Firo maanaaji al-quraan tedduɗo oo - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم * - Tippudi firooji ɗii


Firo maanaaji Simoore: Simoore hoodere   Aaya:

An-Najm

Ina jeyaa e payndaale simoore ndee:
إثبات صدق الوحي وأنه من عند الله.
ยืนยันความสัจจริงของวะฮ์ยู ว่ามาจากอัลลอฮ์

وَٱلنَّجۡمِ إِذَا هَوَىٰ
อัลลอฮฺผู้ทรงบริสุทธิ์ได้สาบานต่อดวงดาวเมื่อยามที่มันคล้อยตกลงมา
Faccirooji aarabeeji:
مَا ضَلَّ صَاحِبُكُمۡ وَمَا غَوَىٰ
ท่านเราะสูล มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม มิได้หลงผิดจากแนวทางแห่งทางนำ และมิได้เป็นผู้มีความเชื่อที่ผิดๆ แต่เขาเป็นผู้มีคุณธรรมต่างหาก
Faccirooji aarabeeji:
وَمَا يَنطِقُ عَنِ ٱلۡهَوَىٰٓ
และเขามิได้พูดเกี่ยวกับอัลกุรอ่านด้วยการตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของเขา
Faccirooji aarabeeji:
إِنۡ هُوَ إِلَّا وَحۡيٞ يُوحَىٰ
อัลกุรอ่าน (ที่เขาพูดถึง) นี้มิใช่อื่นใดนอกจากวะห์ยูที่อัลลอฮฺประทานลงมาให้แก่เขาโดยผ่านญิบรีล อลัยฮิสสลาม
Faccirooji aarabeeji:
عَلَّمَهُۥ شَدِيدُ ٱلۡقُوَىٰ
มลาอิกะฮฺญิบรีลผู้มีพลังอำนาจมากมายได้สอนเขา
Faccirooji aarabeeji:
ذُو مِرَّةٖ فَٱسۡتَوَىٰ
และญิบรีล อลัยฮิสสลาม ผู้มีรูปร่างสวยงาม แล้วเขาจึงปรากฏต่อหน้านบี ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ในรูปแบบที่อัลลอฮฺทรงสร้างเขามา
Faccirooji aarabeeji:
وَهُوَ بِٱلۡأُفُقِ ٱلۡأَعۡلَىٰ
ขณะที่ญิบรีลอยู่บนฟากฟ้าอันสูงสุด
Faccirooji aarabeeji:
ثُمَّ دَنَا فَتَدَلَّىٰ
จากนั้นญิบรีล อลัยฮิสสลาม ได้เข้ามาใกล้นบี ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม และเข้ามาใกล้จนชิด
Faccirooji aarabeeji:
فَكَانَ قَابَ قَوۡسَيۡنِ أَوۡ أَدۡنَىٰ
จนความใกล้ของเขาอยู่ในระยะระหว่างปลายคันธนูทั้งสอง หรือใกล้กว่านั้นอีก
Faccirooji aarabeeji:
فَأَوۡحَىٰٓ إِلَىٰ عَبۡدِهِۦ مَآ أَوۡحَىٰ
แล้วญิบรีลก็ได้นำวะห์ยูให้แก่บ่าวของพระองค์ มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งวะห์ยูต่างๆ
Faccirooji aarabeeji:
مَا كَذَبَ ٱلۡفُؤَادُ مَا رَأَىٰٓ
จิตใจของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม มิได้ปฏิเสธสิ่งที่เขาได้เห็นด้วยตาของเขา
Faccirooji aarabeeji:
أَفَتُمَٰرُونَهُۥ عَلَىٰ مَا يَرَىٰ
แล้วพวกเจ้า โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ จะโต้เถียงกับเขาในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ให้เขาเห็นในค่ำคืนอิสรออฺกระนั้นหรือ?!
Faccirooji aarabeeji:
وَلَقَدۡ رَءَاهُ نَزۡلَةً أُخۡرَىٰ
และโดยแน่นอน มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ได้เห็นญิบรีลในรูปแบบที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่งในค่ำคืนอิสรออฺ
Faccirooji aarabeeji:
عِندَ سِدۡرَةِ ٱلۡمُنتَهَىٰ
ณ ที่ต้นพุทราอันไกลโพ้น ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่มากอยู่บนชั้นฟ้าที่เจ็ด
Faccirooji aarabeeji:
عِندَهَا جَنَّةُ ٱلۡمَأۡوَىٰٓ
ณ ที่ต้นไม้นั้น คือสรวงสวรรค์อันเป็นที่พำนัก
Faccirooji aarabeeji:
إِذۡ يَغۡشَى ٱلسِّدۡرَةَ مَا يَغۡشَىٰ
ขณะที่มีสิ่งอันยิ่งใหญ่มาปกคลุมต้นพุทราโดยเป็นพระบัญชาของอัลลอฮฺที่ไม่มีใครรู้ถึงแก่นแท้ของมันนอกจากอัลลอฮฺ
Faccirooji aarabeeji:
مَا زَاغَ ٱلۡبَصَرُ وَمَا طَغَىٰ
สายตาของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม มิได้เหลือบแลไปทางขวาและซ้าย และมิได้ล่วงเกินที่ถูกกำหนดให้แก่เขา
Faccirooji aarabeeji:
لَقَدۡ رَأَىٰ مِنۡ ءَايَٰتِ رَبِّهِ ٱلۡكُبۡرَىٰٓ
โดยแน่นอน ในค่ำคืนเมียะอฺรอจ มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ได้เห็นสัญญาณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเขาที่บ่งบอกถึงอำนาจความสามารถต่างๆ ของพระองค์ ซึ่งเขาได้เห็นสวรรค์ นรก และอื่นๆ
Faccirooji aarabeeji:
أَفَرَءَيۡتُمُ ٱللَّٰتَ وَٱلۡعُزَّىٰ
โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ พวกเจ้ามิได้เห็นรูปเจว็ดต่างๆ ที่พวกเจ้าเคารพสักการะมันนอกจากอัลลอฮฺ เช่น อัลลาต และอัลอุซซา
Faccirooji aarabeeji:
وَمَنَوٰةَ ٱلثَّالِثَةَ ٱلۡأُخۡرَىٰٓ
และรูปที่สามที่ชื่อ มะนาต (ก็เช่นเดียวกัน) จงบอกแก่ฉันทีเถิดว่า รูปเจว็ดเหล่านั้นมีอำนาจให้พวกเจ้าได้รับประโยชน์และรับโทษไหม?!
Faccirooji aarabeeji:
أَلَكُمُ ٱلذَّكَرُ وَلَهُ ٱلۡأُنثَىٰ
โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ พวกเจ้าเอาบุตรชายที่พวกเจ้ารักเป็นของพวกเจ้า และเอาบุตรสาวที่พวกเจ้ารังเกียจเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงบริสุทธิ์กระนั้นหรือ?!
Faccirooji aarabeeji:
تِلۡكَ إِذٗا قِسۡمَةٞ ضِيزَىٰٓ
การแบ่งประเภทที่พวกเจ้าแบ่งกันตามอารมณ์ชั่วช้าของพวกเจ้านั้น มันเป็นการแบ่งที่ไม่ยุติธรรม
Faccirooji aarabeeji:
إِنۡ هِيَ إِلَّآ أَسۡمَآءٞ سَمَّيۡتُمُوهَآ أَنتُمۡ وَءَابَآؤُكُم مَّآ أَنزَلَ ٱللَّهُ بِهَا مِن سُلۡطَٰنٍۚ إِن يَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّ وَمَا تَهۡوَى ٱلۡأَنفُسُۖ وَلَقَدۡ جَآءَهُم مِّن رَّبِّهِمُ ٱلۡهُدَىٰٓ
รูปเจว็ดต่างๆ เหล่านี้มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นชื่อที่ไร้ซึ่งความหมาย มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคุณลักษณะแห่งการเป็นพระเจ้า เป็นชื่อที่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ตั้งขึ้นมาเอง โดยที่อัลลอฮฺมิได้ทรงประทานหลักฐานใดๆ ลงมาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย บรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺมิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดในเรื่องความเชื่อของพวกเขานอกจากเป็นการคาดคะเน และสิ่งที่อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาปรารถนาจากสิ่งที่ชัยฏอน (มารร้าย) ได้ประดับประดาในจิตใจของพวกเขา และแน่นอนทางนำที่มาจากพระเจ้าของพวกเขาที่นำโดยนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ได้มายังพวกเขาแล้ว แต่พวกเขากลับไม่รับทางนำนั้น
Faccirooji aarabeeji:
أَمۡ لِلۡإِنسَٰنِ مَا تَمَنَّىٰ
หรือว่าเป็นสิทธิ์ของมนุษย์ที่จะได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนา เช่น การช่วยเหลือของรูปเจว็ดต่อหน้าอัลลอฮฺกระนั้นหรือ?!
Faccirooji aarabeeji:
فَلِلَّهِ ٱلۡأٓخِرَةُ وَٱلۡأُولَىٰ
เปล่าเลย สำหรับเขาจะไม่ได้รับสิ่งที่เขาปรารถนาใดๆ เพราะกรรมสิทธิ์แห่งโลกหน้าและโลกนี้นั้นเป็นของอัลลอฮฺพระองค์เดียว พระองค์จะให้บางส่วนจากทั้งสองซึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และยับยั้งซึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์
Faccirooji aarabeeji:
۞ وَكَم مِّن مَّلَكٖ فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ لَا تُغۡنِي شَفَٰعَتُهُمۡ شَيۡـًٔا إِلَّا مِنۢ بَعۡدِ أَن يَأۡذَنَ ٱللَّهُ لِمَن يَشَآءُ وَيَرۡضَىٰٓ
และมีมลาอิกะฮฺกี่มากน้อยอยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายที่การชะฟาอะฮฺ (การช่วยเหลือ) ของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์ใดๆ ให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่งที่พวกเขาต้องการ เว้นแต่หลังจากที่อัลลอฮฺจะอนุมัติให้ชะฟาอะฮฺ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่พวกเขา และทรงพอพระทัยผู้ที่จะได้รับการชะฟาอะฮฺ ดังนั้นพระองค์จะไม่อนุมัติให้ผู้เป็นภาคีกับพระองค์ให้การชะฟาอะฮฺ (ให้การช่วยเหลือ) และจะไม่ทรงพอพระทัยผู้ที่เคารพสิ่งอื่นนอกจากพระองค์เด็ดขาด
Faccirooji aarabeeji:
Ina jeyaa e nafoore aayeeje ɗee e ngol hello:
• كمال أدب النبي صلى الله عليه وسلم حيث لم يَزغْ بصره وهو في السماء السابعة.
• ความสมบูรณ์แบบของมารยาทท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม โดยที่ท่านไม่เหลือบมองไปทางอื่น ในขณะที่ท่านอยู่บนชั้นฟ้าที่เจ็ด

