क़ुरआन के अर्थों का अनुवाद - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم * - अनुवादों की सूची


अर्थों का अनुवाद सूरा: सूरा अल्-अन्आम   आयत:

Al-An‘ām

सूरा के उद्देश्य:
تقرير عقيدة التوحيد والرد على ضلالات المشركين.
ยืนยันถึงหลักเตาฮีดและตอบโต้ต่อความหลงผิดของพวกมุชริกีน

ٱلۡحَمۡدُ لِلَّهِ ٱلَّذِي خَلَقَ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضَ وَجَعَلَ ٱلظُّلُمَٰتِ وَٱلنُّورَۖ ثُمَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُواْ بِرَبِّهِمۡ يَعۡدِلُونَ
การอธิบายถึงคุณลักษณะที่สมบูรณ์แบบ และการสรรเสริญถึงคุณงามความดีอันประเสริฐที่มาพร้อมกับความรักนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินโดยไม่มีต้นแบบอื่นมาก่อน และได้ทรงสร้างกลางวันและกลางคืนให้มันหมุนเวียนสลับกันไป ซึ่งกลางคืนพระองค์ได้ทรงทำให้มันมีความมืดและกลางวันทรงทำให้มันมีแสงสว่าง ถึงอย่างไรก็ตามแต่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น ก็ยังให้ (สิ่งอื่น) เท่าเทียมกับพระเจ้าของเขา และกำหนดให้สิ่งนั้นเป็นภาคีคู่กับพระองค์อยู่
अरबी तफ़सीरें:
هُوَ ٱلَّذِي خَلَقَكُم مِّن طِينٖ ثُمَّ قَضَىٰٓ أَجَلٗاۖ وَأَجَلٞ مُّسَمًّى عِندَهُۥۖ ثُمَّ أَنتُمۡ تَمۡتَرُونَ
โอ้มนุษย์เอ๋ย พระองค์คือผู้ที่ทรงบังเกิดพวกเจ้าจากดินที่ได้สร้างบิดาของพวกเจ้ามาจากมัน คือนบีอาดัม อลัยฮิสสลาม แล้วได้ทรงกำหนดเวลาการดำเนินชีวิตในโลกดุนยาของพวกเจ้า และทรงกำหนดเวลาที่ถูกระบุไว้อีกกำหนดหนึ่งที่ไมมีใครรู้ถึงเกี่ยวกับมันเว้นเสียแต่เขานั้นคือผู้ที่เป็นผู้ที่บังเกิดพวกเจ้า ณ วันกิยามะฮฺ แต่แล้วพวกเจ้าก็ยังสงสัยในความปรีชาสามารถของพระองค์ต่อการบังเกิดให้ฟื้นคืนชีพหลังความตาย
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱللَّهُ فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَفِي ٱلۡأَرۡضِ يَعۡلَمُ سِرَّكُمۡ وَجَهۡرَكُمۡ وَيَعۡلَمُ مَا تَكۡسِبُونَ
และพระองค์นั้นคือ พระเจ้าที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้ทั้งในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน ไม่มีสิ่งใดที่จะปกปิดเป็นความลับต่อพระองค์ได้ ดังนั้นพระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่พวกเจ้านั้นกำลังปกปิดจากสิ่งที่เป็นการตั้งเจตนา คำพูด หรือการงาน และสิ่งที่พวกเจ้ากำลังเปิดเผยมันจากสิ่งนั้น และพระองค์ก็จะทรงตอบแทนมันต่อพวกเจ้า
अरबी तफ़सीरें:
وَمَا تَأۡتِيهِم مِّنۡ ءَايَةٖ مِّنۡ ءَايَٰتِ رَبِّهِمۡ إِلَّا كَانُواْ عَنۡهَا مُعۡرِضِينَ
และไม่มีหลักฐานอันใดที่มายังบรรดาพวกที่ตั้งภาคีที่มาจากพระเจ้าของพวกเขา เว้นเสียแต่พวกเขานั้นได้ทิ้งมันไป โดยไม่แยแสกับมันเลย แท้จริงหลักฐานที่เห็นได้ชัดและข้อพิสูจน์ต่างๆที่โจ่งแจ้งนั้น ที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพของอัลลอฮฺก็ได้มายังพวกเขาแล้ว และโองการต่างๆ ที่ได้ชี้ให้เห็นถึงความสัจจะของบรรดาศาสนทูตของพระองค์ก็ได้มายังพวกเขาเช่นเดียวกัน แต่แล้วพวกเขาก็ได้ปฏิเสธมัน โดยที่พวกเขาไม่สะทกสะท้านอะไรเกี่ยวกับมันเลย
अरबी तफ़सीरें:
فَقَدۡ كَذَّبُواْ بِٱلۡحَقِّ لَمَّا جَآءَهُمۡ فَسَوۡفَ يَأۡتِيهِمۡ أَنۢبَٰٓؤُاْ مَا كَانُواْ بِهِۦ يَسۡتَهۡزِءُونَ
และหากว่าพวกเขาได้ปฏิเสธหลักฐานอันชัดแจ้งและข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนอันนั้น แน่นอนพวกเขาได้ปฏิเสธต่อสิ่งที่มันมีความชัดเจนยิ่งกว่า พวกเขาได้ปฏิเสธต่อสิ่งที่มูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม นำมาจากอัลกุรอ่าน และพวกเขาก็จะได้ทราบว่าสิ่งที่พวกเขาได้เคยเย้ยหยันมันเอาไว้นั้น จากสิ่งที่ยังพวกเขามันคือ ความจริง ก็ต่อเมื่อตอนที่พวกเขานั้นได้เห็นถึงการลงโทษในวันกิยามะฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
أَلَمۡ يَرَوۡاْ كَمۡ أَهۡلَكۡنَا مِن قَبۡلِهِم مِّن قَرۡنٖ مَّكَّنَّٰهُمۡ فِي ٱلۡأَرۡضِ مَا لَمۡ نُمَكِّن لَّكُمۡ وَأَرۡسَلۡنَا ٱلسَّمَآءَ عَلَيۡهِم مِّدۡرَارٗا وَجَعَلۡنَا ٱلۡأَنۡهَٰرَ تَجۡرِي مِن تَحۡتِهِمۡ فَأَهۡلَكۡنَٰهُم بِذُنُوبِهِمۡ وَأَنشَأۡنَا مِنۢ بَعۡدِهِمۡ قَرۡنًا ءَاخَرِينَ
พวกปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นมิได้รู้ดอกหรือว่า แนวทางการทำลายล้างของอัลลอฮฺที่มีต่อบรรดาประชาชาติที่เป็นผู้อธรรมนั้นเป็นเช่นใด?! แน่นอนอัลลอฮฺนั้นได้ทำลายล้างหลายๆประชาชาติมาแล้วก่อนหน้าพวกเขา พระองค์ได้ให้พวกเขามีอำนาจและความสามารถในแผ่นดิน ซึ่งสิ่งที่พระองค์มิได้ให้มีแก่พวกปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้น และพระองค์ได้ประทานฝนลงมายังพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และพระองค์ได้ให้มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่างที่พักอาศัยของพวกเขา แต่แล้วพวกเขาก็ได้ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ แล้วพระองค์ก็ทำลายพวกเขาเสีย เนื่องด้วยการก่อกรรมทำบาปของพวกเขา และพระองค์ได้สร้างให้มีขึ้นหลังจากพวกเขาซี่งประชาชาติอื่น
अरबी तफ़सीरें:
وَلَوۡ نَزَّلۡنَا عَلَيۡكَ كِتَٰبٗا فِي قِرۡطَاسٖ فَلَمَسُوهُ بِأَيۡدِيهِمۡ لَقَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓاْ إِنۡ هَٰذَآ إِلَّا سِحۡرٞ مُّبِينٞ
และหากเราได้ประทานลงมาให้แก่เจ้า โอ้เราะซูล ซึ่งคัมภีร์ฉบับหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในกระดาษ และพวกเจ้าก็จงมองสังเกตมันด้วยดวงตาของพวกเจ้า และก็สร้างความมั่นใจจากสิ่งนั้น โดยการให้พวกเขาสัมผัสคัมภีร์นั้นด้วยมือของพวกเขาเอง แน่นอนพวกเขาก็จะไม่ศรัทธาต่อมัน โดยปฏิเสธความจริงทั้ง ๆ ที่รู้และสร้างความยุ่งยาก และแน่นอนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาย่อมกล่าวว่า สิ่งที่เจ้านำมันมานั้น มันมิใช่อื่นใดนอกจากมายากลอันชัดแจ้งเท่านั้น ดังนั้นพวกเราก็จะไม่ศรัทธาต่อมัน
अरबी तफ़सीरें:
وَقَالُواْ لَوۡلَآ أُنزِلَ عَلَيۡهِ مَلَكٞۖ وَلَوۡ أَنزَلۡنَا مَلَكٗا لَّقُضِيَ ٱلۡأَمۡرُ ثُمَّ لَا يُنظَرُونَ
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นได้กล่าวว่า หากว่าอัลลอฮฺได้ให้มะลักลงมาเคียงกับมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม มาบอกกับเราและเป็นพยานว่าเขานั้นเป็นผู้ส่งสาร แน่นอนเราก็จะศรัทธา และหากว่าเราได้ให้มะลักลงมาตามแบบที่พวกเขาต้องการนั้น แน่นอนเราจะทรงทำลายล้างพวกเขาหากพวกเขานั้นไม่ศรัทธา แล้วพวกเขาก็จะไม่ถูกประวิงเวลาให้เพื่อการกลับเนื้อกลับตัวหากเขานั้นได้ลงมา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• شدة عناد الكافرين، وبيان إصرارهم على الكفر على الرغم من قيام الحجة عليهم بالأدلة الحسية.
บอกถึงความดื้อรั้นอันแรงกล้าของผู้ปฏิเสธศรัทธา และการยืนกรานของพวกเขาบนการปฏิเสธศรัทธา โดยบังคับให้ยืนยันหลักฐานแก่พวกเขาด้วยหลักฐานที่สัมผัสได้

• التأمل في سنن الله تعالى في السابقين لمعرفة أسباب هلاكهم والحذر منها.
ความสำคัญต่อการพินิจพิจารณาถึงแนวทางของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่มีต่อบรรพชนรุ่นก่อน เพื่อให้รู้ถึงสาเหตุต่างๆ ที่พระองค์ทรงทำลายล้างพวกเขา และการพึงระวังจากมัน

• من رحمة الله بعباده أن لم ينزل لهم رسولًا من الملائكة لأنهم لا يمهلون للتوبة إذا نزل.
นับเป็นความโปรดปรานจากอัลลอฮฺต่อปวงบ่าวของพระองค์ โดยที่พระองค์นั้นไม่ส่งเราะซูลที่มาจากเหล่ามลาอิกะฮฺ เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะไม่ละเว้นเวลาเพื่อการกลับเนื้อกลับตัว หากเขาได้ลงมา

