤۡمِنِينَ
และหากมิใช่เพราะเคราะห์กรรมหนึ่งที่ได้ประสบแก่พวกเขาอันเนื่องมาจากการปฏิเสธศรัทธาและการกระทำบาป พวกเขาจะอ้างเหตุผลว่า: "ไฉนเล่าพระองค์จึงไม่ส่งรอสูลมายังพวกเรา แล้วเราจะได้ปฏิบัติตามโองการทั้งหลายของพระองค์ และเราจะได้อยู่ในหมู่ผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระผู้อภิบาลของพวกเขา" หากมิฉะนั้นแล้วเราจะลงโทษพวกเขาอย่างฉับพลัน แต่เราได้ประวิงเวลาให้แก่พวกเขาจนกว่ารอสูลจะถูกบังเกิดมายังพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَلَمَّا جَآءَهُمُ ٱلۡحَقُّ مِنۡ عِندِنَا قَالُواْ لَوۡلَآ أُوتِيَ مِثۡلَ مَآ أُوتِيَ مُوسَىٰٓۚ أَوَلَمۡ يَكۡفُرُواْ بِمَآ أُوتِيَ مُوسَىٰ مِن قَبۡلُۖ قَالُواْ سِحۡرَانِ تَظَٰهَرَا وَقَالُوٓاْ إِنَّا بِكُلّٖ كَٰفِرُونَ
ครั้นเมื่อมูหัมมัดได้มายังชาวกุเรชด้วยการประกาศตนเป็นรอสูลจากพระผู้อภิบาลของเขา พวกเขาได้ถามชาวยิวเกี่ยวกับเรื่องนั้น ดังนั้นชาวยิวได้สอนพวกเขาโดยให้ถามกลับไปว่า: "ไฉนเล่ามูหัมมัดไม่ได้รับเหมือนอย่างที่มูซาได้รับจากโองการทั้งหลายที่บ่งบอกว่าเขานั้นเป็นรอสูลมาจากพระเจ้าของเขา เช่น มือ (ที่ขาวสว่าง )และไม้เท้า (ที่กลายรูปเป็นงู)" จงตอบกลับพวกเขาเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- ว่า: "ชาวยิวได้ปฏิเสธสิ่งที่มูซาเคยได้รับก่อนหน้านี้มิใช่หรือ?!" และพวกเขาได้กล่าวว่า: "ทั้งคัมภีร์อัตเตารอตและคัมภีร์อัลกุรอาน ทั้งสองนั้นคือเวทมนตร์ที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน และเราเป็นผู้ปฏิเสธไม่เชื่อถือคัมภีร์ทั้งสอง?!"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قُلۡ فَأۡتُواْ بِكِتَٰبٖ مِّنۡ عِندِ ٱللَّهِ هُوَ أَهۡدَىٰ مِنۡهُمَآ أَتَّبِعۡهُ إِن كُنتُمۡ صَٰدِقِينَ
จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด -โอ้รอสูลเอ๋ย- ว่า: "พวกท่านจงนำคัมภีร์ที่ถูกประทานลงมาจากอัลลอฮฺสักเล่มหนึ่งที่ถูกต้องกว่าคัมภีร์อัตเตารอตและคัมภีร์อัลกุรอาน ดังนั้น เมื่อพวกท่านได้นำมันมา ฉันจะได้ปฏิบัติตามมัน หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริงในสิ่งที่พวกท่านกล่าวอ้างว่าคัมภีร์อัลกุรอานและคัมภีร์อัตเตารอตคือเวทมนตร์"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَإِن لَّمۡ يَسۡتَجِيبُواْ لَكَ فَٱعۡلَمۡ أَنَّمَا يَتَّبِعُونَ أَهۡوَآءَهُمۡۚ وَمَنۡ أَضَلُّ مِمَّنِ ٱتَّبَعَ هَوَىٰهُ بِغَيۡرِ هُدٗى مِّنَ ٱللَّهِۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهۡدِي ٱلۡقَوۡمَ ٱلظَّٰلِمِينَ
หากชาวกุเรชไม่ตอบสนองสิ่งที่เจ้าได้เรียกร้องพวกเขาให้นำคัมภีร์ที่ถูกต้องกว่าคัมภีร์อัตเตารอตและคัมภีร์อัลอัลกุรอาน ก็พึ่งมั่นใจเถิดว่า การปฏิเสธคัมภีร์ทั้งสองของพวกเขานั้นใช่ว่าด้วยเหตุผล หากแต่เป็นการปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ และไม่มีผู้ใดจะหลงผิดยิ่งไปกว่าผู้ที่ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำโดยปราศจากแนวทางที่ถูกต้องจากอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่กลุ่มชนผู้อธรรมต่อตัวเองที่ปฏิเสธไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• نفي علم الغيب عن رسول الله صلى الله عليه وسلم إلَّا ما أطلعه الله عليه.
ปฏิเสธถึงการรู้เรื่องเร้นลับสำหรับท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นอกจากสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงเปิดเผยให้แก่เขา

• اندراس العلم بتطاول الزمن.
การสูญหายของความรู้เกิดขึ้นได้เนื่องจากระยะเวลาที่ยาวนาน

• تحدّي الكفار بالإتيان بما هو أهدى من وحي الله إلى رسله.
การท้าทายของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยการให้พวกเขานำสิ่งที่ถูกต้องกว่าวะห์ยุที่อัลลอฮฺได้ประทานให้แก่บรรดารอสูลของพระองค์

• ضلال الكفار بسبب اتباع الهوى، لا بسبب اتباع الدليل.
การหลงจากความถูกต้องของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเกิดจากการปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ ไม่ใช่เพราะปฏิบัติตามหลักฐาน

