Traduzione dei significati Sura Al-Muddaththir - Traduzione thailandese dell'Abbreviata Esegesi del Nobile Corano - Numero di pagina 576 - L'Enciclopedia del Nobile Corano

Versetto: 19

فَقُتِلَ كَيۡفَ قَدَّرَ

ดังนั้น เขาถูกสาปแช่งและถูกทรมาน เขาจะคาดคะเนได้อย่างไร

Versetto: 20

ثُمَّ قُتِلَ كَيۡفَ قَدَّرَ

แล้วดังนั้น เขาถูกสาปแช่งและถูกทรมาน เขาจะคาดคะเนได้อย่างไร

Versetto: 21

ثُمَّ نَظَرَ

แล้วเขาก็พิจารณาและทบทวนในสิ่งที่เขาพูด

Versetto: 22

ثُمَّ عَبَسَ وَبَسَرَ

แล้วเขาทำหน้าบูดบึ้ง และสำนึกผิดเมื่อเขาไม่พบสิ่งใดที่จะท้าทายในอัลกุรอาน

Versetto: 23

ثُمَّ أَدۡبَرَ وَٱسۡتَكۡبَرَ

แล้วเขาก็ผินหลังออกไปจากการศรัทธา และหยิ่งผยองที่จะปฏิบัติตามนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม

Versetto: 24

فَقَالَ إِنۡ هَٰذَآ إِلَّا سِحۡرٞ يُؤۡثَرُ

และเขากล่าวว่า สิ่งที่มุฮัมหมัดได้พามานั้นไม่ใช่พระวจนะของอัลลอฮฺ แต่มันคือเล่ห์กลที่มาจากคนอื่น

Versetto: 25

إِنۡ هَٰذَآ إِلَّا قَوۡلُ ٱلۡبَشَرِ

นี่ไม่ใช่คำพูดของพระองค์อัลลอฮฺ แต่เป็นคำพูดของมนุษย์

Versetto: 26

سَأُصۡلِيهِ سَقَرَ

ข้าจะเอาผู้ปฏิเสธศรัทธาคนนี้เข้าไปอยู่ในชั้นหนึ่งของนรกจากชั้นต่างๆของมัน มันคือกองไฟที่เผาไหม้อย่างร้อนระอุ

Versetto: 27

وَمَآ أَدۡرَىٰكَ مَا سَقَرُ

โอ้มุหัมมัดเอ๋ย และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่า สิ่งที่เผาไหม้นั้นคืออะไร?

Versetto: 28

لَا تُبۡقِي وَلَا تَذَرُ

มันจะไม่เหลืออะไรเลยซึ่งผู้ที่ถูกลงโทษในนรกนั้น เว้นแต่มันจะมายังเขา และมันจะไม่ปล่อยเขา และเขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม แล้วมันก็จะมายังเขาอีก และการวนเวียนของเจ้าก็จะเป็นอย่างนี้เเหละ