• سفاهة عقل المشركين حيث عبدوا شيئًا لا يضر ولا ينفع، ونسبوا لله ما يكرهون واصطفوا لهم ما يحبون.
• ความโง่เขล่าของบรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ โดยที่พวกเขาเคารพสักการะสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่ให้โทษและประโยชน์ และพวกเขาได้พาดพิงถึงอัลลอฮฺซึ่งสิ่งที่พวกเขารังเกียจ และเลือกให้กับพวกเขาซึ่งสิ่งที่พวกเขาชอบ

• الشفاعة لا تقع إلا بشرطين: الإذن للشافع، والرضا عن المشفوع له.
• การชะฟาอะฮฺ (การช่วยเหลือ) จะไม่เกิดขึ้น นอกจากด้วยสองเงื่อนไข คือ การอนุมัติของอัลลอฮฺให้กับผู้ที่จะชะฟาอะฮฺ (ช่วยเหลือ) และความพอพระทัยของพระองค์ที่มีต่อผู้ที่จะได้รับการชะฟาอะฮฺ (การช่วยเหลือ)

إِنَّ ٱلَّذِينَ لَا يُؤۡمِنُونَ بِٱلۡأٓخِرَةِ لَيُسَمُّونَ ٱلۡمَلَٰٓئِكَةَ تَسۡمِيَةَ ٱلۡأُنثَىٰ
แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันฟื้นขึ้นชีพในโลกหน้านั้น แท้จริงพวกเขาจะตั้งชื่อบรรดามลาอิกะฮฺด้วยชื่อผู้หญิงตามความเชื่อของพวกเขาว่าบรรดามลาอิกะฮฺนั้นเป็นบุตรสาวของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺมหาสูงส่งมหายิ่งใหญ่เหนือคำกล่าวเหล่านั้นของพวกเขา
Faccirooji aarabeeji:
وَمَا لَهُم بِهِۦ مِنۡ عِلۡمٍۖ إِن يَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّۖ وَإِنَّ ٱلظَّنَّ لَا يُغۡنِي مِنَ ٱلۡحَقِّ شَيۡـٔٗا
และการที่พวกเขาตั้งชื่อให้บรรดามลาอิกะฮฺเป็นชื่อผู้หญิงนั้น พวกเขาไม่มีความรู้ใดๆ เป็นที่อ้างอิงเลย พวกเขามิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดในเรื่องดังกล่าวนอกจากการคาดเดาเท่านั้น และแท้จริงการคาดเดานั้นไม่อาจมีประโยชน์เหนือความจริงได้เลย แม้ว่าการคาดเดานั้นจะอยู่บนตำแหน่งของความจริงก็ตาม
Faccirooji aarabeeji:
فَأَعۡرِضۡ عَن مَّن تَوَلَّىٰ عَن ذِكۡرِنَا وَلَمۡ يُرِدۡ إِلَّا ٱلۡحَيَوٰةَ ٱلدُّنۡيَا
ดังนั้น โอ้ท่านเราะสูล เจ้าจงหลีกห่างจากผู้ผินหลังให้กับการรำลึกถึงอัลลอฮฺและไม่ใส่ใจพระองค์ และเขามิได้ปรารถนาอื่นใดนอกจากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่กระทำความดีเพื่อโลกหน้า เพราะเขาไม่ศรัทธาต่อมัน
Faccirooji aarabeeji:
ذَٰلِكَ مَبۡلَغُهُم مِّنَ ٱلۡعِلۡمِۚ إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعۡلَمُ بِمَن ضَلَّ عَن سَبِيلِهِۦ وَهُوَ أَعۡلَمُ بِمَنِ ٱهۡتَدَىٰ