۞ وَلَقَدۡ وَصَّلۡنَا لَهُمُ ٱلۡقَوۡلَ لَعَلَّهُمۡ يَتَذَكَّرُونَ
และแท้จริงเราได้อธิบายคำดำรัสของเรา (อัลกุรอาน) แก่บรรดามุชริก (ผู้ตั้งภาคี) และชาวยิวจากบนีอิสรออีลด้วยการสาธยายเรื่องราวประชาชาติต่างๆ ในอดีตและการลงโทษที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเมื่อครั้งที่พวกเขาปฏิเสธบรรดารอสูลของเรา โดยหวังว่าพวกเขาจะได้สำนึกจากเรื่องราวเหล่านั้น จากนั้นพวกเขาจะได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ แล้วพวกเขาจะรอดจากสิ่งที่คนในอดีตเคยประสบมา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
ٱلَّذِينَ ءَاتَيۡنَٰهُمُ ٱلۡكِتَٰبَ مِن قَبۡلِهِۦ هُم بِهِۦ يُؤۡمِنُونَ
บรรดาผู้ที่ยืนหยัดศรัทธาต่อคัมภีร์อัตเตารอตก่อนการประทานคัมภีร์อัลกุรอานลงมานั้น พวกเขาต่างศรัทธาต่อคัมภีร์อัลกุรอาน เพราะพวกเขาพบว่าเรื่องราวเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานและคุณลักษณะของมันนั้นมีกล่าวในคัมภีร์ของพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَإِذَا يُتۡلَىٰ عَلَيۡهِمۡ قَالُوٓاْ ءَامَنَّا بِهِۦٓ إِنَّهُ ٱلۡحَقُّ مِن رَّبِّنَآ إِنَّا كُنَّا مِن قَبۡلِهِۦ مُسۡلِمِينَ
และเมื่ออัลกุรอานได้ถูกอ่านแก่พวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า:"เราศรัทธาต่อมัน แท้จริงมันคือสัจธรรมที่ลงมาจากพระผู้อภิบาลของเราซึ่งไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในนั้น แท้จริงก่อนที่อัลกุรอานจะถูกประทานลงมา เราได้เป็นผู้นอบน้อม (มุสลิม) มาก่อนนี้แล้ว เพราะการศรัทธาของเราที่มีต่อสิ่งที่บรรดารอสูลได้นำมาก่อนหน้าอัลกุรอาน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
أُوْلَٰٓئِكَ يُؤۡتَوۡنَ أَجۡرَهُم مَّرَّتَيۡنِ بِمَا صَبَرُواْ وَيَدۡرَءُونَ بِٱلۡحَسَنَةِ ٱلسَّيِّئَةَ وَمِمَّا رَزَقۡنَٰهُمۡ يُنفِقُونَ
พวกเขาที่มีคุณลักษณะข้างต้น อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนผลบุญที่มีต่อการงานของพวกเขาถึงสองครั้ง เนื่องจากพวกเขายืนยันศรัทธาต่อคัมภีร์ของพวกเขา และต่อนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่จะถูกส่งมา และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยการงานที่ดีแทน และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เราได้ประทานเป็นเครื่องยังชีพแก่พวกเขา พวกเขาก็ใช้จ่ายไปในทางที่ดี
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَإِذَا سَمِعُواْ ٱللَّغۡوَ أَعۡرَضُواْ عَنۡهُ وَقَالُواْ لَنَآ أَعۡمَٰلُنَا وَلَكُمۡ أَعۡمَٰلُكُمۡ سَلَٰمٌ عَلَيۡكُمۡ لَا نَبۡتَغِي ٱلۡجَٰهِلِينَ
บรรดาผู้ศรัทธาจากชาวคัมภีร์เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดที่ไร้สาระ พวกเขาก็จะผินหลังออกห่างโดยไม่หันกลับไปอีก และกล่าวว่า "การงานของเราก็จะได้แก่เรา และการงานของพวกท่านก็จะได้แก่พวกท่าน พวกท่านปลอดภัยและจะไม่ได้ยินการด่าและความเสียหายที่มาจากเรา ซึ่งเราจะไม่ขอร่วมเป็นมิตรกับพวกโง่เขลางมงายเพราะมีแต่สิ่งที่ไม่ดีและอันตรายที่มีต่อศาสนาและต่อโลกนี้"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