Versetto: 29

لَوَّاحَةٞ لِّلۡبَشَرِ

การเผาไหม้ที่รุนแรงและการเปลี่ยนของผิวหนัง

Versetto: 30

عَلَيۡهَا تِسۡعَةَ عَشَرَ

เหนือมัน(นรก)มีมลาอิกะฮฺสิบเก้าท่าน พวกเขาคือยามเฝ้าประตูนรก

Versetto: 31

وَمَا جَعَلۡنَآ أَصۡحَٰبَ ٱلنَّارِ إِلَّا مَلَٰٓئِكَةٗۖ وَمَا جَعَلۡنَا عِدَّتَهُمۡ إِلَّا فِتۡنَةٗ لِّلَّذِينَ كَفَرُواْ لِيَسۡتَيۡقِنَ ٱلَّذِينَ أُوتُواْ ٱلۡكِتَٰبَ وَيَزۡدَادَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓاْ إِيمَٰنٗا وَلَا يَرۡتَابَ ٱلَّذِينَ أُوتُواْ ٱلۡكِتَٰبَ وَٱلۡمُؤۡمِنُونَ وَلِيَقُولَ ٱلَّذِينَ فِي قُلُوبِهِم مَّرَضٞ وَٱلۡكَٰفِرُونَ مَاذَآ أَرَادَ ٱللَّهُ بِهَٰذَا مَثَلٗاۚ كَذَٰلِكَ يُضِلُّ ٱللَّهُ مَن يَشَآءُ وَيَهۡدِي مَن يَشَآءُۚ وَمَا يَعۡلَمُ جُنُودَ رَبِّكَ إِلَّا هُوَۚ وَمَا هِيَ إِلَّا ذِكۡرَىٰ لِلۡبَشَرِ

และเรามิได้แต่งตั้งยามที่เฝ้านรก นอกจากมลาอิกะฮ์ ดังนั้นไม่มีความสามารถใดๆสำหรับมนุษย์เมื่อเทียบกับพวกเขา และเรามิได้กำหนดจำนวนของพวกเขาไว้ เว้นแต่เป็นการทดสอบสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา เพื่อพวกเขาจะได้พูดตามที่พวกเขาได้พูดกันมา ดังนั้นพระองค์จึงเพิ่มการลงโทษต่อพวกเขา และเพื่อให้บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์จากชาวยิวที่ได้รับคัมภีร์เตารอต และชาวคริสต์ที่ได้รับคำภีย์อินญีล จะได้มีความเชื่อมั่นหลังจากที่อัลกุรอานได้ประทานลงมาเพื่อยืนยันถึงความจริงที่มีในคัมภีร์ของพวกเขา และเพื่อบรรดาผู้ศรัทธาจะมีศรัทธาเพิ่มขึ้นเมื่อได้เห็นชาวคัมภีร์ได้เห็นด้วยกับพวกเขา และบรรดาผู้ที่ถูกประทานคัมภีร์มาให้และบรรดาผู้ศรัทธาจะไม่สงสัย และบรรดาผู้ซึ่งในใจของพวกเขาเสแสร้งและผู้ปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า "อัลลอฮ์ทรงประสงค์อย่างไรกับจำนวนเหล่านี้เป็นตัวอย่าง" เช่นนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงปล่อยให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ให้หลงผิด และจะทรงชี้นำผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และไม่มีใครรู้จำนวนบรรดาทหารของพระเจ้าของเจ้ายกเว้นพระองค์ และการกล่าวถึงนรกนั้นมิใช่เพื่ออื่นใดนอกจากเป็นการเตือนสติมนุษย์เพื่อให้รำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์

Versetto: 32

كَلَّا وَٱلۡقَمَرِ

ไม่ สถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่ผู้ตังภาคีบางคนอ้าง เพราะพวกเขาอ้างว่าสหายของพวกเขาบางคนจะเหนือกว่ามลาอิกะฮ์ที่ดูแลนรก แล้วอัลลอฮ์ทรงสาบานต่อดวงจันทร์

Versetto: 33

وَٱلَّيۡلِ إِذۡ أَدۡبَرَ

ขอสาบานด้วยกลางคืนเมื่อมันจากไป

Versetto: 34

وَٱلصُّبۡحِ إِذَآ أَسۡفَرَ

ขอสาบานด้วยยามเช้าเมื่อมันประกายแสง

Versetto: 35

إِنَّهَا لَإِحۡدَى ٱلۡكُبَرِ

แท้จริงไฟนรกญะฮัมนัมนั้นเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ใหญ่หลวง

Versetto: 36

نَذِيرٗا لِّلۡبَشَرِ

เพื่อเป็นการเตือนและขู่ขวัญมนุษย์

Versetto: 37

لِمَن شَآءَ مِنكُمۡ أَن يَتَقَدَّمَ أَوۡ يَتَأَخَّرَ

สำหรับผู้ที่ประสงค์ในหมู่พวกเจ้า -โอ้มนุษย์เอ๋ย- จะรุดหน้าด้วยการศรัทธาต่ออัลลอฮ์และการงานที่ดีหรือจะรั้งท้ายด้วยการปฏิเสธศรัทธาและกระทำบาป