وَلَوۡ جَعَلۡنَٰهُ مَلَكٗا لَّجَعَلۡنَٰهُ رَجُلٗا وَلَلَبَسۡنَا عَلَيۡهِم مَّا يَلۡبِسُونَ
และหากว่าเราได้ทำให้ผู้ส่งสารไปยังพวกเขานั้นกลายเป็นมะลัก แน่นอนเราก็ย่อมทำให้เขานั้นอยู่ในรูปของผู้ชาย เพื่อที่พวกเขานั้นสามารถรับฟังเขาและสืบทอดจากเขา แน่นอนพวกเขาไม่สามารถกระทำสิ่งนั้นได้กับมะลักบนรูปร่างที่อัลลอฮฺนั้นได้ทรงสร้างเขามา และหากเราได้ทำให้เขานั้นอยู่ในรูปของผู้ชาย แน่นอนสิ่งนั้นย่อมเป็นที่คลุมเครือแก่พวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَلَقَدِ ٱسۡتُهۡزِئَ بِرُسُلٖ مِّن قَبۡلِكَ فَحَاقَ بِٱلَّذِينَ سَخِرُواْ مِنۡهُم مَّا كَانُواْ بِهِۦ يَسۡتَهۡزِءُونَ
แล้วหากว่าพวกเขาเหล่านั้นเย้ยหยันด้วยการขอให้การลงมาของมะลักนั้นมาพร้อมกับเจ้า แน่นอนประชาชาติที่มาก่อนหน้าเจ้านั้นก็เคยเย้ยหยันบรรดาเราะซูลของพวกเขามาแล้ว ดังนั้นการลงโทษก็ได้ห้อมล้อมพวกเขาแล้ว เพราะพวกเขานั้นต่อต้านเขา และเย้ยหยันต่อเขา ครั้งเมื่อตอนที่เขานั้นข่มขู่พวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ سِيرُواْ فِي ٱلۡأَرۡضِ ثُمَّ ٱنظُرُواْ كَيۡفَ كَانَ عَٰقِبَةُ ٱلۡمُكَذِّبِينَ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แก่บรรดาผู้ปฏิเสธที่เย้ยหยันเหล่านั้นว่า : พวกท่านจงเดินไปในแผ่นดินเถิด แล้วจงดูว่า ผลสุดท้ายของบรรดาผู้ปฏิเสธต่อบรรดาเราะซูลของอัลลอฮฺนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนบทลงโทษของอัลลอฮฺก็ได้ประสบกับพวกเขาหลังจากที่พวกเขานั้นมีทั้งความแข็งแรงและความต้านทาน
अरबी तफ़सीरें:
قُل لِّمَن مَّا فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِۖ قُل لِّلَّهِۚ كَتَبَ عَلَىٰ نَفۡسِهِ ٱلرَّحۡمَةَۚ لَيَجۡمَعَنَّكُمۡ إِلَىٰ يَوۡمِ ٱلۡقِيَٰمَةِ لَا رَيۡبَ فِيهِۚ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓاْ أَنفُسَهُمۡ فَهُمۡ لَا يُؤۡمِنُونَ
จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด โอ้เราะซูล ว่า : ใครคือเจ้าของบรรดาชั้นฟ้าทั้งหลาย และเป็นเจ้าของแผ่นดิน และเป็นเจ้าของทุกสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า : ทั้งหมดมันเป็นของอัลลอฮฺ พระองค์ได้ทรงกำหนดการเอ็นดูเมตตาไว้บนตัวของพระองค์ เป็นการยกให้เกียรติของพระองค์แด่ปวงบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถูกเร่งรีบด้วยกับบทลงโทษจนกระทั่งแม้ว่าพวกเขานั้นไม่ได้กลับเนื้อกลับตัว พระองค์จะทรงรวบรวมพวกเขาทั้งหมดในวันกิยามะฮฺ นี่คือวันที่ไม่มีการสงสัยใด ๆ ในวันนั้น บรรดาผู้ที่ทำให้ตัวของพวกเขาขาดทุนเนื่องด้วยการปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ พวกเขาก็จะไม่ศรัทธา ดังนั้นพวกเขาก็จะทำให้ตัวของพวกเขานั้นอยู่กับการขาดทุน
अरबी तफ़सीरें:
۞ وَلَهُۥ مَا سَكَنَ فِي ٱلَّيۡلِ وَٱلنَّهَارِۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلۡعَلِيمُ
และแด่อัลลอฮฺเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่เป็นเจ้าของทุก ๆ สิ่ง จากสิ่งที่สงบเงียบอยู่ในเวลากลางคืนและกลางวัน และพระองค์คือผู้ทรงได้ยินคำพูดของพวกเขา ผู้ทรงรอบรู้ถึงการงานของพวกเขา และพระองค์ก็จะทรงตอบแทนพวกเขาบนมัน
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَغَيۡرَ ٱللَّهِ أَتَّخِذُ وَلِيّٗا فَاطِرِ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ وَهُوَ يُطۡعِمُ وَلَا يُطۡعَمُۗ قُلۡ إِنِّيٓ أُمِرۡتُ أَنۡ أَكُونَ أَوَّلَ مَنۡ أَسۡلَمَۖ وَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلۡمُشۡرِكِينَ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แก่บรรดาพวกที่ตั้งภาคีที่เคารพบูชาพร้อมกันกับอัลลอฮฺซึ่งสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากพระองค์ จากบรรดาเจว็ดและสิ่งที่นอกเหนือจากมัน ว่า : สมองมันรับได้หรือ การที่ฉันนั้นจะเอาสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากอัลลอฮฺมาเป็นที่พึ่งโดยการที่ฉันจะต้องขอความคุ้มครองจากเขาและขอความช่วยเหลือจากเขา?! ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินที่ไม่เหมือนกับสิ่งใดมาก่อน ฉะนั้นแล้วทั้งสองสิ่งนี้ไม่เคยถูกสร้างมาก่อนเลย และพระองค์คือผู้ที่ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากบรรดาบ่าวของพระองค์ และไม่มีใครคนใดจากบรรดาบ่าวของพระองค์ที่คอยประทานปัจจัยยังชีพให้แก่พระองค์ ดังนั้นพระองค์คือผู้ที่ทรงร่ำรวยไปจากบรรดาบ่าวของพระองค์ และบรรดาบ่าวของพระองค์นั้นคือบรรดาผู้ที่ขัดสนยังต้องพึ่งพระองค์อยู่ จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล ว่า : แท้จริงพระผู้ทรงอภิบาล ผู้ทรงบริสุทธิ์ยิ่งนั้น สั่งใช้ให้ฉันเป็นคนแรกที่สวามิภักดิ์ต่ออัลลอฮฺและยอมจำนนต่อพระองค์ในประชาชาตินี้ และได้สั่งห้ามฉันว่าอย่าได้เป็นส่วนหนึ่งในหมู่ผู้ที่ตั้งสิ่งอื่นใดเป็นภาคีต่อพระองค์เด็ดขาด
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ إِنِّيٓ أَخَافُ إِنۡ عَصَيۡتُ رَبِّي عَذَابَ يَوۡمٍ عَظِيمٖ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล ว่า แท้จริงฉันกลัว หากฉันได้ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺด้วยการกระทำในสิ่งที่พระองค์นั้นได้ทรงห้ามแก่ฉัน ซึ่งจากการตั้งภาคีและสิ่งที่นอกเหนือจากนั้น หรือละทิ้งสิ่งที่พระองค์ได้สั่งใช้ฉันให้ปฏิบัติมัน ซึ่งจากการศรัทธาและสิ่งที่นอกเหนือจากนั้นจากการเชื่อฟังทั้งหลาย ที่พระองค์นั้นจะลงโทษฉัน ซึ่งการลงโทษที่ยิ่งใหญ่ในวันกิยามะฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
مَّن يُصۡرَفۡ عَنۡهُ يَوۡمَئِذٖ فَقَدۡ رَحِمَهُۥۚ وَذَٰلِكَ ٱلۡفَوۡزُ ٱلۡمُبِينُ
ผู้ใดที่อัลลอฮฺทำให้เขานั้นห่างไกลจากบทลงโทษในวันกิยามะฮฺ แท้จริงเขานั้นได้รับชัยชนะแล้ว ด้วยกับความเอ็นดูเมตตาของอัลลอฮฺที่มอบให้แก่เขา และการรอดพ้นจากการลงโทษนั่น คือ ชัยชนะที่ชัดเจนที่ไม่มีชัยชนะใดที่จะเทียบเคียงเท่ามันได้
अरबी तफ़सीरें:
وَإِن يَمۡسَسۡكَ ٱللَّهُ بِضُرّٖ فَلَا كَاشِفَ لَهُۥٓ إِلَّا هُوَۖ وَإِن يَمۡسَسۡكَ بِخَيۡرٖ فَهُوَ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ قَدِيرٞ
และหากว่าภัยพิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดที่มาจากอัลลอฮฺมันได้มาประสบกับเจ้า โอ้ลูกของอาดัมเอ๋ย แน่นอนไม่มีใครปกป้องภัยพิบัตินั้นไปจากพระองค์ได้ นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น และหากความดีอย่างหนึ่งอย่างใดที่มาจากพระองค์ได้มาประสบแก่เจ้า แน่นอนไม่มีใครห้ามมันได้จากสิ่งนั้น และไม่มีใครสามารถปฏิเสธความประเสริฐของมันได้ ดังนั้นพระองค์ คือ ผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلۡقَاهِرُ فَوۡقَ عِبَادِهِۦۚ وَهُوَ ٱلۡحَكِيمُ ٱلۡخَبِيرُ
และพระองค์คือผู้ทรงชนะเหนือปวงบ่าวของพระองค์ที่มีความต่ำต้อยอันเหมาะสมแล้วสำหรับพวกเขา พระองค์เป็นผู้ทรงสูงส่งเหนือพวกเขาในทุก ๆ ด้าน ไม่มีอะไรที่จะทำให้พระองค์อ่อนแอได้ และไม่มีใครจะชนะเหนือพระองค์ได้ ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้พระองค์ พระองค์ทรงอยู่เหนือปวงบ่าวของพระองค์ตามความเหมาะสมสำหรับพระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ และพระองค์คือผู้ทรงปรีชาญาณในการสร้าง การบริหาร และการบัญญัติของพระองค์เอง ผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่มีสิ่งใดซุกซ่อนต่อพระองค์ได้
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• بيان حكمة الله تعالى في إرسال كل رسول من جنس من يرسل إليهم؛ ليكون أبلغ في السماع والوعي والقبول عنه.
เหตุผลสำคัญที่เอกองค์อัลลอฮ์ ทรงประทานเราะซู้ลของพระองค์ซึ่งเป็นมนุษย์ด้วยกันนั้น เพื่อความง่ายต่อการยอมรับ รู้ฟังและมีความสำนึกได้ง่ายกว่า

• الدعوة للتأمل في أن تكرار سنن الأوّلين في العصيان قد يقابله تكرار سنن الله تعالى في العقاب.
เชิญชวนให้พินิจพิจารณาว่า แท้จริงการทำสิ่งที่ซ้ำกันกับแนวทางของบรรพชนรุ่นก่อนในการฝ่าฝืนนั้น อาจจะทำให้เกิดการซ้ำกันกับแนวทางของอัลลอฮฺในการลงโทษ

• وجوب الخوف من المعصية ونتائجها.
จำเป็นที่จะต้องกลัวจากการกระทำบาปและผลพวงของมันที่จะตามมา

• أن ما يصيب البشر من بلاء ليس له صارف إلا الله، وأن ما يصيبهم من خير فلا مانع له إلا الله، فلا رَادَّ لفضله، ولا مانع لنعمته.
แท้จริงสิ่งที่มนุษย์ได้ประสบนั้น ทั้งภัยพิบัติ แน่นอนจะไม่มีใครสกัดกั้นมันได้ นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น และสิ่งที่ดีทั้งหลาย ก็จะไม่มีใครยับยั้งได้นอกจากพระองค์เท่านั้น ดังนั้นไม่มีผู้ใดที่สามารถปฏิเสธความดีงามจากพระองค์ได้และไม่มีผู้ใดที่สมารถหยุดยั้งความโปรดปรานของพระองค์