إِنَّكَ لَا تَهۡدِي مَنۡ أَحۡبَبۡتَ وَلَٰكِنَّ ٱللَّهَ يَهۡدِي مَن يَشَآءُۚ وَهُوَ أَعۡلَمُ بِٱلۡمُهۡتَدِينَ
แท้จริงเจ้า -โอ้รอสูลเอ๋ย- "ไม่สามารถที่จะทำให้ผู้ใดที่เจ้ารักได้รับทางนำได้ เช่น อบู ฏอลิบ และท่านอื่นๆ โดยให้พวกเขาได้ศรัทธา แต่อัลลอฮฺเท่านั้นจะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ได้รับทางนำ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่ง ว่าใครบ้างคือผู้ที่จะได้รับทางนำที่ถูกต้อง"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالُوٓاْ إِن نَّتَّبِعِ ٱلۡهُدَىٰ مَعَكَ نُتَخَطَّفۡ مِنۡ أَرۡضِنَآۚ أَوَلَمۡ نُمَكِّن لَّهُمۡ حَرَمًا ءَامِنٗا يُجۡبَىٰٓ إِلَيۡهِ ثَمَرَٰتُ كُلِّ شَيۡءٖ رِّزۡقٗا مِّن لَّدُنَّا وَلَٰكِنَّ أَكۡثَرَهُمۡ لَا يَعۡلَمُونَ
บรรดาผู้ตั้งภาคีชาวมักกะฮฺที่ไม่ยอมปฏิบัติตามและศรัทธาต่ออิสลามได้กล่าวว่า: "ถ้าพวกเราปฏิบัติตามอิสลามที่เจ้าได้นำเอามานี้ ศัตรูของเราจะฉุดกระชากพวกเราออกจากแผ่นดินของพวกเราอย่างแน่นอน" แล้วเรา (อัลลอฮฺ) มิได้ตั้งหลักแหล่งแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีในเขตหวงห้ามอันปลอดภัยจากการนองเลือดและกดขี่หรอกหรือ ซึ่งพวกเขาจะได้รับความปลอดภัยจากการบุกรุก และผลไม้ทุกชนิดจะถูกนำมายังที่นั้นเพื่อเป็นปัจจัยยังชีพที่มาจากเราแก่พวกเขา แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานให้แก่พวกเขา แล้วพวกเขาจะได้ขอบคุณพระองค์ต่อสิ่งนั้น
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَكَمۡ أَهۡلَكۡنَا مِن قَرۡيَةِۭ بَطِرَتۡ مَعِيشَتَهَاۖ فَتِلۡكَ مَسَٰكِنُهُمۡ لَمۡ تُسۡكَن مِّنۢ بَعۡدِهِمۡ إِلَّا قَلِيلٗاۖ وَكُنَّا نَحۡنُ ٱلۡوَٰرِثِينَ
และกี่เมื่องแล้วที่ได้ฝ่าฝืนต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ด้วยการบริโภคอย่างสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่เป็นบาปและเนรคุณ ดังนั้นเราได้ลงโทษด้วยการทำลายล้างบ้านเรือนจนหมด ที่พำนักของพวกเขานั้นได้กลายเป็นซาก ซึ่งผู้คนจะเดินผ่านมันโดยไม่มีใครพักอาศัยหลังจากนั้นเลยเว้นแต่เพียงเล็กน้อยจากนักเดินทาง (พำนักชั่วคราว) และเราเป็นผู้สืบทอดบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและผู้ที่อาศัยอยู่ในระหว่างทั้งสอง
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَمَا كَانَ رَبُّكَ مُهۡلِكَ ٱلۡقُرَىٰ حَتَّىٰ يَبۡعَثَ فِيٓ أُمِّهَا رَسُولٗا يَتۡلُواْ عَلَيۡهِمۡ ءَايَٰتِنَاۚ وَمَا كُنَّا مُهۡلِكِي ٱلۡقُرَىٰٓ إِلَّا وَأَهۡلُهَا ظَٰلِمُونَ
และพระผู้อภิบาลของเจ้า -โอ้รอสูลเอ๋ย- มิได้เป็นผู้ทำลายเมืองใดจนกว่าพระองค์จะตักเตือนชาวเมืองนั้นด้วยการแต่งตั้งรอสูลขึ้นมาในเมื่องใหญ่นั้น ดั่งการแต่งตั้งเจ้าให้เป็นรอสูลในเมืองหลวงนี้ (มักกะฮฺ) และเราจะไม่ทำลายชาวเมืองที่ยึดมั่นบนแนวทางที่ถูกต้อง หากแต่เราจะทำลายพวกเขา หากพวกเขาเป็นผู้อธรรมด้วยการปฏิเสธศรัทธาและกระทำบาป
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• فضل من آمن من أهل الكتاب بالنبي محمد صلى الله عليه وسلم، وأن له أجرين.
ความประเสริฐของชาวคัมภีร์ที่ศรัทธาต่อนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยที่เขาจะได้รับผลตอบแทนถึงสองครั้ง