คำกล่าวของบรรดาผู้ตั้งภาคี (ที่ตั้งชื่อบรรดามลาอิกะฮฺเป็นชื่อผู้หญิง) นั่นคือสุดยอดแห่งความรู้ของพวกเขาแล้ว เพราะพวกเขาโง่เขลา ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่บรรลุถึงความมั่นใจอย่างแท้จริง แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น (โอ้ท่านเราะสูล) ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่หลงทางออกจากแนวทางแห่งสัจธรรม และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่อยู่ในแนวทางแห่งทางนำ (ฮิดายะฮฺ) ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นไปจากพระองค์
Faccirooji aarabeeji:
وَلِلَّهِ مَا فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَمَا فِي ٱلۡأَرۡضِ لِيَجۡزِيَ ٱلَّذِينَ أَسَٰٓـُٔواْ بِمَا عَمِلُواْ وَيَجۡزِيَ ٱلَّذِينَ أَحۡسَنُواْ بِٱلۡحُسۡنَى
และสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว ทั้งในเรื่องการครอบครอง การสร้าง และการบริหารจัดการ เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนบรรดาผู้กระทำความชั่วในโลกดุนยานี้ด้วยการลงโทษที่พวกเขาสมควรจะได้รับ และจะทรงตอบแทนบรรดาผู้กระทำความดีด้วยสรวงสวรรค์
Faccirooji aarabeeji:
ٱلَّذِينَ يَجۡتَنِبُونَ كَبَٰٓئِرَ ٱلۡإِثۡمِ وَٱلۡفَوَٰحِشَ إِلَّا ٱللَّمَمَۚ إِنَّ رَبَّكَ وَٰسِعُ ٱلۡمَغۡفِرَةِۚ هُوَ أَعۡلَمُ بِكُمۡ إِذۡ أَنشَأَكُم مِّنَ ٱلۡأَرۡضِ وَإِذۡ أَنتُمۡ أَجِنَّةٞ فِي بُطُونِ أُمَّهَٰتِكُمۡۖ فَلَا تُزَكُّوٓاْ أَنفُسَكُمۡۖ هُوَ أَعۡلَمُ بِمَنِ ٱتَّقَىٰٓ
(บรรดาผู้กระทำความดีนั้น) คือบรรดาผู้หลีกห่างจากการทำบาปใหญ่และสิ่งลามกทั้งหลาย เว้นแต่ความผิดพลาดเล็กน้อย ซึ่งมันจะถูกลบล้างด้วยการละทิ้งบาปใหญ่และกระทำความดีที่มากมายหลากหลาย แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น โอ้ท่านเราะสูล ทรงเป็นผู้กว้างขวางในการให้อภัย พระองค์จะอภัยโทษให้แก่บ่าวของพระองค์ที่เตาบะฮ์กลับเนื้อกลับตัว พระองค์ทรงรู้จักพวกเจ้าและกิจการของพวกเจ้าดียิ่ง เมื่อครั้นที่พระองค์ทรงสร้างอาดัม ผู้เป็นบิดาของพวกเจ้าจากดิน และเมื่อครั้นที่พวกเจ้าเป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาของพวกเจ้า พวกเจ้าถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีขั้นตอน ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นไปจากพระองค์ ดังนั้นพวกเจ้าอย่าแสดงตนเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์แก่ตัวของพวกเจ้าเองด้วยการยกย่องและชมเชยว่ามีความยำเกรง เพราะพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่มีความยำเกรงด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์และละทิ้งจากคำสั่งห้ามของพระองค์
Faccirooji aarabeeji:
أَفَرَءَيۡتَ ٱلَّذِي تَوَلَّىٰ
เจ้าได้เห็นลักษณะที่ชั่วช้าของผู้ที่ผินหลังให้กับอิสลาม หลังจากที่เขาเคยได้อยู่ใกล้กับมันบ้างไหม
Faccirooji aarabeeji:
وَأَعۡطَىٰ قَلِيلٗا وَأَكۡدَىٰٓ