قُلۡ أَيُّ شَيۡءٍ أَكۡبَرُ شَهَٰدَةٗۖ قُلِ ٱللَّهُۖ شَهِيدُۢ بَيۡنِي وَبَيۡنَكُمۡۚ وَأُوحِيَ إِلَيَّ هَٰذَا ٱلۡقُرۡءَانُ لِأُنذِرَكُم بِهِۦ وَمَنۢ بَلَغَۚ أَئِنَّكُمۡ لَتَشۡهَدُونَ أَنَّ مَعَ ٱللَّهِ ءَالِهَةً أُخۡرَىٰۚ قُل لَّآ أَشۡهَدُۚ قُلۡ إِنَّمَا هُوَ إِلَٰهٞ وَٰحِدٞ وَإِنَّنِي بَرِيٓءٞ مِّمَّا تُشۡرِكُونَ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีและปฏิเสธเจ้าว่า : สิ่งใดเล่าที่จะประเสริฐและยิ่งใหญ่ที่สุดในการเป็นพยานแห่งความสัจจะของฉัน? จงกล่าวเถิดว่า : อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุดและประเสริฐยิ่งผู้ทรงเป็นพยานแห่งความสัจจะของฉัน พระองค์คือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกเจ้า พระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งที่ฉันได้นำมันมาแก่พวกเจ้า และสิ่งพวกเจ้ากำลังจะโต้แย้งมัน และแท้จริงนั้นอัลลอฮฺได้ประทานวะฮฺยูให้แก่ฉัน คืออัลกุรอ่าน เพื่อที่ฉันจะได้ใช้มันตักเตือนพวกเจ้า และใช้มันตักเตือนทั้งหมู่มนุษย์และญิน โอ้บรรดาผู้ที่ตั้งภาคี พวกท่านจะยังศรัทธาและเคารพสักการะสิ่งอื่นร่วมกับอัลลอฮฺกระนั้นหรือ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า : ฉันจะไม่รับรองในสิ่งที่พวกท่านนั้นเห็นด้วยกับมัน มันไร้ประโยชน์ จงกล่าวเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นคือพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใด ๆ สำหรับพระองค์ และแท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกเจ้าตั้งมันเป็นภาคีกับพระองค์ทั้งหมด
अरबी तफ़सीरें:
ٱلَّذِينَ ءَاتَيۡنَٰهُمُ ٱلۡكِتَٰبَ يَعۡرِفُونَهُۥ كَمَا يَعۡرِفُونَ أَبۡنَآءَهُمُۘ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓاْ أَنفُسَهُمۡ فَهُمۡ لَا يُؤۡمِنُونَ
บรรดายิวที่เราได้ให้คัมภีร์อัล-เตารอฮฺแก่พวกเขา และบรรดาคริสเตียนที่เราได้ให้คัมภีร์อัล-อินญีลแก่พวกเขาเช่นกันนั้น พวกเขารู้จักท่านนบีมูฮัมมัดดียิ่ง เช่นเดียวกับการที่พวกเขารู้จักลูก ๆ ของพวกเขาเอง อย่างไรก็จะไม่สับสนกับลูก ๆ ของคนอื่น ดังนั้นพวกเขาเองต่างหากที่ทำให้พวกเขาขาดทุนโดยยอมตกนรก โดยที่พวกเขาไม่ยอมศรัทธา
अरबी तफ़सीरें:
وَمَنۡ أَظۡلَمُ مِمَّنِ ٱفۡتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا أَوۡ كَذَّبَ بِـَٔايَٰتِهِۦٓۚ إِنَّهُۥ لَا يُفۡلِحُ ٱلظَّٰلِمُونَ
ไม่มีผู้ใดที่เป็นผู้อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่เขานั้นได้ตั้งภาคีให้แก่อัลลอฮฺ แล้วเขาได้เคารพสักการะมันพร้อมกันกับพระองค์ หรือปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์ที่ได้ประทานมันลงมาแก่ศาสนทูตของพระองค์ แท้จริงบรรดาผู้อธรรมนั้นได้ตั้งคู่ภาคีให้แก่อัลลอฮฺ และปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์ พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จตลอดกาล หากว่าพวกเขานั้นไม่กลับเนื้อกลับตัว
अरबी तफ़सीरें:
وَيَوۡمَ نَحۡشُرُهُمۡ جَمِيعٗا ثُمَّ نَقُولُ لِلَّذِينَ أَشۡرَكُوٓاْ أَيۡنَ شُرَكَآؤُكُمُ ٱلَّذِينَ كُنتُمۡ تَزۡعُمُونَ
และจงรำลึกถึงวันกิยามะฮฺ ในขณะที่เรากำลังรวบรวมพวกเขาทั้งมวลไว้ เราจะไม่ให้ใครสักคนออกไปจากพวกเขา แล้วเราก็จะกล่าวแก่บรรดาผู้ที่พวกเขานั้นได้เคารพสักการะผู้อื่นพร้อมกับอัลลอฮฺ เพื่อเป็นการตำหนิแก่พวกเขาว่า : ไหนเล่า บรรดาภาคีของพวกเจ้าที่พวกเจ้าอ้างกัน ที่โกหกว่าพวกเขานั้นคือบรรดาภาคีของอัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
ثُمَّ لَمۡ تَكُن فِتۡنَتُهُمۡ إِلَّآ أَن قَالُواْ وَٱللَّهِ رَبِّنَا مَا كُنَّا مُشۡرِكِينَ
หลังจากนั้นการแก้ขอตัวพวกเขาก็ไม่ได้เกิดขึ้นเลย หลังจากการทดสอบครั้งนี้ นอกจากพวกเขาปลีกตัวจากบรรดาสิ่งสักการะของพวกเขา และพวกเขาก็ได้กล่าวแบบโกหกว่า : ข้าพระองค์ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าของพวกเรา พวกข้าพระองค์นั้นไม่เคยเป็นบรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้นต่อพระองค์เลย แต่ทว่าพวกเรานั้นเป็นบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อพระองค์ต่างหาก เป็นบรรดาผู้ให้ความเป็นเอกภาพต่อพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
ٱنظُرۡ كَيۡفَ كَذَبُواْ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمۡۚ وَضَلَّ عَنۡهُم مَّا كَانُواْ يَفۡتَرُونَ
จงดูเถิด โอ้มุฮัมมัด ว่า พวกเขาได้โกหกอย่างไรแก่ตัวของพวกเขาเองด้วยการปฏิเสธของพวกเขา ซึ่งการตั้งภาคีให้พ้นไปจากตัวของพวกเขา และให้หายไปจากพวกเขา และการหักหลังของพวกเขาต่อสิ่งที่พวกเขาเคยอุปโลกน์มันขึ้นมาเอง จากบรรดาคู่ภาคีที่พร้อมกับอัลลอฮฺในชีวิตดุนยาของพวกเขา?!
अरबी तफ़सीरें:
وَمِنۡهُم مَّن يَسۡتَمِعُ إِلَيۡكَۖ وَجَعَلۡنَا عَلَىٰ قُلُوبِهِمۡ أَكِنَّةً أَن يَفۡقَهُوهُ وَفِيٓ ءَاذَانِهِمۡ وَقۡرٗاۚ وَإِن يَرَوۡاْ كُلَّ ءَايَةٖ لَّا يُؤۡمِنُواْ بِهَاۖ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءُوكَ يُجَٰدِلُونَكَ يَقُولُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓاْ إِنۡ هَٰذَآ إِلَّآ أَسَٰطِيرُ ٱلۡأَوَّلِينَ
และในหมู่พวกที่ตั้งภาคีนั้นมีผู้ที่สดับฟังเจ้าอยู่บ้าง โอ้เราะซูล ครั้นเมื่อเจ้านั้นได้อ่านอัลกุรอ่าน แต่พวกเขาไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่พวกเขาฟังมันเลย เพราะว่าแท้จริงเรานั้นได้ทำให้มีสิ่งปิดกั้นอยู่บนหัวใจของพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาไม่เข้าใจอัลกุรอ่านเพราะด้วยความดื้อรั้นของพวกเขาและการหันหลังให้ของพวกเขา และเราได้ให้ในหูของพวกเขามีความหนวกอยู่ด้วยให้หลุดพ้นไปจากการฟังที่เป็นประโยชน์ และหากพวกเขาเห็นสัญญาณต่างๆที่ชัดเจนและข้อโต้แย้งที่เห็นได้ชัด พวกเขาก็จะไม่ศรัทธาต่อสิ่งนั้น จนกระทั่งพวกเขาได้มาหาเจ้า แล้วก็จะโต้เถียงกับเจ้าด้วยความเท็จต่อความจริง บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นจะกล่าวว่า : สิ่งที่เจ้านำมันมานั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากมันเป็นสิ่งที่นำมาจากบรรดาหนังสือของคนก่อน ๆ เท่านั้น (นิยายโบราณ)
अरबी तफ़सीरें:
وَهُمۡ يَنۡهَوۡنَ عَنۡهُ وَيَنۡـَٔوۡنَ عَنۡهُۖ وَإِن يُهۡلِكُونَ إِلَّآ أَنفُسَهُمۡ وَمَا يَشۡعُرُونَ
และพวกเขาได้ห้ามผู้คนจากการศรัทธาต่อเราะซูลและได้ทำให้ห่างไกลไปจากเขา ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่ปล่อยให้ใครก็ตามที่ได้รับประโยชน์จากมัน และพวกเขาจะไม่ได้รับประโยชน์เลย และพวกเขาจะไม่ทำให้ใครพินาศด้วยการกระทำของพวกเขาอันนี้ นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น และพวกเขาก็ไม่รู้เลยสิ่งที่พวกเขากำลังกระทำมันอยู่นั้น สำหรับมันแล้ว คือ การทำให้พินาศ
अरबी तफ़सीरें:
وَلَوۡ تَرَىٰٓ إِذۡ وُقِفُواْ عَلَى ٱلنَّارِ فَقَالُواْ يَٰلَيۡتَنَا نُرَدُّ وَلَا نُكَذِّبَ بِـَٔايَٰتِ رَبِّنَا وَنَكُونَ مِنَ ٱلۡمُؤۡمِنِينَ
และหากเจ้าจะได้เห็น โอ้เราะซูล ขณะที่พวกเขาถูกให้หยุดยืนเบื้องหน้าไฟนรกในวันกิยามะฮฺนั้น แล้วพวกเขาก็จะกล่าวอย่างสลดใจว่า : โอ้! หวังว่าเราจะถูกนำกลับไปยังโลกดุนยา และเราก็จะไม่ปฏิเสธบรรดาโองการแห่งพระเจ้าของเราอีก และเราก็จะได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ แน่นอนเจ้าจะได้เห็นอย่างประหลาดใจถึงสถานภาพอันเลวร้ายของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• بيان الحكمة في إرسال النبي عليه الصلاة والسلام بالقرآن، من أجل البلاغ والبيان، وأعظم ذلك الدعوة لتوحيد الله.
บ่งบอกถึงข้อซ่อนเร้นของการส่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ที่มาพร้อมด้วยอัลกุรอ่าน เพื่อเป็นการเผยแพร่และการป่าวประกาศ และสิ่งที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือการเชิญชวนไปสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ

• نفي الشريك عن الله تعالى، ودحض افتراءات المشركين في هذا الخصوص.
เป็นการปฏิเสธคู่ภาคีออกไปจากอัลลอฮฺ ตะอาลา และลบล้างการแต่งเรื่องของบรรดาพวกที่ตั้งภาคี ในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ

• بيان معرفة اليهود والنصارى للنبي عليه الصلاة والسلام، برغم جحودهم وكفرهم.
บ่งบอกถึงการรับรู้ของพวกยิวและคริสเตียนต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ทั้ง ๆ ที่รู้ ก็มีการปฏิเสธต่อความจริง และก็การต่อต้าน