• هداية التوفيق بيد الله لا بيد غيره من الرسل وغيرهم.
การชี้นำสู่การยอมรับเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺเท่านั้น หาใช่บรรดารอสูลและบุคคลอื่นๆ ไม่

• اتباع الحق وسيلة للأمن لا مَبْعث على الخوف كما يدعي المشركون.
การปฏิบัติตามสัจธรรมคือวิธีสู่ความสันติ ซึ่งมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความวิตก ตามคำกล่าวอ้างของบรรดามุชริกแต่อย่างใด

• خطر الترف على الفرد والمجتمع.
ความอันตรายของการฟุ่มเฟือยที่ส่งผลต่อปัจเจกบุคคลและสังคม

• من رحمة الله أنه لا يهلك الناس إلا بعد الإعذار إليهم بإرسال الرسل.
ส่วนหนึ่งจากความเมตตาของอัลลอฮฺ พระองค์จะไม่ทรงทำลายหมู่ชนใด นอกจากภายหลังที่ได้มีการตักเตือนไปยังพวกเขาด้วยการส่งบรรดารอสูล

وَمَآ أُوتِيتُم مِّن شَيۡءٖ فَمَتَٰعُ ٱلۡحَيَوٰةِ ٱلدُّنۡيَا وَزِينَتُهَاۚ وَمَا عِندَ ٱللَّهِ خَيۡرٞ وَأَبۡقَىٰٓۚ أَفَلَا تَعۡقِلُونَ
และสิ่งใดที่พระเจ้าของเจ้าได้มอบให้แก่พวกเจ้า มันเป็นเพียงสิ่งที่พวกเจ้าจะใช้เสพสุขและใช้ประดับประดาแค่ในโลกนี้เท่านั้น หลังจากนั้นมันจะสูญสลายพินาศไป ส่วนผลตอบแทนของอัลลอฮฺในโลกหน้านั้นดีกว่าและยั่งยืนกว่าในโลกนี้ พวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญสิ่งนั้นหรอกหรือ แล้วพวกเจ้ายังจะยึดเอาสิ่งที่พินาศเหนือสิ่งที่ยั่งยืนกระนั้นหรือ?!
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
أَفَمَن وَعَدۡنَٰهُ وَعۡدًا حَسَنٗا فَهُوَ لَٰقِيهِ كَمَن مَّتَّعۡنَٰهُ مَتَٰعَ ٱلۡحَيَوٰةِ ٱلدُّنۡيَا ثُمَّ هُوَ يَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِ مِنَ ٱلۡمُحۡضَرِينَ
ระหว่างผู้ที่เราได้ให้สัญญาในวันอาคิเราะฮ์ด้วยสวรรค์และความสุขสำราญตลอดกาล จะเหมือนกับผู้ที่เราได้ให้ปัจจัยความสุขสบายแก่เขาในโลกนี้ หลังจากนั้นในโลกหน้าเขาจะเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกต้อนไปยังไฟนรกญะฮันนัมกระนั่นหรือ?!
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَيَوۡمَ يُنَادِيهِمۡ فَيَقُولُ أَيۡنَ شُرَكَآءِيَ ٱلَّذِينَ كُنتُمۡ تَزۡعُمُونَ
และ (จงรำลึก) วันที่พระเจ้าของพวกเขาทรงเรียกพวกเขาโดยกล่าวว่า "ไหนเล่าเหล่าภาคีของข้าที่พวกเจ้าเคารพภักดีต่อมันอื่นจากข้า และพวกเจ้าอ้างว่ามันคือภาคีของข้า?!"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قَالَ ٱلَّذِينَ حَقَّ عَلَيۡهِمُ ٱلۡقَوۡلُ رَبَّنَا هَٰٓؤُلَآءِ ٱلَّذِينَ أَغۡوَيۡنَآ أَغۡوَيۡنَٰهُمۡ كَمَا غَوَيۡنَاۖ تَبَرَّأۡنَآ إِلَيۡكَۖ مَا كَانُوٓاْ إِيَّانَا يَعۡبُدُونَ
บรรดาผู้ที่เชิญชวนสู่การปฏิเสธศรัทธา เมื่อการลงโทษจะเกิดขึ้นแก่พวกเขา ได้กล่าวว่า "ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา พวกเขาเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่เราทำให้พวกเขาหลง เช่นเดียวกับที่เราได้หลงผิดเอง เราขอจากพระองค์ให้ห่างไกลจากพวกเขา ซึ่งพวกเขามิได้เคารพภักดีต่อเราหรอก แต่พวกเขาเคารพภักดีชัยฏอนต่างหาก
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقِيلَ ٱدۡعُواْ شُرَكَآءَكُمۡ فَدَعَوۡهُمۡ فَلَمۡ يَسۡتَجِيبُواْ لَهُمۡ وَرَأَوُاْ ٱلۡعَذَابَۚ لَوۡ أَنَّهُمۡ كَانُواْ يَهۡتَدُونَ
และได้มีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า "จงร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าภาคีของพวกเจ้าซิ แล้วพวกเขาก็ได้ร้องขอต่อพวกมัน แต่พวกมันไม่ขานรับต่อการร้องขอของพวกเขา และพวกเขาได้เห็นการลงโทษที่ถูกเตรียมไว้สำหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาต่างก็คาดหวังอย่างลมๆแล้งๆว่า หากพวกเขาคือผู้ที่ได้รับทางนำที่ถูกต้องในโลกดุนยาที่แล้วก็คงจะดี