Versetto: 38

كُلُّ نَفۡسِۭ بِمَا كَسَبَتۡ رَهِينَةٌ

แต่ละชีวิตย่อมถูกค้ำประกันกับการงานที่มันขวนขวายไป หรือเจ้าจะเก็บการงานของมันไว้ หรือเจ้าจะทำให้มันหมดไปแล้วช่วยให้มันรอดพ้นจากความพินาศ

Versetto: 39

إِلَّآ أَصۡحَٰبَ ٱلۡيَمِينِ

ยกเว้นบรรดาผู้ศรัทธาโดยที่พวกเขาจะไม่ถูกลงโทษจากบาปต่างๆของเขา แต่พวกเขาได้รับการอภัย เพราะความดีของพวกเขาที่ได้ทำ

Versetto: 40

فِي جَنَّٰتٖ يَتَسَآءَلُونَ

และพวกเขาในวันกิยามะฮ์อยู่ในสรวงสวรรค์หลากหลาย พวกเขาจะไต่ถามซึ่งกันและกัน

Versetto: 41

عَنِ ٱلۡمُجۡرِمِينَ

เกี่ยวกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาที่สร้างความหายนะแก่ตัวของพวกเขาเองโดยการกระทำบาปต่างๆ

Versetto: 42

مَا سَلَكَكُمۡ فِي سَقَرَ

พวกเขากล่าวแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาว่า อะไรที่นำพวกท่านเข้านรกญะฮัมนัม?

Versetto: 43

قَالُواْ لَمۡ نَكُ مِنَ ٱلۡمُصَلِّينَ

แล้วบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็ตอบพวกเขาว่า เรามิได้อยู่ในหมู่ผู้ทำละหมาดที่เป็นวาญิบ(จำเป็นต้องปฏิบัติ)ในช่วงมีชีวิตบนดุนยา

Versetto: 44

وَلَمۡ نَكُ نُطۡعِمُ ٱلۡمِسۡكِينَ

เรามิได้ให้อาหารแก่บรรดาผู้ขัดสนในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่เรา

Versetto: 45

وَكُنَّا نَخُوضُ مَعَ ٱلۡخَآئِضِينَ

เราอยู่กับคนมุสาทุกที่ที่พวกเขาไป เราพูดคุยกับคนที่บิดเบือนและหลงทาง

Versetto: 46

وَكُنَّا نُكَذِّبُ بِيَوۡمِ ٱلدِّينِ

และเราปฏิเสธวันแห่งการตอบแทน

Versetto: 47

حَتَّىٰٓ أَتَىٰنَا ٱلۡيَقِينُ

และเรายังคงปฏิเสธศรัทธาต่อวันกิยามะฮ์ จนความตายได้มาเยือนเรา ดังนั้นมันจึงกั้นระหว่างเรากับการสำนึกผิด

Alcuni insegnamenti da trarre da questi versi sono:

• خطورة الكبر حيث صرف الوليد بن المغيرة عن الإيمان بعدما تبين له الحق.

•อันตรายจากความเย่อหยิ่งซึ่งทำให้ วะลีด บิน มุฆีเราะฮ์ หันหลังให้กับการศรัทธาหลังจากที่ความจริงได้ปรากฏแก่เขาแล้ว

• مسؤولية الإنسان عن أعماله في الدنيا والآخرة.

•มนุษย์ต้องรับผิดชอบการกระทำของเขาในดุนยาและอาคิเราะฮ์

• عدم إطعام المحتاج سبب من أسباب دخول النار.

•การไม่ให้อาหารแก่ผู้ที่เขาต้องการ(ขาดแคลน)เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เข้านรก