بَلۡ بَدَا لَهُم مَّا كَانُواْ يُخۡفُونَ مِن قَبۡلُۖ وَلَوۡ رُدُّواْ لَعَادُواْ لِمَا نُهُواْ عَنۡهُ وَإِنَّهُمۡ لَكَٰذِبُونَ
มันไม่ใช่เรื่องอะไรเลยของพวกเขา ดังสิ่งที่พวกเขานั้นได้กล่าวมาว่า หากว่าพวกเขาได้ถูกให้กลับไปแน่นอนพวกเขาก็จะศรัทธา แต่ทว่าได้ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว สิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้จากคำพูดของพวกเขาที่ว่า : (ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ พวกเรานั้นไม่ได้เป็นบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเลย) ในขณะที่อวัยวะของพวกเขานั้นได้เป็นสักขีพยานต่อพวกเขา และแม้ว่าพวกเขาถูกให้กลับไปยังโลกดุนยา แน่นอนพวกเขาก็กลับกระทำอีกในสิ่งที่พวกเขาถูกห้ามไว้จากการปฏิเสธและการตั้งภาคี และแท้จริงพวกเขาคือผู้ที่กล่าวเท็จในการให้สัญญาของพวกเขาว่าจะศรัทธาหากว่าพวกเขาได้กลับไป
अरबी तफ़सीरें:
وَقَالُوٓاْ إِنۡ هِيَ إِلَّا حَيَاتُنَا ٱلدُّنۡيَا وَمَا نَحۡنُ بِمَبۡعُوثِينَ
และบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเหล่านั้นได้กล่าวว่า : ไม่มีชีวิตไหนแล้ว นอกจากการดำรงชีวิตของเราในโลกนี้ และพวกเราก็ไม่ใช่ผู้ที่ถูกให้ฟื้นคืนชีพมาอีกเพื่อการสอบสวน
अरबी तफ़सीरें:
وَلَوۡ تَرَىٰٓ إِذۡ وُقِفُواْ عَلَىٰ رَبِّهِمۡۚ قَالَ أَلَيۡسَ هَٰذَا بِٱلۡحَقِّۚ قَالُواْ بَلَىٰ وَرَبِّنَاۚ قَالَ فَذُوقُواْ ٱلۡعَذَابَ بِمَا كُنتُمۡ تَكۡفُرُونَ
และหากว่าเจ้า โอ้เราะซูล จะได้เห็น ขณะที่บรรดาผู้ปฏิเสธต่อการฟื้นคืนชีพถูกให้ยืนอยู่ในระหว่างพระหัตทั้งสอง แน่นอนเจ้าจะได้เห็นอย่างแปลกใจถึงสภาพของพวกอันเลวร้าย ครั้นเมื่อตอนที่อัลลอฮฺได้ทรงตรัสแก่พวกเขาว่า : นี่มิใช่การพื้นคืนชีพใหม่ดอกหรือ ที่พวกเจ้านั้นเคยปฏิเสธมันอย่างมั่นใจเที่ยงแท้แน่นอน โดยที่ไม่มีข้อโต้แย้งและข้อสงสัยใดๆเลยในนั้น?! พวกเขาตอบว่า : ใช่ขอรับ พวกเราขอสาบานด้วยพระเจ้าของพวกเราผู้ที่ได้สร้างเรามา แท้จริงมันนั้นเที่ยงแท้แน่นอนไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลยในนั้น ดังนั้นอัลลอฮฺก็ทรงตรัสแก่พวกในขณะนั้นว่า : พวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษกันเถิด เนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเจ้าต่อวันนี้ ซึ่งที่พวกเจ้านั้นได้เคยปฏิเสธมันในโลกดุนยา
अरबी तफ़सीरें:
قَدۡ خَسِرَ ٱلَّذِينَ كَذَّبُواْ بِلِقَآءِ ٱللَّهِۖ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَتۡهُمُ ٱلسَّاعَةُ بَغۡتَةٗ قَالُواْ يَٰحَسۡرَتَنَا عَلَىٰ مَا فَرَّطۡنَا فِيهَا وَهُمۡ يَحۡمِلُونَ أَوۡزَارَهُمۡ عَلَىٰ ظُهُورِهِمۡۚ أَلَا سَآءَ مَا يَزِرُونَ
แน่นอนได้ขาดทุนไปแล้วบรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อการฟื้นคืนชีพซึ่งวันกิยามะฮฺ และการที่ต้องการออกห่างจากการยืนอยู่ในระหว่างพระหัตทั้งสองของพระองค์ จนกระทั่งเมื่อวันกิยามะฮฺได้มายังพวกเขาโดยกะทันหันที่ไม่มีใครรู้มาก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ได้กล่าวอย่างเศร้าโศกว่า : โอ้ความเศร้าโศกและความผิดหวังของเรา ในสิ่งที่เราได้ทำให้บกพร่องในทางด้านของอัลลอฮฺซึ่งการปฏิเสธศรัทธาต่อมัน (การฟื้นคืนชีพ) และไม่ได้เตรียมความพร้อมต่อวันกิยามะฮฺ และพวกเขาก็ต้องแบกบรรดาบาปของพวกเขาไว้บนหลังของพวกเขาด้วย แน่นอนมันช่างทุเรศเหลือเกิน สิ่งที่พวกเขานั้นกำลังแบกอยู่จากบรรดาบาปนั้น
अरबी तफ़सीरें:
وَمَا ٱلۡحَيَوٰةُ ٱلدُّنۡيَآ إِلَّا لَعِبٞ وَلَهۡوٞۖ وَلَلدَّارُ ٱلۡأٓخِرَةُ خَيۡرٞ لِّلَّذِينَ يَتَّقُونَۚ أَفَلَا تَعۡقِلُونَ
และแน่นอนชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ที่พวกเจ้านั้นกำลังโน้มเอียงเขาหามันนั้น มิใช่อะไรอื่น นอกจากการเล่น และการเพลิดเพลินเท่านั้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติสิ่งใดเลยในนั้นซึ่งที่อัลลอฮฺทรงพอพระทัย และส่วนบ้านแห่งอาคีเราะฮฺนั้นดียิ่งกว่า สำหรับบรรดาผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺที่ปฏิบัติต่อสิ่งที่พระองค์ได้สั่งใช้มันจากการศรัทธาและการเชื่อฟัง และละทิ้งสิ่งที่พระองค์นั้นได้ห้ามมันจากการตั้งภาคีและการฝ่าฝืน พวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ โอ้บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีทั้งหลาย?! ดังนั้นพวกเจ้าจงศรัทธาและปฏิบัติความดีทั้งหลายเถิด
अरबी तफ़सीरें:
قَدۡ نَعۡلَمُ إِنَّهُۥ لَيَحۡزُنُكَ ٱلَّذِي يَقُولُونَۖ فَإِنَّهُمۡ لَا يُكَذِّبُونَكَ وَلَٰكِنَّ ٱلظَّٰلِمِينَ بِـَٔايَٰتِ ٱللَّهِ يَجۡحَدُونَ
โอ้เราะซูล พวกเรารู้ดีว่า การปฏิเสธของพวกเขาที่มีต่อเจ้าเป็นที่ประจักษ์นั้นทำให้เจ้าเสียใจ ดังนั้นก็พึงทราบเถิด แท้จริงในตัวของพวกเขานั้นหาได้ปฏิเสธเจ้าไม่ เพราะว่าพวกเขานั้นรู้ถึงความสัจจะและความไว้วางใจของเจ้า แต่ทว่าบรรดาผู้อธรรมนั้น พวกเขาปฏิเสธหน้าที่ของเจ้าอย่างเป็นที่ประจักษ์ต่างหาก ทั้งที่พวกเขานั้นมั่นใจในตัวพวกเขาเองเกี่ยวกับมัน
अरबी तफ़सीरें:
وَلَقَدۡ كُذِّبَتۡ رُسُلٞ مِّن قَبۡلِكَ فَصَبَرُواْ عَلَىٰ مَا كُذِّبُواْ وَأُوذُواْ حَتَّىٰٓ أَتَىٰهُمۡ نَصۡرُنَاۚ وَلَا مُبَدِّلَ لِكَلِمَٰتِ ٱللَّهِۚ وَلَقَدۡ جَآءَكَ مِن نَّبَإِيْ ٱلۡمُرۡسَلِينَ
และเจ้าอย่าได้นับว่าการปฏิเสธอันนี้นั้นได้เจาะจงต่อสิ่งที่เจ้าได้นำมันมาเท่านั้น และแน่นอนบรรดาเราะซูลก่อนเจ้านั้นได้ถูกปฏิเสธ และหมู่ชนของพวกเขาเองก็ได้ทำร้ายพวกเขา แล้วพวกเขาก็ได้เผชิญต่อสิ่งนั้นด้วยกับการอดทนบนการเผยแพร่และการสละชีพไปในหนทางของอัลลอฮฺ จนกระทั่งชัยชนะจากอัลลอฮฺได้มายังพวกเขา และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อัลลอฮฺนั้นได้กำหนดมันมาได้ซึ่งชัยชนะ และพระองค์ก็ได้สัญญาด้วยกับมันต่อบรรดาเราะซูลของพระองค์ และแท้จริงนั้นได้มายังเจ้าแล้ว โอ้เราะซูล จากข่าวคราวของบรรดาผู้ที่ถูกส่งมาก่อนหน้าเจ้า และสิ่งที่พวกเขานั้นได้ประสบมันจากหมู่ชนของพวกเขา และสิ่งที่อัลลอฮฺนั้นได้ทรงมอบให้แก่พวกเขา จากชัยชนะบนศัตรูของพวกเขา ด้วยการทำลายพวกเขานั่นเอง
अरबी तफ़सीरें:
وَإِن كَانَ كَبُرَ عَلَيۡكَ إِعۡرَاضُهُمۡ فَإِنِ ٱسۡتَطَعۡتَ أَن تَبۡتَغِيَ نَفَقٗا فِي ٱلۡأَرۡضِ أَوۡ سُلَّمٗا فِي ٱلسَّمَآءِ فَتَأۡتِيَهُم بِـَٔايَةٖۚ وَلَوۡ شَآءَ ٱللَّهُ لَجَمَعَهُمۡ عَلَى ٱلۡهُدَىٰۚ فَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلۡجَٰهِلِينَ
และหากว่ามันได้สร้างความลำบากให้แก่เจ้า โอ้เราะซูล สิ่งที่เจ้านั้นต้องเผชิญกับมันจากการปฏิเสธและการผินหลังให้ของพวกเขาไปจากสิ่งที่เจ้านั้นได้นำมันยังพวกเขาจากความจริง หากเจ้าสามารถที่จะแสวงหาช่องใด ๆ ลงในแผ่นดิน หรือบันไดไปสู่ฟากฟ้า ดังนั้นเจ้าก็จงนำมายังพวกเขาซึ่งข้อพิสูจน์และหลักฐานอื่นนอกเหนือสิ่งที่เราเคยได้สนับสนุนมันแก่เจ้า แล้วเจ้าก็จงทำ และหากว่าอัลลอฮฺ ทรงประสงค์รวบรวมพวกเขาให้อยู่บนทางนำที่เจ้าได้นำมันมานั้น แน่นอนพวกเขาก็จะรวบรวม แต่พระองค์นั้นไม่ได้ประสงค์สิ่งนั้น ก็เพื่อเป็นข้อซ่อนเร้น ดังนั้นเจ้าก็จงอย่าได้เป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้โง่งมงายต่อสิ่งนั้น ฉนั้นแล้วเจ้าก็จะพาตัวของเจ้าไปสู่ความเศร้าโศกต่อการที่พวกเขานั้นไม่ศรัทธา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• من عدل الله تعالى أنه يجمع العابد والمعبود والتابع والمتبوع في عَرَصات القيامة ليشهد بعضهم على بعض.
นับเป็นความยุติธรรมของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่พระองค์นั้นจะทรงรวบรวมผู้ที่สักการะ ผู้ที่ถูกสักการะ ผู้ตาม และที่ถูกตามเอาไว้ด้วยกันในลานของวันกิยามะฮฺ เพื่อเป็นพยานต่อกันและกัน

• ليس كل من يسمع القرآن ينتفع به، فربما يوجد حائل مثل ختم القلب أو الصَّمَم عن الانتفاع أو غير ذلك.
ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ฟังอัลกุรอ่านนั้นจะได้รับประโยชน์จากมัน อาจมีอุปสรรคบางอย่างที่มาขวางกั้น เช่น การประทับตราบนหัวใจหรือหูหนวกไร้ซึ่งประโยชน์การใช้งาน หรืออื่นๆ ที่นอกจากนี้

• بيان أن المشركين وإن كانوا يكذبون في الظاهر فهم يستيقنون في دواخلهم بصدق النبي عليه الصلاة والسلام.
เป็นการบ่งบอกว่าพวกที่ตั้งภาคีนั้น ถึงแม้พวกเขาได้ปฏิเสธอย่างเปิดเผย แต่แท้จริงแล้วนั้น พวกเขาจะไว้วางใจ ซึ่งภายในตัวของพวกเขาถึงความสัจจะของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม

• تسلية النبي عليه الصلاة والسلام ومواساته بإعلامه أن هذا التكذيب لم يقع له وحده، بل هي طريقة المشركين في معاملة الرسل السابقين.
เพื่อเป็นการสร้างความเพลิดเพลินและความยินดีให้แก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม โดยการแจ้งให้เขาทราบว่า การปฏิเสธนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาแค่คนเดียว แต่ทว่ามันคือวิธีการหนึ่งของพวกที่ตั้งภาคีในการปฏิบัติตนต่อกันกับบรรดาเราะซูลผู้ที่มาก่อนหน้านี้