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَيَوۡمَ يُنَادِيهِمۡ فَيَقُولُ مَاذَآ أَجَبۡتُمُ ٱلۡمُرۡسَلِينَ
และในวันที่พระผู้อภิบาลของพวกเขาทรงเรียกพวกเขา โดยกล่าวว่า "พวกเจ้าได้โต้ตอบอะไรไปบ้างแก่บรรดารอสูลของข้าที่ข้าได้ส่งพวกเขาไปยังพวกเจ้า?"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَعَمِيَتۡ عَلَيۡهِمُ ٱلۡأَنۢبَآءُ يَوۡمَئِذٖ فَهُمۡ لَا يَتَسَآءَلُونَ
(ในวันนั้น) ข้อแก้ตัวต่างๆ ได้ถูกปิดบังนึกอะไรไม่ออก และพวกเขาก็ไม่สามารถจะปรึกษาหารือระหว่างกันได้ เนื่องด้วยความหน้ากลัวที่ต้องเผชิญ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าจะถูกนำไปสู่การลงโทษอย่างแน่นอน
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَأَمَّا مَن تَابَ وَءَامَنَ وَعَمِلَ صَٰلِحٗا فَعَسَىٰٓ أَن يَكُونَ مِنَ ٱلۡمُفۡلِحِينَ
ส่วนบรรดาผู้ตั้งภาคีที่สำนึกผิด (เตาบัต) จากการปฏิเสธศรัทธา แล้วหันมาศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อบรรดารอสูลของพระองค์ และประกอบคุณงามความดี ก็หวังว่าเขาจะเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ที่ได้รับความสำเร็จด้วยสิ่งที่พวกเขาปรารถนา และรอดพ้นจากสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัว
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَرَبُّكَ يَخۡلُقُ مَا يَشَآءُ وَيَخۡتَارُۗ مَا كَانَ لَهُمُ ٱلۡخِيَرَةُۚ سُبۡحَٰنَ ٱللَّهِ وَتَعَٰلَىٰ عَمَّا يُشۡرِكُونَ
และพระผู้อภิบาลของเจ้า -โอ้รอสูลเอ๋ย- จะทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงเลือกผู้ใดก็ตามให้เคารพภักดีและเป็นนบีของพระองค์ สำหรับบรรดาผู้ตั้งภาคีไม่มีสิทธิ์ในการเลือกที่จะทำให้พวกเขาสามารถขัดขวางความประสงค์ของอัลลอฮฺ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺจากสิ่งที่พวกเขาเคารพนับถือตั้งภาคีกับพระองค์
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَرَبُّكَ يَعۡلَمُ مَا تُكِنُّ صُدُورُهُمۡ وَمَا يُعۡلِنُونَ
และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นทรงรอบรู้สิ่งที่ทรวงอกของพวกเขาซ่อนเร้นและสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย ไม่มีสิ่งใดจะซ่อนเร้นต่อพระองค์จากสิ่งดังกล่าวได้ และพระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขาต่อการกระทำของพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَهُوَ ٱللَّهُ لَآ إِلَٰهَ إِلَّا هُوَۖ لَهُ ٱلۡحَمۡدُ فِي ٱلۡأُولَىٰ وَٱلۡأٓخِرَةِۖ وَلَهُ ٱلۡحُكۡمُ وَإِلَيۡهِ تُرۡجَعُونَ
และพระองค์คืออัลลอฮฺ ไม่มีสิ่งที่ถูกเคารพภักดีที่แท้จริงนอกไปจากพระองค์ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นของพระองค์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และการชี้ขาดนั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น และยังพระองค์เท่านั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะถูกนำกลับไปในวันกิยามะฮฺเพื่อทำการสอบสวนและตอบแทน
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• العاقل من يؤثر الباقي على الفاني.
ผู้ที่มีสติปัญญาเขาจะเลือกเอาสิ่งที่คงอยู่ตลอดกาลเหนือสิ่งที่ชั่วคราว

• التوبة تَجُبُّ ما قبلها.
การเตาบัต (การสำนึกตัว) มันจะลบล้าง (สิ่งที่ไม่ดี) ในอดีตที่ผ่านมา