และเขาได้บริจาคทรัพย์สินเพียงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยุดบริจาค เพราะความตระหนี่ขี้เหนียวคืออุปนิสัยของเขา ถึงกระนั้นเขายังจะชมเชยตัวเองอีก
Faccirooji aarabeeji:
أَعِندَهُۥ عِلۡمُ ٱلۡغَيۡبِ فَهُوَ يَرَىٰٓ
เขามีความรู้ในสิ่งเร้นลับกระนั้นหรือ เขาถึงได้เห็นและบอกถึงสิ่งเร้นลับได้?
Faccirooji aarabeeji:
أَمۡ لَمۡ يُنَبَّأۡ بِمَا فِي صُحُفِ مُوسَىٰ
หรือว่าเขาเป็นผู้โกหกใส่ร้ายต่ออัลลอฮฺ? หรือว่าเขามิได้รับข่าวคราวที่มีอยู่ในคัมภีร์ของมูซาที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมาให้แก่ท่านหรอกหรือ?
Faccirooji aarabeeji:
وَإِبۡرَٰهِيمَ ٱلَّذِي وَفَّىٰٓ
และข่าวคราวที่มีอยู่ในคัมภีร์ของอิบรอฮีม ผู้ซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ๆ พระองค์ได้มอบหมายอย่างครบถ้วน
Faccirooji aarabeeji:
أَلَّا تَزِرُ وَازِرَةٞ وِزۡرَ أُخۡرَىٰ
ว่ามนุษย์นั้นจะไม่แบกภาระบาปของผู้อื่นได้
Faccirooji aarabeeji:
وَأَن لَّيۡسَ لِلۡإِنسَٰنِ إِلَّا مَا سَعَىٰ
และมนุษย์จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากผลบุญจากการงานของเขาที่ได้ขวนขวายเอาไว้
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّ سَعۡيَهُۥ سَوۡفَ يُرَىٰ
และแท้จริงการงานของเขาจะถูกแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผยในวันกิยามะฮฺ
Faccirooji aarabeeji:
ثُمَّ يُجۡزَىٰهُ ٱلۡجَزَآءَ ٱلۡأَوۡفَىٰ
แล้วเขาก็จะได้รับการตอบแทนการงานของเขาด้วยการตอบแทนที่ครบถ้วนสมบูรณ์
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّ إِلَىٰ رَبِّكَ ٱلۡمُنتَهَىٰ
และแท้จริงยังพระผู้อภิบาลของเจ้าเทานั้น โอ้ท่านเราะสูล คือที่กลับไปและจุดหมายปลายทางของผู้เป็นบ่าวหลังจากที่พวกเขาได้เสียชีวิตไป
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّهُۥ هُوَ أَضۡحَكَ وَأَبۡكَىٰ
และแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงทำให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์มีความสุขแล้วก็ทรงทำให้เขาหัวเราะ และพระองค์ทรงทำให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์มีความเศร้าเสียใจแล้วก็ทรงทำให้ร้องไห้
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّهُۥ هُوَ أَمَاتَ وَأَحۡيَا
และแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงทำให้ผู้มีชีวิตตายในโลกดุนยานี้ และทรงทำให้ผู้ตาย มีชีวิตด้วยการฟื้นคืนชีพ
Faccirooji aarabeeji:
Ina jeyaa e nafoore aayeeje ɗee e ngol hello:
• انقسام الذنوب إلى كبائر وصغائر.
•บาปนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภท คือบาปใหญ่และบาปเล็ก