۞ إِنَّمَا يَسۡتَجِيبُ ٱلَّذِينَ يَسۡمَعُونَۘ وَٱلۡمَوۡتَىٰ يَبۡعَثُهُمُ ٱللَّهُ ثُمَّ إِلَيۡهِ يُرۡجَعُونَ
แท้จริง ผู้ที่จะตอบรับสิ่งที่เจ้าได้นำมันมานั้น คือ บรรดาผู้ที่รับฟังคำพูดและเข้าใจมันเท่านั้น และบรรดาผู้ปฏิเสธที่ตายนั้นไม่มีกิจธุระแก่พวกเขาเลย แท้จริงแล้วหัวใจของพวกเขานั้นได้ตายด้านไปแล้ว และผู้ตาย อัลลอฮฺก็จะทรงให้พวกเขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺ แล้วพวกเขาก็จะต้องกลับไปยังพระองค์เพียงผู้เดียว เพื่อที่พระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขาบนสิ่งที่พวกเขานั้นได้ทำมาก่อนหน้านี้
अरबी तफ़सीरें:
وَقَالُواْ لَوۡلَا نُزِّلَ عَلَيۡهِ ءَايَةٞ مِّن رَّبِّهِۦۚ قُلۡ إِنَّ ٱللَّهَ قَادِرٌ عَلَىٰٓ أَن يُنَزِّلَ ءَايَةٗ وَلَٰكِنَّ أَكۡثَرَهُمۡ لَا يَعۡلَمُونَ
และพวกตั้งภาคีที่พิถีพิถันพลัดวันประกันพรุ่งต่อการศรัทธาได้กล่าวว่า :ไฉนเล่าจึงไม่มีสัญญาณที่น่าอัศจรรย์ใดเลยที่ถูกประทานลงมาให้แก่มุฮัมมัด เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันจากพระเจ้าของเขาบนความสัจจะของเขา ในสิ่งที่เขาได้นำมันมา? จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงสามารถที่จะให้สัญญาณหนึ่งลงมาตามที่พวกเขาต้องการได้ แต่ทว่าส่วนมากในหมู่พวกตั้งภาคีที่ขอต่อการประทานซึ่งสัญญาณเหล่านั้นไม่รู้ว่าการทำให้สัญญาณต่างๆนั้นลงมา มันจะต้องเป็นไปตามข้อซ่อนเร้นของพระองค์ผู้ที่สูงส่ง ไม่ใช่ต้องตรงต่อสิ่งที่พวกเขาต้องการมัน ดังนั้นหากมันได้ทำให้ถูกลงมาแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ศรัทธา แน่นอนพระองค์ก็จะทรงพินาศต่อพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَمَا مِن دَآبَّةٖ فِي ٱلۡأَرۡضِ وَلَا طَٰٓئِرٖ يَطِيرُ بِجَنَاحَيۡهِ إِلَّآ أُمَمٌ أَمۡثَالُكُمۚ مَّا فَرَّطۡنَا فِي ٱلۡكِتَٰبِ مِن شَيۡءٖۚ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّهِمۡ يُحۡشَرُونَ
และไม่มีสัตว์ใด ๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่บนแผ่นดิน และไม่มีสัตว์ปีกใด ๆ ที่บินอยู่บนท้องฟ้า เว้นแต่เป็นเพียงประชาชาติเยี่ยงพวกเจ้านั่นเอง โอ้ลูกหลานอาดัมเอ๋ย ในทางด้านการสร้างและปัจจัยยังชีพ เรามิได้ละทิ้งสิ่งใดเลยในปผ่นจารึกที่ถูกรักษาไว้ เว้นเสียแต่เรานั้นได้ทำให้มั่นคง และทั้งมวลนั้นอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะต้องกลับไปยังพระเจ้าของพวกเขาเพียงผู้เดียวในวันกิยามะฮฺ พวกเขาจะรวมตัวกันเพื่อแยกการสอบสวน แล้วพระองค์ก็จะทรงตอบแทนพวกเขาทุกอย่างด้วยสิ่งที่พวกเขานั้นสมควรจะได้รับมัน
अरबी तफ़सीरें:
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُواْ بِـَٔايَٰتِنَا صُمّٞ وَبُكۡمٞ فِي ٱلظُّلُمَٰتِۗ مَن يَشَإِ ٱللَّهُ يُضۡلِلۡهُ وَمَن يَشَأۡ يَجۡعَلۡهُ عَلَىٰ صِرَٰطٖ مُّسۡتَقِيمٖ
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรานั้น เปรียบเสมือนคนหูหนวกที่ไม่ได้ยิน และเป็นใบ้ที่พูดไม่ได้ และพร้อมกันนั้นพวกเขาจะอยู่ในบรรดาความมืดโดยที่พวกเขานั้นมองไม่เห็น ดังนั้นสำหรับผู้ที่ตกอยู่ในสภาพนี้เขาจะได้รับทางนำได้อย่างไร?! ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ที่จะทำให้เขาหลง ซึ่งจากหมู่มนุษย์ พระองค์ก็จะทรงให้เขาหลงทางไป และผู้ใดที่พระองค์ทรงประสงค์มอบทางนำให้แก่เขา ด้วยการทำให้เขาอยู่บนหนทางอันเที่ยงตรงที่ไม่ได้คดงอ
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَرَءَيۡتَكُمۡ إِنۡ أَتَىٰكُمۡ عَذَابُ ٱللَّهِ أَوۡ أَتَتۡكُمُ ٱلسَّاعَةُ أَغَيۡرَ ٱللَّهِ تَدۡعُونَ إِن كُنتُمۡ صَٰدِقِينَ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แก่บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเหล่านั้นว่า : พวกท่านบอกฉันหน่อยสิ หากการลงโทษของอัลลอฮฺได้มายังพวกท่าน หรือวันกิยามะฮฺได้มายังพวกท่าน ที่พวกท่านได้ถูกสัญญาถึงการมาของมันนั้น ใช่หรือไม่ในเวลานั้น พวกท่านจะขอสิ่งใดอื่นนอกจากอัลลอฮฺ เพื่อให้มันช่วยปลดเปลื้องสิ่งที่ลงมายังพวกท่านจากภัยพิบัติและความทุกข์ หากพวกท่านเป็นผู้ที่พูดจริงในการอ้างว่าสิ่งที่ถูกสักการะของพวกท่านนั้นสามารถนำประโยชน์มาได้ หรือช่วยปกป้องจากภัยอันตรายได้
अरबी तफ़सीरें:
بَلۡ إِيَّاهُ تَدۡعُونَ فَيَكۡشِفُ مَا تَدۡعُونَ إِلَيۡهِ إِن شَآءَ وَتَنسَوۡنَ مَا تُشۡرِكُونَ
ความจริงนั้น พวกท่านนั้นมิต้องไปวิงวอนขอต่อสิ่งอื่นที่มันนอกเหนือจากอัลลอฮ์ที่สร้างพวกท่านมาหรอก เพราะพระองค์คือทรงทำให้ภัยพิบัติหันเหออกไปจากพวกท่าน และก็ทรงยกสิ่งชั่วร้ายออกไปจากพวกท่าน ดังนั้นพระองค์คือผู้พิทักษ์และมีความสามารถเหนือมัน ส่วนสิ่งที่พวกท่านบูชาที่พวกท่านทำเป็นภาคีพร้อมกับอัลลอฮ์นั้น ก็ทิ้งมันไปเถอะ เพราะพวกท่านก็รู้ว่ามันไม่ได้ให้ประโยชน์และก็ให้โทษเลย
अरबी तफ़सीरें:
وَلَقَدۡ أَرۡسَلۡنَآ إِلَىٰٓ أُمَمٖ مِّن قَبۡلِكَ فَأَخَذۡنَٰهُم بِٱلۡبَأۡسَآءِ وَٱلضَّرَّآءِ لَعَلَّهُمۡ يَتَضَرَّعُونَ
และแท้จริงเราได้ส่งไปยังประชาชาติก่อนหน้าเจ้า โอ้เราะซูล บรรดาศาสนทูตแล้วพวกเขาก็ปฏิเสธต่อบรรดาศาสนทูต และพวกเขาก็ได้หันหลังไปจากสิ่งที่บรรดาศาสนทูตนำพามันมา แล้วเราก็ได้ลงโทษพวกเขาด้วยความแร้นแค้น เช่น ความยากจน และสิ่งที่ทำให้โทษต่อร่างกายของพวกเขา เช่น การเจ็บป่วย เพื่อว่าพวกเขาจะได้นอบน้อมต่อพระเจ้าของพวกเขา และถ่อมตนต่อพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
فَلَوۡلَآ إِذۡ جَآءَهُم بَأۡسُنَا تَضَرَّعُواْ وَلَٰكِن قَسَتۡ قُلُوبُهُمۡ وَزَيَّنَ لَهُمُ ٱلشَّيۡطَٰنُ مَا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
และหากว่าพวกเขานั้นได้ถ่อมตนต่ออัลลอฮฺ ขณะที่ภัยพิบัติของเราได้มายังพวกเขา และได้นอบน้อมต่อพระองค์ แน่นอนพระองค์ก็จะทรงปลดเปลื้องภัยพิบัติออกไปจากพวกเขา เพราะเรานั้นได้เมตตาต่อพวกเขา แต่พวกเขานั้นก็ไม่ได้กระทำมัน แต่ทว่าหัวใจของพวกเขานั้นแข็งกระด้าง ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่พิจารณาและคะยั้นคะยอเตือน และชัยฏอนก็ได้ให้เป็นที่สวยงามแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำกัน จากการปฏิเสธศรัทธาและการฝ่าฝืน ดังนั้นพวกเจ้าก็จงทำต่อไปเถิด บนสิ่งที่พวกเจ้านั้นได้คุ้นเคยอยู่กับมัน
अरबी तफ़सीरें:
فَلَمَّا نَسُواْ مَا ذُكِّرُواْ بِهِۦ فَتَحۡنَا عَلَيۡهِمۡ أَبۡوَٰبَ كُلِّ شَيۡءٍ حَتَّىٰٓ إِذَا فَرِحُواْ بِمَآ أُوتُوٓاْ أَخَذۡنَٰهُم بَغۡتَةٗ فَإِذَا هُم مُّبۡلِسُونَ
ครั้นเมื่อพวกเขาได้ละทิ้งสิ่งที่พวกเขาเคยถูกตักเตือนด้วยกับมัน จากความยากจนอันแร้นแค้นและการเจ็บไข้ได้ป่วย และพวกเขาก็ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ เราก็ได้ตรึงพวกเขาไว้ และทำให้พวกเขาร่ำรวยภายหลังจากความยากจน และเราได้ทำให้ร่างกายของพวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรงหลังจากการเจ็บไข้ได้ป่วย จนกระทั่งเมื่อพวกเขานั้นได้ประสบกับความระเริง และความน่าชื่นชมนั้นที่ได้ปกคลุมอยู่บนพวกเขาด้วยสิ่งที่พวกเขาได้รับมัน การลงโทษของเราก็ได้มายังพวกเขาโดยกระทันหัน แล้วทันใดนั้นพวกเขาก็งงงวยหมดหวังจากสิ่งที่พวกเขานั้นกำลังหวังมัน
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• تشبيه الكفار بالموتى؛ لأن الحياة الحقيقية هي حياة القلب بقَبوله الحق واتباعه طريق الهداية.
เปรียบเทียบผู้ปฏิเสธศรัทธาดังคนตาย เพราะว่าชีวิตที่แท้จริงนั้น คือ การมีชีวิตของหัวใจ โดยการยอมรับของมันต่อความจริง และการปฏิบัติตามของมันในหนทางที่อยู่ในทางนำ

• من حكمة الله تعالى في الابتلاء: إنزال البلاء على المخالفين من أجل تليين قلوبهم وردِّهم إلى ربهم.
หนึ่งในคติพจน์ของอัลลอฮฺ ตะอาลา ในการทดสอบคือ : การประทานบททดสอบลงมาแก่บรรดาผู้ฝ่าฝืน เพื่อเป็นการทำให้จิตใจของพวกเขาอ่อนลง และเป็นการกลับไปหาพระเจ้าของพวกเขา

• وجود النعم والأموال بأيدي أهل الضلال لا يدل على محبة الله لهم، وإنما هو استدراج وابتلاء لهم ولغيرهم.
การที่มีซึ่งความโปรดปรานและทรัพย์สินทั้งหลายอยู่ในมือของหมู่ผู้ที่หลงทางนั้น ไม่ได้ชี้วัดว่าอัลลอฮฺทรงรักพวกเขาเลย แต่ทว่ามัน คือ การล่อลวงและการทดสอบต่อพวกเขาและก็คนอื่น ๆ ด้วยต่างหาก