• الاختيار لله لا لعباده، فليس لعباده أن يعترضوا عليه.
การเลือกนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺเท่านั้นหาใช่ของบ่าว ฉะนั้นบ่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะมาคัดค้าน

• إحاطة علم الله بما ظهر وما خفي من أعمال عباده.
ความรู้ของอัลลอฮฺครอบคลุมทุกๆ การงานของบ่าว ทั้งที่เปิดเผยและที่เร้นลับ

قُلۡ أَرَءَيۡتُمۡ إِن جَعَلَ ٱللَّهُ عَلَيۡكُمُ ٱلَّيۡلَ سَرۡمَدًا إِلَىٰ يَوۡمِ ٱلۡقِيَٰمَةِ مَنۡ إِلَٰهٌ غَيۡرُ ٱللَّهِ يَأۡتِيكُم بِضِيَآءٍۚ أَفَلَا تَسۡمَعُونَ
จงกล่าวเถิด -โอ้รอสูลเอ๋ย- แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีว่า "พวกท่านบอกฉันมาหน่อยว่า หากอัลลอฮฺได้ทำให้เวลากลางคืนมีอยู่ตลอดไปแก่พวกท่านจนถึงวันกิยามะฮฺ จะมีสิ่งที่ถูกเคารพภักดีองค์ใดเล่านอกไปจากอัลลอฮฺที่จะนำแสงสว่างมายังพวกท่านเฉกเช่นแสงสว่างของเวลากลางวัน? แล้วพวกท่านยังจะไม่รับฟังหลักฐานต่างๆ นี้ดูบ้างหรือ พวกท่านก็รู้ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺที่จะนำแสงสว่างนั้นมายังพวกท่าน?!
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
قُلۡ أَرَءَيۡتُمۡ إِن جَعَلَ ٱللَّهُ عَلَيۡكُمُ ٱلنَّهَارَ سَرۡمَدًا إِلَىٰ يَوۡمِ ٱلۡقِيَٰمَةِ مَنۡ إِلَٰهٌ غَيۡرُ ٱللَّهِ يَأۡتِيكُم بِلَيۡلٖ تَسۡكُنُونَ فِيهِۚ أَفَلَا تُبۡصِرُونَ
จงกล่าวเถิด -โอ้รอสูลเอ๋ย- แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีว่า พวกท่านบอกฉันมาหน่อยว่า หากอัลลอฮฺทรงทำให้เวลากลางวันมีอยู่ตลอดไปแก่พวกท่านจนถึงวันกิยามะฮฺ จะมีสิ่งที่ถูกเคารพภักดีองค์ใดเล่านอกจากอัลลอฮฺที่จะนำกลางคืนมายังพวกท่านเพื่อพวกท่านจะได้พักผ่อนจากการทำงานเหน็ดเหนือยในเวลากลางวัน? แล้วพวกท่านยังจะไม่พินิจพิจารณาไตร่ตรองหลักฐานต่างๆ นี้ดูบ้างหรือ พวกท่านก็รู้ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรแก่การกราบไว้นอกจากอัลลอฮฺ พระองค์ผู้ที่นำสิ่งเหล่านั้นมาทั้งหมด?
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَمِن رَّحۡمَتِهِۦ جَعَلَ لَكُمُ ٱلَّيۡلَ وَٱلنَّهَارَ لِتَسۡكُنُواْ فِيهِ وَلِتَبۡتَغُواْ مِن فَضۡلِهِۦ وَلَعَلَّكُمۡ تَشۡكُرُونَ
และส่วนหนึ่งจากความเมตตาของพระองค์ คือ พระองค์ได้ทรงทำให้มีกลางคืนที่มืดมิดสำหรับพวกท่าน -โอ้ปวงมนุษย์เอ๋ย- เพื่อที่พวกท่านจะได้พักผ่อนในเวลานั้น หลังจากเสร็จสิ้นจากการทำงานในเวลากลางวัน และพระองค์ได้ทรงทำให้มีกลางวันที่สว่างเพื่อที่พวกท่านจะได้แสวงหาปัจจัยยังชีพในเวลานั้น และหวังว่าพวกท่านจะขอบคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อพวกท่าน และไม่เนรคุณต่อความโปรดปรานนั้น
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَيَوۡمَ يُنَادِيهِمۡ فَيَقُولُ أَيۡنَ شُرَكَآءِيَ ٱلَّذِينَ كُنتُمۡ تَزۡعُمُونَ
และ (จงรำลึก) วันที่พระผู้อภิบาลของพวกเขาได้เรียกพวกเขา "ไหนเล่าบรรดาสิ่งที่เป็นภาคีของข้าที่พวกเจ้าเคารพสักการะพวกมันอื่นจากข้า และพวกเจ้าได้คิดว่าพวกมันคือภาคีของข้า?
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَنَزَعۡنَا مِن كُلِّ أُمَّةٖ شَهِيدٗا فَقُلۡنَا هَاتُواْ بُرۡهَٰنَكُمۡ فَعَلِمُوٓاْ أَنَّ ٱلۡحَقَّ لِلَّهِ وَضَلَّ عَنۡهُم مَّا كَانُواْ يَفۡتَرُونَ
และเราได้นำบรรดานบีมาจากทุกๆ ประชาชาติเพื่อเป็นพยานยืนยันถึงสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาและไม่ยอมรับความจริง แล้วเราได้กล่าวแก่บรรดาผู้ปฏิเสธเหล่านั้นจากประชาตินั้นๆ ว่า "จงนำข้อพิสูจน์และหลักฐานต่างๆ เพื่อยืนยันถึงสิ่งที่พวกเจ้ายึดมั่นจากการปฏิเสธศรัทธาและไม่ยอมรับความจริง และแล้วข้อพิสูจน์ต่างๆ ของพวกเขาได้ถูกตัดขาดไปและพวกเขาก็มั่นใจว่าสัจธรรมนั้นเป็นของอัลลอฮฺโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ และเหล่าภาคีของพระองค์ -มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ -ที่พวกเขาได้ประดิษฐ์ขึ้นมานั้นได้สูญหายไปจากพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
۞ إِنَّ قَٰرُونَ كَانَ مِن قَوۡمِ مُوسَىٰ فَبَغَىٰ عَلَيۡهِمۡۖ وَءَاتَيۡنَٰهُ مِنَ ٱلۡكُنُوزِ مَآ إِنَّ مَفَاتِحَهُۥ لَتَنُوٓأُ بِٱلۡعُصۡبَةِ أُوْلِي ٱلۡقُوَّةِ إِذۡ قَالَ لَهُۥ قَوۡمُهُۥ لَا تَفۡرَحۡۖ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُحِبُّ ٱلۡفَرِحِينَ
แท้จริงกอรูนเป็นคนหนึ่งจากหมู่ชนของมูซา อะลัยฮิสสะลาม แล้วเขาได้หยิ่งยโสต่อผู้คนเหล่านั้น และเราได้ประทานทรัพย์สมบัติอันมากมายแก่เขา จนกระทั่งคนที่แข็งแรงกลุ่มหนึ่งยังแบกกุญแจคลังสมบัติของเขาไม่ไหว ครั้งเมื่อพวกพ้องของเขาได้กล่าวแก่เขาว่า "เจ้าจงอย่าดีใจอย่างผู้ทะนงตน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺไม่ชอบผู้ที่ดีใจอย่างผู้ที่ทะนงตัวหยิ่งผยอง ยิ่งกว่านั้นพระองค์ทรงโกรธและจะลงโทษพวกเขาเหล่านั้น"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَٱبۡتَغِ فِيمَآ ءَاتَىٰكَ ٱللَّهُ ٱلدَّارَ ٱلۡأٓخِرَةَۖ وَلَا تَنسَ نَصِيبَكَ مِنَ ٱلدُّنۡيَاۖ وَأَحۡسِن كَمَآ أَحۡسَنَ ٱللَّهُ إِلَيۡكَۖ وَلَا تَبۡغِ ٱلۡفَسَادَ فِي ٱلۡأَرۡضِۖ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُحِبُّ ٱلۡمُفۡسِدِينَ
และจงแสวงหาด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานให้แก่ท่านจากทรัพย์สมบัติต่างๆ เพื่อผลบุญในโลกหน้า ทั้งนี้ด้วยการบริจาคไปในทางที่ดี และจงอย่าลืมส่วนของท่านในโลกนี้ เช่น การกิน ดื่ม อาภรณ์ และอื่นๆ โดยอย่าสุรุ่ยสุร่ายและโอ้อวด และจงทำความดีต่ออัลลอฮฺและต่อผู้อื่นอย่างที่อัลลอฮฺได้ทรงทำดีต่อท่าน และจงอย่าก่อความเสียหายบนหน้าแผ่นดินด้วยการทำบาปและเนรคุณไม่เชื่อฟัง แท้จริงอัลลอฮฺไม่ชอบบรรดาผู้ก่อความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน ยิ่งกว่านั้นพระองค์ทรงเกรี้ยวพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• تعاقب الليل والنهار نعمة من نعم الله يجب شكرها له.
การสลับเปลี่ยนของกลางคืนและกลางวันคือความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอบคุณพระองค์