• خطورة التقوُّل على الله بغير علم.
• อันตรายของการกล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺโดยปราศจากความรู้

• النهي عن تزكية النفس.
•ห้ามมิให้ยกย่องรับรองตัวเอง

وَأَنَّهُۥ خَلَقَ ٱلزَّوۡجَيۡنِ ٱلذَّكَرَ وَٱلۡأُنثَىٰ
และแท้จริงพระองค์ทรงสร้างคู่ เป็นเพศชาย และเพศหญิง
Faccirooji aarabeeji:
مِن نُّطۡفَةٍ إِذَا تُمۡنَىٰ
จากเชื้ออสุจิเมื่อมันได้ถูกวางไว้ในมดลูก
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّ عَلَيۡهِ ٱلنَّشۡأَةَ ٱلۡأُخۡرَىٰ
และแท้จริง เป็นหน้าที่ของพระองค์ที่จะให้บังเกิดทั้งสองอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทั้งสองได้ตายไป เพื่อการชุมนุม (ในโลกหน้า)
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّهُۥ هُوَ أَغۡنَىٰ وَأَقۡنَىٰ
และแท้จริง พระองค์ทรงทำให้บ่าวของพระองค์ที่พระองค์ประสงค์ได้ร่ำรวยด้วยการให้ครอบครองทรัพย์สิน และทรงให้ทรัพย์สินบางส่วนเป็นที่ใช้สอย
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّهُۥ هُوَ رَبُّ ٱلشِّعۡرَىٰ
และแท้จริง พระองค์ทรงเป็นพระผู้อภิบาลแห่งดาวสิริอุส ซึ่งเป็นดาวที่บรรดาผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์บางกลุ่มได้เคารพบูชากันอื่นจากอัลลอฮ์
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنَّهُۥٓ أَهۡلَكَ عَادًا ٱلۡأُولَىٰ
และแท้จริง พระองค์ได้ทรงทำลายหมู่ชนอ๊าดรุ่นก่อน ซึ่งเป็นหมู่ชนของนบีฮูด เมื่อครั้งที่พวกเขายืนกรานบนการปฏิเสธศรัทธา
Faccirooji aarabeeji:
وَثَمُودَاْ فَمَآ أَبۡقَىٰ
และพระองค์ได้ทรงทำลายหมู่ชนษะมูด ซึ่งเป็นหมู่ชนของบนีศอลิหฺ โดยไม่มีใครหลงเหลืออยู่อีกเลย
Faccirooji aarabeeji:
وَقَوۡمَ نُوحٖ مِّن قَبۡلُۖ إِنَّهُمۡ كَانُواْ هُمۡ أَظۡلَمَ وَأَطۡغَىٰ
และพระองค์ได้ทรงทำลายหมู่ชนของนบีนูหฺก่อนหน้าหมู่ชนอ๊าดและหมู่ชนษะมูด แท้จริงพวกเขาเป็นผู้อธรรมและเป็นผู้ละเมิดยิ่งกว่าหมู่ชนอ๊าดและหมู่ชนษะมูดเสียอีก เพราะนบีนูหฺได้ใช้ชีวิตเผยแพร่ชักชวนพวกเขาไปสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺนานถึงเก้าร้อยห้าสิบปี แล้วพวกเขากลับไม่ตอบรับนบีนูหฺ
Faccirooji aarabeeji:
وَٱلۡمُؤۡتَفِكَةَ أَهۡوَىٰ
และเมืองของหมู่ชนนบีลูฏที่พระองค์ได้ทรงยกมันขึ้นบนฟากฟ้า แล้วทรงพลิกกลับให้มันถล่มลงมาสู่พื้นแผ่นดิน
Faccirooji aarabeeji:
فَغَشَّىٰهَا مَا غَشَّىٰ
แล้วได้กระหน่ำใส่อย่างครอบคลุมด้วยก้อนหินหลังจากที่ได้ยกมันขึ้นสู่ฟากฟ้า แล้วให้มันถล่มลงมาสู่บนพื้นแผ่นดิน