فَقُطِعَ دَابِرُ ٱلۡقَوۡمِ ٱلَّذِينَ ظَلَمُواْۚ وَٱلۡحَمۡدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
แล้วได้ถูกตัดขาด คนสุดท้ายของกลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธา โดยการถอนรากถอนโคนพวกเขาทั้งหมดด้วยการทำลายล้าง และชัยชนะนั้นเป็นของบรรดาเราะซูลของอัลลอฮฺ การขอบคุณและการสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก ซึ่งเหนือการทำลายล้างของพระองค์ต่อบรรดาปรปักษ์ของพระองค์ และชัยชนะของพระองค์ต่อบรรดาที่รักของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَرَءَيۡتُمۡ إِنۡ أَخَذَ ٱللَّهُ سَمۡعَكُمۡ وَأَبۡصَٰرَكُمۡ وَخَتَمَ عَلَىٰ قُلُوبِكُم مَّنۡ إِلَٰهٌ غَيۡرُ ٱللَّهِ يَأۡتِيكُم بِهِۗ ٱنظُرۡ كَيۡفَ نُصَرِّفُ ٱلۡأٓيَٰتِ ثُمَّ هُمۡ يَصۡدِفُونَ
จงกล่าวแก่บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีหล่านั้นเถิด โอ้เราะซูล ว่า : พวกท่านบอกฉันมาสิว่า หากอัลลอฮฺทรงทำให้พวกท่านนั้นหูหนวก ด้วยการยึดปิดบรรดาหูของพวกเจ้า และทรงทำให้พวกท่านนั้นตาบอดด้วยการเอาบรรดาดวงตาของพวกท่านไป และได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกท่าน แล้วพวกท่านก็จะไม่เข้าใจในสิ่งใดเลยแล้ว ใครเล่าคือผู้ซึ่งได้รับการเคารพสักการะที่เที่ยงแท้ ที่จะมายังพวกท่าน ด้วยสิ่งที่พวกท่านนั้นได้สูญเสียมันไปจากสิ่งนั้น? จงดูเถิด โอ้เราะซูล ว่าอย่างไรเล่าที่เราแจกแจงแก่พวกเขาถึงข้อพิสูจน์ทั้งหลาย และให้มีหลักฐานที่หลากหลาย แล้วพวกเขาก็ยังหันเหไปจากมัน
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَرَءَيۡتَكُمۡ إِنۡ أَتَىٰكُمۡ عَذَابُ ٱللَّهِ بَغۡتَةً أَوۡ جَهۡرَةً هَلۡ يُهۡلَكُ إِلَّا ٱلۡقَوۡمُ ٱلظَّٰلِمُونَ
จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด โอ้เราะซูล ว่า : พวกท่านบอกฉันมาสิว่า หากการลงโทษของอัลลอฮฺนั้นได้มาหาพวกท่านอย่างกระทันหันโดยที่ไม่ใครเลยจากพวกท่านที่รู้สึกถึงมัน หรือได้มายังพวกท่านโดยเปิดเผยอย่างชัดเจน แล้วแท้จริงมันจะไม่ถูกเอาไปด้วยกับการลงโทษอันนั้น เว้นเสียแต่บรรดาผู้อธรรมเท่านั้น เนื่องด้วยการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาต่ออัลลอฮฺและการปฏิเสธต่อบรรดาเราะซูลของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَمَا نُرۡسِلُ ٱلۡمُرۡسَلِينَ إِلَّا مُبَشِّرِينَ وَمُنذِرِينَۖ فَمَنۡ ءَامَنَ وَأَصۡلَحَ فَلَا خَوۡفٌ عَلَيۡهِمۡ وَلَا هُمۡ يَحۡزَنُونَ
และเราจะไม่ส่งคนใดคนหนึ่งที่มาจากบรรดาเราะซูลของเราเลย เว้นเสียจากเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาและเชื่อฟังเท่านั้น ด้วยสิ่งที่มันจะทำให้พวกเขานั้นดีอกดีใจซึ่งที่มาจากความโปรดปรานที่มันจะไม่มีวันหมดและหยุดขาดหายไป และเพื่อเป็นการข่มขู่ต่อบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและฝ่าฝืนถึงการลงโทษของเราอันเจ็บแสบ ดังนั้นผู้ใดที่ศรัทธาต่อบรรดาเราะซูล และได้ปรับปรุงแก้ไขการงานของเขาแล้ว ก็ไม่มีความกลัวใด ๆ สำหรับพวกเขาเลยในสิ่งที่พวกเขานั้นจะต้องเผชิญกับมันในช่วงบั้นปลายของพวกเขา และทั้งนั้นพวกเขาก็จะไม่เศร้าโศกและก็เสียใจต่อสิ่งที่มันได้ผ่านพ้นไปจากพวกเขา จากบรรดาโชคลาภทางด้านโลกดุนยา
अरबी तफ़सीरें:
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُواْ بِـَٔايَٰتِنَا يَمَسُّهُمُ ٱلۡعَذَابُ بِمَا كَانُواْ يَفۡسُقُونَ
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อบรรดาโองการของเรานั้น การลงโทษจะประสบแก่พวกเขา เนื่องจากการออกไปของพวกเขาจากการเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
قُل لَّآ أَقُولُ لَكُمۡ عِندِي خَزَآئِنُ ٱللَّهِ وَلَآ أَعۡلَمُ ٱلۡغَيۡبَ وَلَآ أَقُولُ لَكُمۡ إِنِّي مَلَكٌۖ إِنۡ أَتَّبِعُ إِلَّا مَا يُوحَىٰٓ إِلَيَّۚ قُلۡ هَلۡ يَسۡتَوِي ٱلۡأَعۡمَىٰ وَٱلۡبَصِيرُۚ أَفَلَا تَتَفَكَّرُونَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเหล่านั้นเถิดว่า : ฉันจะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า : ฉันมีคลังสมบัติของอัลลอฮฺ ซึ่งปัจจัยยังชีพ แล้วฉันก็จะใช้จ่ายมันตามสิ่งที่ฉันต้องการ และฉันก็จะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า : แท้จริงฉันนั้นรู้ถึงสิ่งเร้นลับ เว้นแต่สิ่งที่อัลลอฮฺนั้นทรงได้เปิดเผยมันให้แก่ฉัน จากการวะฮฺยู และฉันก็จะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า : ฉันคือผู้หนึ่งที่มาจากบรรดามลาอิกะฮฺ จริงแล้วฉันนั้นคือเราะซูลที่มาจากอัลลอฮฺ ฉันจะไม่ปฏิบัติตาม นอกจากสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันเท่านั้น และฉันก็จะไม่แอบอ้างต่อสิ่งที่มันไม่ใช่ของของฉัน โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด ผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ดวงตาของเขามืดบอดจากความจริง กับผู้ศรัทธาที่มองเห็นความจริงและศรัทธาต่อมันนั้น จะเท่าเทียมกันหรือ? โอ้บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเอ๋ย พวกท่านจะไม่ใคร่ครวญด้วยสติปัญญาของพวกท่าน ถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวของพวกท่านจากบรรดาโองการต่างๆ ดอกหรือ
अरबी तफ़सीरें:
وَأَنذِرۡ بِهِ ٱلَّذِينَ يَخَافُونَ أَن يُحۡشَرُوٓاْ إِلَىٰ رَبِّهِمۡ لَيۡسَ لَهُم مِّن دُونِهِۦ وَلِيّٞ وَلَا شَفِيعٞ لَّعَلَّهُمۡ يَتَّقُونَ
และโอ้เราะซูลเอ๋ย เจ้าจงข่มขู่ด้วยอัลกุรอ่านอันนี้ ที่บรรดาผู้เกรงกลัวว่าพวกเขาจะถูกนำไปชุมนุมยังพระเจ้าของพวกเขาในวันกิยามะฮฺ โดยที่พวกเขานั้นไม่มีผู้ปกครองอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺที่ทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ และไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใดที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ไปจากพวกเขาได้ หวังว่าพวกเขาจะยำเกรงต่ออัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ต่าง ๆ ของพระองค์และออกห่างจากคำสั่งห้ามต่าง ๆ ของพระองค์ แล้วพวกเขาเหล่านั้นคือบรรดาผู้ที่ได้รับประโยชน์จากอัลกุรอ่าน
अरबी तफ़सीरें:
وَلَا تَطۡرُدِ ٱلَّذِينَ يَدۡعُونَ رَبَّهُم بِٱلۡغَدَوٰةِ وَٱلۡعَشِيِّ يُرِيدُونَ وَجۡهَهُۥۖ مَا عَلَيۡكَ مِنۡ حِسَابِهِم مِّن شَيۡءٖ وَمَا مِنۡ حِسَابِكَ عَلَيۡهِم مِّن شَيۡءٖ فَتَطۡرُدَهُمۡ فَتَكُونَ مِنَ ٱلظَّٰلِمِينَ
โอ้เราะซูล เจ้าจงอย่าทำให้ห่างเหินไปจากวงนั่งของเจ้า ซึ่งบรรดามุสลิมีนที่ขัดสน ที่พวกเขานั้นได้อยู่ในการทำอิบาดะฮฺอย่างตลอดต่ออัลลอฮฺ ทั้งในเวลาเช้าและเย็น ซึ่งเป็นบรรดาผู้ที่บริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในการทำอิบาดะฮฺ และอย่าห่างเหินไปจากพวกเขาเพื่อที่เจ้านั้นจะได้เข้าใกล้ชิดกับบรรดาหัวหอกของพวกที่ตั้งภาคี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแก่เจ้าแต่อย่างใดเลย ต่อการชำระบัญชีบรรดาคนจนเหล่านั้น แต่ทว่าการชำระบัญชีของพวกเขานั้นอยู่ ณ ที่พระเจ้าของพวกเขา และก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแก่พวกเขาแต่อย่างใด ต่อการชำระบัญชีของเจ้า แท้จริงเจ้านั้น หากเจ้าได้ทำให้พวกเขาห่างเหินไปจากวงนั่งของเจ้า (ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นแล้ว) เจ้าก็จะกลายเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้ก้าวข้ามเกินขอบเขตของอัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الأنبياء بشر، ليس لهم من خصائص الربوبية شيء البتة، ومهمَّتهم التبليغ، فهم لا يملكون تصرفًا في الكون، فلا يعلمون الغيب، ولا يملكون خزائن رزق ونحو ذلك.
บรรดานบีทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ สำหรับพวกเขาไม่มีสิ่งใดเลยจากคุณลักษณะเฉพาะของความเป็นพระเจ้า และภารกิจของพวกเขา คือ การเผยแพร่ แล้วพวกเขานั้นก็มิได้ครอบครองพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในจักรวาลเลย พวกเขาก็มิได้รู้ถึงสิ่งเร้นลับ และมิได้ครอบครองบรรดาคลังปัจจัยยังชีพใด ๆ เลย และอื่น ๆ อีกในทำนองนั้น

• اهتمام الداعية بأتباعه وخاصة أولئك الضعفاء الذين لا يبتغون سوى الحق، فعليه أن يقرِّبهم، ولا يقبل أن يبعدهم إرضاء للكفار.
การให้ความสำคัญของนักการเผยแพร่ต่อผู้ที่ติดตามเขา โดยเฉพาะบรรดาผู้อ่อนแอเหล่านั้นที่มิได้แสวงหาสิ่งอื่นใดนอกเหนือความจริง ก็ให้เขานั้นทำตัวให้ใกล้ชิดกับพวกเขา และจะไม่ยอมรับต่อการที่เขานั้นจะคิดทำการห่างเหินไปจากพวกเขา เพื่อไปโปรดปรานต่อบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา

• إشارة الآية إلى أهمية العبادات التي تقع أول النهار وآخره.
โองการนี้บ่งบอกถึงความสำคัญของการทำอิบาดะฮฺที่เกิดขึ้น(ปฏิบัติกัน)ในช่วงแรกของกลางวันและช่วงสุดท้ายของมัน