• الطغيان كما يكون بالرئاسة والملك يكون بالمال.
การละเมิดการกดขี่นอกจากจะมีสาเหตุมาจากอำนาจด้านการปกครองแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากทรัพย์สินเงินทองอีกด้วย

• الفرح بَطَرًا معصية يمقتها الله.
การมีความสุขอย่างทะนงตนนั้นถือว่าเป็นการทำบาปที่อัลลอฮฺทรงโกรธ

• ضرورة النصح لمن يُخاف عليه من الفتنة.
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการตักเตือนแก่ผู้ที่กลัวว่าฟิตนะฮฺจะประสบกับเขา

• بغض الله للمفسدين في الأرض.
ความโกรธของอัลลอฮฺที่มีต่อบรรดาผู้บ่อนทำลายบนหน้าแผ่นดิน

قَالَ إِنَّمَآ أُوتِيتُهُۥ عَلَىٰ عِلۡمٍ عِندِيٓۚ أَوَلَمۡ يَعۡلَمۡ أَنَّ ٱللَّهَ قَدۡ أَهۡلَكَ مِن قَبۡلِهِۦ مِنَ ٱلۡقُرُونِ مَنۡ هُوَ أَشَدُّ مِنۡهُ قُوَّةٗ وَأَكۡثَرُ جَمۡعٗاۚ وَلَا يُسۡـَٔلُ عَن ذُنُوبِهِمُ ٱلۡمُجۡرِمُونَ
กอรูนได้กล่าวว่า "แท้จริงทรัพย์สมบัติเหล่านี้ ฉันได้มันมาด้วยความรู้และความสามารถที่ฉันมี ฉันจึงมีสิทธิ์ในสิ่งนั้น" เขา (กอรูน) ไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺได้ทรงทำลายหมู่ชนก่อนหน้าเขาที่มีอำนาจยิ่งกว่าและมีทรัพย์สมบัติที่มากกว่า? อำนาจและทรัพย์สมบัติของพวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลย และในวันปรโลกบรรดาผู้กระทำความผิดจะไม่ถูกสอบถามเกี่ยวกับบาปของพวกเขาเพราะอัลลอฮฺทรงรอบรู้ถึงสิ่งนั้น ดังนั้นการสอบถามในวันนั้นเป็นการสอบถามในเชิงดูถูกและตำหนิ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَخَرَجَ عَلَىٰ قَوۡمِهِۦ فِي زِينَتِهِۦۖ قَالَ ٱلَّذِينَ يُرِيدُونَ ٱلۡحَيَوٰةَ ٱلدُّنۡيَا يَٰلَيۡتَ لَنَا مِثۡلَ مَآ أُوتِيَ قَٰرُونُ إِنَّهُۥ لَذُو حَظٍّ عَظِيمٖ
ดังนั้น (วันหนึ่ง) กอรูนได้ออกไปหาพวกพ้องพร้อมด้วยเครื่องประดับอย่างหรูหรา บรรดาผู้ที่มีความโลภในเครื่องประดับแห่งชีวิตโลกนี้ ได้กล่าวว่า "ถ้าเราได้รับอย่างที่กอรูนได้รับก็คงจะดี แท้จริงกอรูนช่างเป็นผู้มีโชควาสนายิ่งใหญ่จริงๆ"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَقَالَ ٱلَّذِينَ أُوتُواْ ٱلۡعِلۡمَ وَيۡلَكُمۡ ثَوَابُ ٱللَّهِ خَيۡرٞ لِّمَنۡ ءَامَنَ وَعَمِلَ صَٰلِحٗاۚ وَلَا يُلَقَّىٰهَآ إِلَّا ٱلصَّٰبِرُونَ
และบรรดาผู้ได้รับความรู้เมื่อพวกเขาเห็นความโอ่อาหรูหราของกอรูนและได้ยินความปรารถนาของพวกพ้องของเขาที่อยากมีอย่างที่กอรูนมี ได้กล่าว่า "ความวิบัติจะเกิดแก่พวกท่าน การตอบแทนของอัลลอฮฺที่ได้ตระเตรียมไว้สำหรับผู้ศรัทธาที่ประกอบคุณงามความดีในโลกหน้านั้นย่อมดีกว่าสิ่งที่กอรูนได้รับในโลกนี้ และไม่มีผู้ใดจะสมหวังในผลตอบแทนนี้นอกจากบรรดาผู้อดทนที่จำนนต่อผลตอบแทนอันชั่วคราวในโลกนี้ที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้ให้พวกเขา"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
فَخَسَفۡنَا بِهِۦ وَبِدَارِهِ ٱلۡأَرۡضَ فَمَا كَانَ لَهُۥ مِن فِئَةٖ يَنصُرُونَهُۥ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَمَا كَانَ مِنَ ٱلۡمُنتَصِرِينَ
ดังนั้น เราจึงให้เขา (กอรูน) ร่วมถึงที่พักอาศัยของเขาและผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นถูกสูบจมลงไปในแผ่นดินเพื่อเป็นการลงโทษที่มีต่อความหยิ่งผยองของเขา ดังนั้นไม่มีกลุ่มไหนจะสามารถช่วยเหลือเขาได้นอกจากอัลลอฮฺ และเขาก็ไม่ใช่ผู้ที่สามรถช่วยเหลือตัวเขาเองได้เช่นกัน
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَأَصۡبَحَ ٱلَّذِينَ تَمَنَّوۡاْ مَكَانَهُۥ بِٱلۡأَمۡسِ يَقُولُونَ وَيۡكَأَنَّ ٱللَّهَ يَبۡسُطُ ٱلرِّزۡقَ لِمَن يَشَآءُ مِنۡ عِبَادِهِۦ وَيَقۡدِرُۖ لَوۡلَآ أَن مَّنَّ ٱللَّهُ عَلَيۡنَا لَخَسَفَ بِنَاۖ وَيۡكَأَنَّهُۥ لَا يُفۡلِحُ ٱلۡكَٰفِرُونَ
และบรรดาผู้ที่ปรารถนาในทรัพย์สมบัติและเครื่องประดับเยี่ยงกอรูนก่อนที่มันจะถูกสูบจมลงไปในแผ่นดินต่างกล่าวด้วยความเสียใจว่า "พึงทราบเถิด เราไม่รู้หรือว่า อัลลอฮ์ทรงประทานปัจจัยยังชีพอย่างกว้างขวางและทรงจำกัดมันแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์?! หากไม่ใช่ความปรานีของอัลลอฮ์ที่มีต่อเรา ดังนั้นพระองค์จึงไม่ทรงลงโทษเราในสิ่งที่เราได้พูดไป แน่นอนพระองค์ก็จะทรงให้เราจมลงไปในแผ่นดินเช่นเดียวกับกอรูนด้วย แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะไม่ประสบกับความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ยิ่งกว่านั้น บั้นปลายชีวิตของพวกเขาจะพบแต่ความขาดทุน"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
تِلۡكَ ٱلدَّارُ ٱلۡأٓخِرَةُ نَجۡعَلُهَا لِلَّذِينَ لَا يُرِيدُونَ عُلُوّٗا فِي ٱلۡأَرۡضِ وَلَا فَسَادٗاۚ وَٱلۡعَٰقِبَةُ لِلۡمُتَّقِينَ
ที่พำนักแห่งโลกหน้านั้น เราได้เตรียมมันไว้เป็นสถานที่แห่งการเสพสุขและมีเกียรติสำหรับบรรดาผู้ที่ไม่แสวงความหยิ่งผยองในแผ่นดินและไม่ก่อความเสียหาย และบั้นปลายที่ดีนั้นคือสิ่งที่มีอยู่ในสวรรค์ที่เป็นความสุขต่างๆ และในนั้นความพอพระทัยของอัลลอฮฺจะมีแด่บรรดาผู้ยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเขาด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์สั่งใช้และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์สั่งห้าม
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
مَن جَآءَ بِٱلۡحَسَنَةِ فَلَهُۥ خَيۡرٞ مِّنۡهَاۖ وَمَن جَآءَ بِٱلسَّيِّئَةِ فَلَا يُجۡزَى ٱلَّذِينَ عَمِلُواْ ٱلسَّيِّـَٔاتِ إِلَّا مَا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
ผู้ใดที่มาพร้อมกับความดีในวันกิยามะฮฺ เช่น ละหมาด ซะกาต ศิยาม และอื่นๆ เขาก็จะได้รับการตอบแทนที่ดีกว่าความดีนั้น โดยจะได้รับการเพิ่มพูนถึงสิบเท่า ส่วนผู้ใดที่มาพร้อมกับความชั่ว เช่น การปฏิเสธการศรัทธา กินดอกเบี้ย ผิดประเวณี และอื่นๆ พวกเขาจะไม่ได้รับการตอบแทน นอกจากตามที่พวกเขาได้กระทำไว้โดยไม่มีการเพิ่มใดๆ
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• كل ما في الإنسان من خير ونِعَم، فهو من الله خلقًا وتقديرًا.
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่กับมนุษย์ที่เป็นความดีหรือความสุขต่างๆ ล้วนแล้วมาจากอัลลอฮฺทั้งสิ้นทั้งชนิดและปริมาณ