Faccirooji aarabeeji:
فَبِأَيِّ ءَالَآءِ رَبِّكَ تَتَمَارَىٰ
ดังนั้นสัญญาณต่างๆ ของพระผู้อภิบาลของเจ้าที่บ่งบอกถึงพลังอำนาจของพระองค์อันใดเล่า โอ้มนุษย์เอ๋ย ที่ทำให้เจ้ายังโต้เถียงกันอยู่ แล้วทำให้เจ้าไม่รับเป็นบทเรียนจากมัน?!
Faccirooji aarabeeji:
هَٰذَا نَذِيرٞ مِّنَ ٱلنُّذُرِ ٱلۡأُولَىٰٓ
เราะสูลที่ถูกส่งมายังพวกเจ้านี้เหมือนกับบรรดาเราะซูลรุ่นก่อนๆ
Faccirooji aarabeeji:
أَزِفَتِ ٱلۡأٓزِفَةُ
วันกิยามะฮฺอันใกล้ (วันสิ้นโลก) ได้ใกล้เข้ามาแล้ว
Faccirooji aarabeeji:
لَيۡسَ لَهَا مِن دُونِ ٱللَّهِ كَاشِفَةٌ
ไม่มีผู้ใดที่จะยับยั้งมันให้พ้นไปได้และไม่มีผู้ใดรู้ถึงเรื่องราวของมัน (ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร) นอกจากอัลลอฮฺ
Faccirooji aarabeeji:
أَفَمِنۡ هَٰذَا ٱلۡحَدِيثِ تَعۡجَبُونَ
หรือสิ่งที่มาจากอัลกุรอ่านที่ถูกอ่านให้แก่พวกเจ้านี้ พวกเจ้ายังคงแปลกใจอีกหรือ ว่ามันมาจากอัลลอฮฺ?!
Faccirooji aarabeeji:
وَتَضۡحَكُونَ وَلَا تَبۡكُونَ
และพวกเจ้ายังคงหัวเราะเยาะเย้ยกับมัน และยังไม่ร้องไห้ขณะที่ได้ฟังคำตักเตือนของมันอีกหรือ?!
Faccirooji aarabeeji:
وَأَنتُمۡ سَٰمِدُونَ
โดยที่พวกเจ้ายังคงหลงระเริงลืมตัว ไม่ใส่ใจกับมันอีกหรือ?!
Faccirooji aarabeeji:
فَٱسۡجُدُواْۤ لِلَّهِۤ وَٱعۡبُدُواْ۩
ดังนั้นพวกเจ้าจงสุญูดต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว และจงเคารพอิบาดะฮฺต่อพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจเถิด
Faccirooji aarabeeji:
Ina jeyaa e nafoore aayeeje ɗee e ngol hello:
• عدم التأثر بالقرآن نذير شؤم.
•การไม่ได้รับประโยชน์จากอัลกุรอ่านจะเป็นสัญญาณเตือนแห่งเคราะห์ร้าย

• خطر اتباع الهوى على النفس في الدنيا والآخرة.
•การปฏิบัติตามกิเลสจะเป็นอันตรายต่อชีวิตทั้งในโลกดุนยานี้และโลกหน้า

• عدم الاتعاظ بهلاك الأمم صفة من صفات الكفار.
•การไม่รับบทเรียนจากความหายนะของประชาชาติยุคก่อนเป็นคุณลักษณะหนึ่งของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา

 
Firo maanaaji Simoore: Simoore hoodere
Tippudi cimooje Tonngoode hello ngoo
 
Firo maanaaji al-quraan tedduɗo oo - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم - Tippudi firooji ɗii

الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم، صادر عن مركز تفسير للدراسات القرآنية.

Uddude