وَكَذَٰلِكَ فَتَنَّا بَعۡضَهُم بِبَعۡضٖ لِّيَقُولُوٓاْ أَهَٰٓؤُلَآءِ مَنَّ ٱللَّهُ عَلَيۡهِم مِّنۢ بَيۡنِنَآۗ أَلَيۡسَ ٱللَّهُ بِأَعۡلَمَ بِٱلشَّٰكِرِينَ
และในทำนองนั้นเราได้ทดสอบบางคนของพวกเขาด้วยอีกบางคน แล้วเราก็ได้ทำให้พวกเขานั้นเป็นผู้ที่ผาดพลั้งในบรรดาโชคลาภแห่งโลกดุนยาของพวกเขา เราได้ทดสอบพวกเขาด้วยสิ่งนั้น ก็เพื่อพวกปฏิเสธศรัทธาจะได้กล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ยากจนและขัดสนว่า : บรรดาคนจนเหล่านี้กระนั้นหรือที่อัลลอฮฺทรงกรุณาแก่พวกเขาด้วยการให้ทางนำ ในระหว่างพวกเรา?! หากว่าการศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่ดี พวกเขานั้นไม่อาจนำหน้าพวกเราไปได้หรอก ดังนั้นพวกเราคือผู้ที่มาก่อน อัลลอฮฺนั้นมิใช่เป็นผู้ทรงรู้ยิ่งดอกหรือ?! ต่อบรรดาผู้ที่กตัญญูในความโปรดปรานของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ทรงให้พวกเขาบรรลุผลสำเร็จต่อการศรัทธา และพระองค์ก็ทรงรู้ยิ่งต่อบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธามัน ดังนั้นพระองค์ก็ทรงปล่อยพวกเขา แล้วพวกเขานั้นก็ไม่ศรัทธา แน่นอนแท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงรู้ยิ่งต่อพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَإِذَا جَآءَكَ ٱلَّذِينَ يُؤۡمِنُونَ بِـَٔايَٰتِنَا فَقُلۡ سَلَٰمٌ عَلَيۡكُمۡۖ كَتَبَ رَبُّكُمۡ عَلَىٰ نَفۡسِهِ ٱلرَّحۡمَةَ أَنَّهُۥ مَنۡ عَمِلَ مِنكُمۡ سُوٓءَۢا بِجَهَٰلَةٖ ثُمَّ تَابَ مِنۢ بَعۡدِهِۦ وَأَصۡلَحَ فَأَنَّهُۥ غَفُورٞ رَّحِيمٞ
และเมื่อบรรดาผู้ศรัทธาต่อบรรดาโองการของเราได้มาหาเจ้า โอ้เราะซูล ซึ่งบนความจริงในสิ่งที่เจ้าได้นำมา ก็จงกล่าวขอความศานติแด่พวกเขาเถิด เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่พวกเขา และจงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขาถึงความเมตตาของอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺได้กำหนดการเอ็นดูเมตตาไว้บนตัวของพระองค์ ถือเป็นการกำหนดอันประเสริฐ แล้วผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากระทำความชั่วโดยที่ไม่รู้ แล้วเขาก็ได้สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว และปรับปรุงแก้ไขการงานของเขาหลังจากที่เขานั้นได้ทำมันลงไป แท้จริงอัลลอฮฺก็จะทรงยกโทษให้แก่เขาในสิ่งที่เขาได้ทำมา ดังนั้น อัลลอฮฺคือผู้ทรงอภัยโทษยิ่งแด่ผู้ที่ได้สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวจากป่วงบ่าวของพระองค์ คือผู้ทรงเอ็นดูเมตตาต่อพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ نُفَصِّلُ ٱلۡأٓيَٰتِ وَلِتَسۡتَبِينَ سَبِيلُ ٱلۡمُجۡرِمِينَ
และดังที่เราได้แจกแจงต่อเจ้าถึงสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว เรานั้นได้แจกแจงหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ของเราแก่คนอธรรม และเป็นชี้แจงถึงแนวทางของผู้กระทำผิดและวิถีทางของพวกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงไปจากมันและระวังมัน
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ إِنِّي نُهِيتُ أَنۡ أَعۡبُدَ ٱلَّذِينَ تَدۡعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِۚ قُل لَّآ أَتَّبِعُ أَهۡوَآءَكُمۡ قَدۡ ضَلَلۡتُ إِذٗا وَمَآ أَنَا۠ مِنَ ٱلۡمُهۡتَدِينَ
จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล ว่า : แท้จริงอัลลอฮฺนั้นได้ห้ามฉันจากการเคารพสักการะ ที่พวกท่านนั้นกำลังเคารพสักการะกันอยู่ อื่นจากอัลลอฮฺ จงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล ว่า : ฉันจะไม่ปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเจ้า ในการเคารพสักการะที่นอกเหนือจากอัลลอฮฺ ถ้าเช่นนั้น หากฉันได้ปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเจ้าในสิ่งนั้น แน่นอนฉันก็ต้องเป็นผู้ที่หลงผิดไปจากหนทางที่เที่ยงแท้ ฉันก็จะไม่ได้รับทางนำที่จะไปยังมัน และนี่คือสภาพของคนทุก ๆ คนที่ปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำโดยปราศจากหลักฐานที่มาจากอัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ إِنِّي عَلَىٰ بَيِّنَةٖ مِّن رَّبِّي وَكَذَّبۡتُم بِهِۦۚ مَا عِندِي مَا تَسۡتَعۡجِلُونَ بِهِۦٓۚ إِنِ ٱلۡحُكۡمُ إِلَّا لِلَّهِۖ يَقُصُّ ٱلۡحَقَّۖ وَهُوَ خَيۡرُ ٱلۡفَٰصِلِينَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเหล่านั้นเถิดว่า : แท้จริงฉันอยู่บนหลักฐานอันชัดเจนจากพระเจ้าของฉัน มิใช่อยู่บนอารมณ์ใฝ่ต่ำ และพวกเจ้านั้นได้ปฏิเสธต่อหลักฐานนั้น ที่ฉันนั้นไม่มีสิ่งที่พวกเจ้าเร่งรีบให้มันเกิดมากันดอก จากการลงโทษและโองการต่าง ๆ อันมหัศจรรย์ที่พวกท่านนั้นได้ร้องขอมัน แต่สิ่งนั้นมันเกิดมาด้วยพระหัตถ์ของอัลลอฮฺ แท้จริงการชี้ขาดนั้นมิใช่สิทธิของใครอื่น –ทั้งหมดที่พวกท่านได้ขอมา- นอกจากเป็นสิทธิของอัลลอฮฺเท่านั้น โดยที่พระองค์จะทรงแจ้งความจริง และชี้ขาดต่อมัน และพระองค์คือผู้ที่แจกแจงและแยกแยะผู้ถูกออกจากผู้เท็จที่ดีที่สุด
अरबी तफ़सीरें:
قُل لَّوۡ أَنَّ عِندِي مَا تَسۡتَعۡجِلُونَ بِهِۦ لَقُضِيَ ٱلۡأَمۡرُ بَيۡنِي وَبَيۡنَكُمۡۗ وَٱللَّهُ أَعۡلَمُ بِٱلظَّٰلِمِينَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า หากที่ฉันมีหรือในกำมือของฉันมีสิ่ง (อำนาจ) ที่พวกเจ้าเร่งรีบต่อมัน จากการลงโทษ แน่นอนฉันได้ส่งมันลงมาให้แก่พวกท่าน และขณะนั้นเองกิจการทั้งหลายก็ถูกชี้ขาดระหว่างฉันกับพวกท่านอย่างแน่นอน และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรู้ยิ่งต่อผู้อธรรมทั้งหลาย นานแค่ไหนแล้วที่พระองค์ได้เลื่อนเวลาให้พวกเขา และเมื่อไหร่กันที่พระองค์นั้นจะทรงลงโทษพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
۞ وَعِندَهُۥ مَفَاتِحُ ٱلۡغَيۡبِ لَا يَعۡلَمُهَآ إِلَّا هُوَۚ وَيَعۡلَمُ مَا فِي ٱلۡبَرِّ وَٱلۡبَحۡرِۚ وَمَا تَسۡقُطُ مِن وَرَقَةٍ إِلَّا يَعۡلَمُهَا وَلَا حَبَّةٖ فِي ظُلُمَٰتِ ٱلۡأَرۡضِ وَلَا رَطۡبٖ وَلَا يَابِسٍ إِلَّا فِي كِتَٰبٖ مُّبِينٖ
และ ณ ที่อัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้นมีคลังแห่งความเร้นลับ โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงมันได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น และพระองค์ทรงรู้ทุก ๆ สิ่งที่อยู่บนบก ซึ่งจากสัตว์ พืช และสิ่งที่ไม่มีชีวิต และพระองค์ก็ทรงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในท้องทะเล ซึ่งจากสัตว์และพืช และสิ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากใบไม้ ไม่ว่าที่แห่งหนใด และจะไม่มีเมล็ดพืชใดที่ซ่อนอยู่ในดิน และจะไม่มีความเปียกชื้นใด และความแห้งใด นอกจากมันจะมั่นคงอยู่ในบันทึกอันชัดแจ้ง ซึ่งมันคือ กระดานบันทึกที่ถูกปกปักษ์รักษาไว้
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الله تعالى يجعل العباد بعضهم فتنة لبعض، فتتفاوت درجاتهم في الرزق وفي الكفر والإيمان، والكفر والإيمان ليس منوطًا بسعة الرزق وضيقه.
อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงทำให้พวกบ่าวบางคนในหมู่พวกเขาเป็นสิ่งล่อใจแก่บางคน แล้วระดับขั้นของพวกเขาก็แตกต่างกันไป ซึ่งในทางด้านปัจจัยยังชีพ ทางด้านการปฏิเสธการศรัทธา ทางด้านการศรัทธา ฉะนั้นการปฏิเสธศรัทธาและการศรัทธานั้น มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับความกว้างขวางของปัจจัยยังชีพและความแคบของมัน

• من أخلاق الداعية طلاقة الوجه وإلقاء التحية والتبسط والسرور بأصحابه.
ส่วนหนึ่งจากมารยาทของนักเผยแพร่ คือ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่งการทักทายกัน การทำให้เข้าใจง่าย และมีความสนุกสนานกับบรรดาเพื่อนของเขา

• على الداعية اجتناب الأهواء في عقيدته ومنهجه وسلوكه.
สำหรับนักเผยแพร่นั้นจำเป็นต้องออกห่างจากอารมณ์ใฝ่ต่ำ ทั้งทางด้านหลักความเชื่อของเขา และวิธีทางของเขา และคุณลักษณะนิสัยของเขา

• إثبات تفرد الله عز وجل بعلم الغيب وحده لا شريك له، وسعة علمه في ذلك، وأنه لا يفوته شيء ولا يعزب عنه من مخلوقاته شيء إلا وهو مثبت مدوَّن عنده سبحانه بأدق تفاصيله.
ตั้งข้อยึดมั่นถึงความเป็นเอกะของอัลลอฮฺ ตะอาลา โดยการรับรู้ถึงสิ่งเร้นลับแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดเลยสำหรับพระองค์ และความรอบรู้ของพระองค์เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นกว้างไกลไพศาล และซึ่งพระองค์นั้น จะไม่มีสิ่งใดพลาดพ้นไปจากพระองค์ได้ หรือออกห่างไปจากพระองค์ได้ จากบรรดาสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์ เว้นเสียแต่มันนั้นมั่นคงถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดยิ่ง ณ ที่พระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์

وَهُوَ ٱلَّذِي يَتَوَفَّىٰكُم بِٱلَّيۡلِ وَيَعۡلَمُ مَا جَرَحۡتُم بِٱلنَّهَارِ ثُمَّ يَبۡعَثُكُمۡ فِيهِ لِيُقۡضَىٰٓ أَجَلٞ مُّسَمّٗىۖ ثُمَّ إِلَيۡهِ مَرۡجِعُكُمۡ ثُمَّ يُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمۡ تَعۡمَلُونَ
และพระองค์คือผู้ที่ทรงจับขังบรรดาวิญญาณของพวกเจ้า (ให้พวกเจ้าตาย) ขณะที่หลับนอน ซึ่งมันคือการจับขังอันชั่วคราว และทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำขึ้น จากการงานทั้งหลายในเวลากลางวัน ซึ่งช่วงเวลากิจกรรมของพวกเจ้า แล้วก็ทรงให้พวกเจ้าฟื้นคืนชีพในเวลากลางวัน ภายหลังจากการจับขังบรรดาวิญญาณของพวกเจ้า เพื่อที่พวกเจ้าจะได้ประกอบการงานของพวกเจ้า จนกระทั่งเวลาแห่งอายุของพวกเจ้าที่ถูกกำหนดไว้ ณ ที่อัลลอฮฺนั้นจะสิ้นสุดไป แล้วยังพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นคือการกลับไปของพวกเจ้า ซึ่งการฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺ แล้วพระองค์จะทรงบอกแก่พวกเจ้าถึงสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันในการใช้ชีวิตของพวกเจ้า ณ โลกดุนยา และพระองค์ก็จะทรงตอบแทนมันต่อพวกเจ้า
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلۡقَاهِرُ فَوۡقَ عِبَادِهِۦۖ وَيُرۡسِلُ عَلَيۡكُمۡ حَفَظَةً حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَ أَحَدَكُمُ ٱلۡمَوۡتُ تَوَفَّتۡهُ رُسُلُنَا وَهُمۡ لَا يُفَرِّطُونَ
และพระองค์คือผู้ทรงชนะเหนือปวงบ่าวของพระองค์ ซึ่งที่ความต่ำต้อยนั้นมีแด่พวกเขา พระผู้ทรงอยู่สูงเหนือพวกเขาในทุก ๆ ด้าน ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้นอบน้อมต่อพระองค์ อยู่เหนือปวงบ่าวของพระองค์อย่างเหมาะสมต่อเกียรติของพระองค์ ผู้ที่ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง โอ้มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงได้ส่งบรรดามลาอิกะฮฺผู้ที่มีเกียรติมายังพวกเจ้า เพื่อคำนวณนับการงานของของพวกเจ้า จนกระทั่งเมื่ออายุไขของคนใดคนหนึ่งในหมู่ของพวกเจ้าสิ้นสุดลง ด้วยการจับขังวิญญาณเขา โดยทูตแห่งความตายและวงศ์วานของเขา และพวกเขาก็จะไม่ทำให้บกพร่องในสิ่งที่พวกเขานั้นถูกสั่งใช้ให้กระทำมัน
अरबी तफ़सीरें:
ثُمَّ رُدُّوٓاْ إِلَى ٱللَّهِ مَوۡلَىٰهُمُ ٱلۡحَقِّۚ أَلَا لَهُ ٱلۡحُكۡمُ وَهُوَ أَسۡرَعُ ٱلۡحَٰسِبِينَ
แล้วทั้งหมดนั้น บรรดาผู้ที่วิญญาณของพวกเขาถูกจับขัง ก็จะถูกนำกลับไปยังอัลลอฮฺ ผู้เป็นเจ้าอันแท้จริงของพวกเรา เพื่อที่พระองค์นั้นจะตอบแทนพวกเขาต่อการกระทำต่าง ๆ ของพวกเขา สำหรับพระองค์นั้นทรงมีการตุลาการที่มีประสิทธิภาพและยุติธรรมต่อพวกเขา และพระองค์เป็นผู้ที่รวดเร็วยิ่งในการชำระพวกเขาและคิดบัญชีการงานของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ مَن يُنَجِّيكُم مِّن ظُلُمَٰتِ ٱلۡبَرِّ وَٱلۡبَحۡرِ تَدۡعُونَهُۥ تَضَرُّعٗا وَخُفۡيَةٗ لَّئِنۡ أَنجَىٰنَا مِنۡ هَٰذِهِۦ لَنَكُونَنَّ مِنَ ٱلشَّٰكِرِينَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเหล่านั้นเถิดว่า : ใครเล่า จะช่วยปกป้องพวกเจ้าและช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้นจากความหายนะอันนี้ ที่พวกเจ้านั้นกำลังเผชิญกับมันในบรรดาความมืดของทางบกและทางทะเล? โดยที่พวกเจ้าวิงวอนขอต่อเขาด้วยความนอบน้อมถ่อมตนทั้งในที่ลับและเปิดเผยว่า : ถ้าหากพระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากความหายนะนี้แล้ว แน่นอนพวกเราก็จะเป็นผู้ที่กตัญญูรู้คุณในความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อเรา โดยที่เรานั้นจะไม่เคารพสักการะสิ่งใดอื่นนอกจากพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
قُلِ ٱللَّهُ يُنَجِّيكُم مِّنۡهَا وَمِن كُلِّ كَرۡبٖ ثُمَّ أَنتُمۡ تُشۡرِكُونَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า : อัลลอฮฺคือผู้ที่คอยปกป้องพวกท่านจากมันและจะทำให้เจ้านั้นรอดพ้นจากมัน และจากความทุกข์ยากทุกอย่างด้วย แต่แล้วพวกท่านก็ตั้งภาคีอื่นอีกกับพระองค์ในช่วงที่สุขสบาย แล้วความอยุติธรรมใดเล่า ที่อยู่เหนือสิ่งที่พวกท่านนั้นกำลังทำมันอยู่?!
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ هُوَ ٱلۡقَادِرُ عَلَىٰٓ أَن يَبۡعَثَ عَلَيۡكُمۡ عَذَابٗا مِّن فَوۡقِكُمۡ أَوۡ مِن تَحۡتِ أَرۡجُلِكُمۡ أَوۡ يَلۡبِسَكُمۡ شِيَعٗا وَيُذِيقَ بَعۡضَكُم بَأۡسَ بَعۡضٍۗ ٱنظُرۡ كَيۡفَ نُصَرِّفُ ٱلۡأٓيَٰتِ لَعَلَّهُمۡ يَفۡقَهُونَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า อัลลอฮฺคือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกเจ้า โดยที่มันจะมายังพวกเจ้าจากทางเบื้องบนของพวกเจ้า เช่น หิน ฟ้าแลบและน้ำท่วม หรือจากทางด้านใต้ของพวกเจ้า เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกแตกออกจากกัน หรือทำให้พวกเจ้าเกิดความเห็นต่างกัน แล้วทุกคนจากหมู่ของพวกเจ้าก็จะปฏิบัติตามอารมณ์ของเขา และบางส่วนของพวกเจ้าก็จะรุกรานอีกบางส่วน โอ้เราะซูล จงดูเถิดว่า เรากำลังแจกแจงบรรดาข้อพิสูจน์และหลักฐานต่างๆ ให้แก่พวกเขาอย่างไร และเราก็ได้อธิบายมันเพื่อว่าพวกเขาจะได้เข้าใจถึงสิ่งที่เจ้าได้นำมันมานั้น มันคือความจริง และถึงสิ่งที่อยู่ ณ พวกเขานั้น มันเป็นเท็จ
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَّبَ بِهِۦ قَوۡمُكَ وَهُوَ ٱلۡحَقُّۚ قُل لَّسۡتُ عَلَيۡكُم بِوَكِيلٖ
และกลุ่มชนของเจ้านั้นได้ปฏิเสธอัลกุรอ่านอันนี้ ทั้ง ๆ ที่อัลกุรอ่านนั้นเป็นสัจธรรมที่ไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ เลย ว่ามันมาจากอัลลอฮฺ โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า : ฉันมิใช่ผู้รับมอบหมายโดยการมาควบคุมพวกท่าน ฉันนั้นเป็นเพียงแค่ผู้ที่คอยตักเตือนพวกท่านเท่านั้นว่าในระหว่างสองฝามือของฉัน คือ การลงโทษอันเจ็บแสบ
अरबी तफ़सीरें:
لِّكُلِّ نَبَإٖ مُّسۡتَقَرّٞۚ وَسَوۡفَ تَعۡلَمُونَ
สำหรับแต่ละข่าวคราวนั้น ย่อมมีเวลาการเกิดขึ้นและเวลาการสิ้นสุดของมัน และจากข่าวนั้น คือ ข่าวเกี่ยวกับการกลับไปยังพระเจ้าของพวกเจ้าและการรับรู้ถึงจุดจบของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็จะได้รู้ถึงสิ่งนั้นก็ต่อเมื่อพวกเจ้าฟื้นคืนชีพมาในวันกิยามะฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
وَإِذَا رَأَيۡتَ ٱلَّذِينَ يَخُوضُونَ فِيٓ ءَايَٰتِنَا فَأَعۡرِضۡ عَنۡهُمۡ حَتَّىٰ يَخُوضُواْ فِي حَدِيثٍ غَيۡرِهِۦۚ وَإِمَّا يُنسِيَنَّكَ ٱلشَّيۡطَٰنُ فَلَا تَقۡعُدۡ بَعۡدَ ٱلذِّكۡرَىٰ مَعَ ٱلۡقَوۡمِ ٱلظَّٰلِمِينَ
และเมื่อเจ้า โอ้เราะซูล เห็นบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในบรรดาโองการของเราโดยการประชดและเยาะเย้ย แล้วเจ้าก็จงออกห่างจากพวกเขาเสีย จนกว่าพวกเขาจะเข้าสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอื่นที่ปราศจากการประชดและเยาะเย้ยต่อบรรดาโองการของเรา และเมื่อไหร่ที่ชัยฏอนได้ทำให้เจ้าลืมและเผลอนั่งกับพวกเขา หลังจากนั้นเจ้าก็นึกขึ้นได้ ก็จงลุกขึ้นออกไปจากวงนั่งของพวกเขา และเจ้าก็ได้อย่านั่งร่วมกับผู้รุกรานเหล่านั้นอีกต่อไป
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• إثبات أن النومَ موتٌ، وأن الأرواح تُقْبض فيه، ثم تُرَد عند الاستيقاظ.
เป็นการยืนยันว่าการนอนนั้นคือการตาย และวิญญาณทั้งหลายก็จะถูกกักขังไว้ หลังจากนั้นก็จะถูกปล่อยออกมาในขณะที่ตื่นขึ้น