• أهل العلم هم أهل الحكمة والنجاة من الفتن؛ لأن العلم يوجه صاحبه إلى الصواب.
บรรดาผู้ที่มีความรู้คือบรรดาผู้ที่มีวิทยปัญญาและเป็นผู้ทีรอดจากฟิตนะฮฺต่างๆ เพราะความรู้จะนำพวกเขาไปสู่ในสิ่งที่ถูกต้อง

• العلو والكبر في الأرض ونشر الفساد عاقبته الهلاك والخسران.
การทะนงตนบนหน้าแผ่นดินและการเผยแพร่สิ่งที่ไม่ดีผลลัพธ์ของมันนั้นคือความพินาศและขาดทุน

• سعة رحمة الله وعدله بمضاعفة الحسنات للمؤمن وعدم مضاعفة السيئات للكافر.
ความกว้างขวางของความเมตตาของอัลลอฮฺและความยุติธรรมของพระองค์ด้วยการทวีคุณความดีต่างๆ แก่ผู้ศรัทธาและไม่ทวีคุณความชั่วต่างๆ ของผู้ปฏิเสธศรัทธา

إِنَّ ٱلَّذِي فَرَضَ عَلَيۡكَ ٱلۡقُرۡءَانَ لَرَآدُّكَ إِلَىٰ مَعَادٖۚ قُل رَّبِّيٓ أَعۡلَمُ مَن جَآءَ بِٱلۡهُدَىٰ وَمَنۡ هُوَ فِي ضَلَٰلٖ مُّبِينٖ
แท้จริงผู้ที่ประทานอัลกุรอานให้แก่เจ้า ทรงบัญญัติให้เจ้าเผยแพร่มัน และทรงให้เจ้าปฏิบัติตามบทบัญญัติของมันนั้น พระองค์จะทรงนำเจ้ากลับไปยังมักกะฮฺอย่างผู้ชนะอย่างแน่นอน จงกล่าวเถิด -โอ้รอสูลเอ๋ย- "พระผู้อภิบาลของฉันทรงรู้ดียิ่งว่าผู้ใดอยู่ในแนวทางที่ถูกต้องและผู้ใดอยู่ในการหลงผิดที่ชัดแจ้ง"
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَمَا كُنتَ تَرۡجُوٓاْ أَن يُلۡقَىٰٓ إِلَيۡكَ ٱلۡكِتَٰبُ إِلَّا رَحۡمَةٗ مِّن رَّبِّكَۖ فَلَا تَكُونَنَّ ظَهِيرٗا لِّلۡكَٰفِرِينَ
และเจ้า -โอ้รอสูลเอ๋ย- ก่อนที่จะเป็นนบีไม่เคยหวังเลยว่า อัลกุรอานที่เป็นวะห์ยุจากอัลลอฮฺจะถูกประทานลงมาแก่เจ้า แต่ด้วยความเมตตาจากพระองค์ที่เลือกให้แก่เจ้า ดังนั้น เจ้าอย่าเป็นผู้ให้การช่วยเหลือแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในความหลงผิดของพวกเขา
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَا يَصُدُّنَّكَ عَنۡ ءَايَٰتِ ٱللَّهِ بَعۡدَ إِذۡ أُنزِلَتۡ إِلَيۡكَۖ وَٱدۡعُ إِلَىٰ رَبِّكَۖ وَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلۡمُشۡرِكِينَ
และจงอย่าปล่อยให้บรรดามุชริกหันเหเจ้าออกจากโองการทั้งหลายของอัลลอฮฺหลังจากที่มันได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้าแล้ว จนทำให้เจ้าละทิ้งที่จะอ่านและเผยแพร่มัน และจงเชิญชวนผู้คนสู่การศรัทธาต่ออัลลอฮฺและเชื่อในเอกภาพของพระองค์ และปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ และเจ้าอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคีที่เคารพภักดีสิ่งอื่นร่วมกับอัลลอฮฺ แต่จงเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺที่ไม่เคารพสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺพระองค์เดียว
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
وَلَا تَدۡعُ مَعَ ٱللَّهِ إِلَٰهًا ءَاخَرَۘ لَآ إِلَٰهَ إِلَّا هُوَۚ كُلُّ شَيۡءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجۡهَهُۥۚ لَهُ ٱلۡحُكۡمُ وَإِلَيۡهِ تُرۡجَعُونَ
และเจ้าอย่าได้เคารพภักดีสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ ซึ่งไม่มีสิ่งที่ถูกเคารพภักดีที่แท้จริงนอกจากพระองค์ ทุกสิ่งจะพินาศสิ้นนอกจากพระพักตร์ของพระองค์ การชี้ขาดนั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น พระองค์จะทรงชี้ขาดด้วยสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และยังพระองค์เท่านั้นที่พวกท่านจะถูกนำกลับไปในวันกิยามะฮฺเพื่อสอบสวนและตอบแทน
আৰবী তাফছীৰসমূহ:
এই পৃষ্ঠাৰ আয়াতসমূহৰ পৰা সংগৃহীত কিছুমান উপকাৰী তথ্য:
• النهي عن إعانة أهل الضلال.
ไม่อนุญาตให้การช่วยเหลือแก่ผู้ที่หลงผิด

• الأمر بالتمسك بتوحيد الله والبعد عن الشرك به.
การกำชับให้ยึดมั่นกับเอกภาพของอัลลอฮฺ และออกห่างจากการตั้งภาคีกับพระองค์

• ابتلاء المؤمنين واختبارهم سُنَّة إلهية.
บททดสอบที่มีต่อบรรดาผู้ศรัทธาคือกำหนดการของพระเจ้า (อัลลอฮฺ)

• غنى الله عن طاعة عبيده.
อัลลอฮ์นั้นทรงมั่งมีไม่จำเป็นต้องพึ่งการเชื่อฟังของบ่าวของพระองค์

 
অৰ্থানুবাদ ছুৰা: ছুৰা আল-ক্বাচাচ
ছুৰাৰ তালিকা পৃষ্ঠা নং
 
আল-কোৰআনুল কাৰীমৰ অৰ্থানুবাদ - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم - অনুবাদসমূহৰ সূচীপত্ৰ

الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم، صادر عن مركز تفسير للدراسات القرآنية.

বন্ধ