• الاستدلال على استحقاق الله تعالى للألوهية بدليل الفطرة، فإن أهل الكفر يؤمنون بالله تعالى ويرجعون لفطرتهم عند الاضطرار والوقوع في المهالك، فيسألون الله تعالى وحده.
เป็นการนำเอาหลักฐานมายืนยันถึงสิทธิของอัลลอฮฺ ตะอาลา ในการเป็นพระเจ้า ด้วยหลักฐานทางสัญชาตญาณ แท้จริงแล้วกลุ่มชนผู้ปฏิเสธเหล่านั้น พวกเขาจะศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา และจะกลับไปสู่สัญชาตญาณของพวกเขาในยามที่คับขันและเกิดความพินาศ แน่นอนพวกเขาก็จะขอพรต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา เพียงองค์เดียว

• إلزام المشركين بمقتضى سلوكهم، وإقامة الدليل على انقلاب فطرتهم، بكونهم يستغيثون بالله وحده في البحر عند الشدة، ويشركون به حين يسلمهم وينجيهم إلى البر.
การที่บรรดาผู้ตั้งภาคีเดินไปตามแนวทางเดิมของพวกเขาเป็นหลักฐานชัดเจนว่า พวกเขาได้ขัดต่อสัญชาตญาณของพวกเขา ทั้งนี้เมื่อพวกเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮ์เพียงผู้เดียว ขณะที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ยากเมื่ออยู่ในท้องทะเล และพวกเขาก็ตั้งภาคีต่อพระองค์ หลังจากที่พระองค์ได้ให้พวกเขาปลอดภัยถึงฝั่งแล้ว

• عدم جواز الجلوس في مجالس أهل الباطل واللغو، ومفارقتُهم، وعدم العودة لهم إلا في حال إقلاعهم عن ذلك.
ไม่อนุญาตให้นั่งร่วมอยู่ในวงนั่งของกลุ่มคนเท็จและผู้เหลวไหล และให้ออกห่างจากพวกเขา และไม่ควรย้อนกลับไปหาพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะละทิ้งสิ่งนั้น

وَمَا عَلَى ٱلَّذِينَ يَتَّقُونَ مِنۡ حِسَابِهِم مِّن شَيۡءٖ وَلَٰكِن ذِكۡرَىٰ لَعَلَّهُمۡ يَتَّقُونَ
และไม่มีผลกระทบอันใดเลย ต่อบรรดาผู้ที่ยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์และออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์ จากการชำระบรรดาผู้อธรรม แต่ทว่าสำหรับพวกเขานั้น สมควรที่จะต้องห้ามปรามพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขานั้นกำลังกระทำมันจากสิ่งที่เป็นการปฏิเสธ หวังว่าพวกเขาจะได้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ แล้วพวกเขาก็จะปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์และก็จะออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَذَرِ ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُواْ دِينَهُمۡ لَعِبٗا وَلَهۡوٗا وَغَرَّتۡهُمُ ٱلۡحَيَوٰةُ ٱلدُّنۡيَاۚ وَذَكِّرۡ بِهِۦٓ أَن تُبۡسَلَ نَفۡسُۢ بِمَا كَسَبَتۡ لَيۡسَ لَهَا مِن دُونِ ٱللَّهِ وَلِيّٞ وَلَا شَفِيعٞ وَإِن تَعۡدِلۡ كُلَّ عَدۡلٖ لَّا يُؤۡخَذۡ مِنۡهَآۗ أُوْلَٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ أُبۡسِلُواْ بِمَا كَسَبُواْۖ لَهُمۡ شَرَابٞ مِّنۡ حَمِيمٖ وَعَذَابٌ أَلِيمُۢ بِمَا كَانُواْ يَكۡفُرُونَ
เจ้าจงปล่อยบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีที่ยึดเอาศาสนาของพวกเขาเป็นของเล่นและเป็นสิ่งเพลิดเพลิน โดยที่พวกเขานั้นทำมันให้เป็นสิ่งที่ตลกขบขันและเยาะเย้ยต่อมัน และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ได้หลอกลวงพวกเขาจากความสุขอันชั่วครู่ และเจ้า โอ้เราะสูล จงเตือนมนุษย์ด้วยอัลกุรอานเพื่อมิให้ชีวิตหนึ่งชีวิตใดถูกส่งไปยังความพินาศ ด้วยสาเหตุที่ชีวิตหนึ่งนั้นได้ขวนขวายมัน ซึ่งความชั่วทั้งหลาย สำหรับมันนั้นจะไม่มีมิตรใด ๆ อื่นจากอัลลอฮ์ ที่มันสามารถขอความช่วยเหลือได้ และไม่มีตัวกลางใดที่จะป้องกันมัน ซึ่งการลงโทษของพระเจ้าในวันกิยามะฮ์ และถ้าชีวิตนั้นได้ถูกไถ่ถอนจากการลงโทษของอัลลอฮ์ ด้วยสิ่งไถ่ถอนใด ๆ มันก็จะไม่ถูกรับจากชีวิตนั้น ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่ตัวของพวกเขานั้นได้ถูกส่งไปยังความพินาศ เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ ซึ่งสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืน สำหรับพวกเขาในวันกิยามะฮ์จะได้รับเครื่องดื่มจากน้ำที่ร้อนจัด และจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ เนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَنَدۡعُواْ مِن دُونِ ٱللَّهِ مَا لَا يَنفَعُنَا وَلَا يَضُرُّنَا وَنُرَدُّ عَلَىٰٓ أَعۡقَابِنَا بَعۡدَ إِذۡ هَدَىٰنَا ٱللَّهُ كَٱلَّذِي ٱسۡتَهۡوَتۡهُ ٱلشَّيَٰطِينُ فِي ٱلۡأَرۡضِ حَيۡرَانَ لَهُۥٓ أَصۡحَٰبٞ يَدۡعُونَهُۥٓ إِلَى ٱلۡهُدَى ٱئۡتِنَاۗ قُلۡ إِنَّ هُدَى ٱللَّهِ هُوَ ٱلۡهُدَىٰۖ وَأُمِرۡنَا لِنُسۡلِمَ لِرَبِّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกที่ตั้งภาคีเถิดว่า เราจะกราบไหว้สิ่งอื่นไปจากอัลลอฮฺ ซึ่งบรรดาเจว็ด ที่พวกมันมิได้มีคุณหรือโทษใด ๆ ที่จะมอบให้แก่เรา และเราจะถอยห่างจากการศรัทธา หลังจากที่อัลลอฮฺได้ทรงมอบมันให้แก่เราแล้วกระนั้นหรือ แล้วเรานั้นก็จะกลายเป็นดั่งเช่นผู้ที่พวกชัยฏอนได้ทำให้เขาหลง โดยปล่อยเขาให้อยู่ในสภาพที่งงงวยที่ไม่ได้รับทางนำ ทั้ง ๆ ที่เขามีเพื่อน ๆ ที่ยืนหยัดอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง คอยเรียกร้องเขาให้ไปสู่หนทางที่ถูกต้อง แต่เขาเองก็มิได้ขานรับต่อสิ่งที่เพื่อน ๆ เขาได้เรียกร้องเขาไปสู่มัน โอ้เราะซูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด ว่า แท้จริงทางนำของอัลลอฮฺเท่านั้นคือทางนำที่แท้จริง และพวกเราได้รับบัญชาให้เราสวามิภักดิ์แด่พระผู้มหาบริสุทธิ์และสูงส่ง โดยการยืนหยัดบนการให้เอกภาพต่อพระองค์ และกราบไหว้ต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น พระองค์คือผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
अरबी तफ़सीरें:
وَأَنۡ أَقِيمُواْ ٱلصَّلَوٰةَ وَٱتَّقُوهُۚ وَهُوَ ٱلَّذِيٓ إِلَيۡهِ تُحۡشَرُونَ
และแท้จริงพวกเรานั้นได้รับบัญชา ให้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และยำเกรงต่อพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของพระองค์ และพระองค์คือผู้เดียวที่จะรวบรวมปวงบ่าวทั้งหลายกลับไปชุมนุมยังพระองค์ในวันกิยามะฮฺ เพื่อที่พระองค์จะได้ตอบต่อแทนพวกเขา ซึ่งบนการงานทั้งหลายของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلَّذِي خَلَقَ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضَ بِٱلۡحَقِّۖ وَيَوۡمَ يَقُولُ كُن فَيَكُونُۚ قَوۡلُهُ ٱلۡحَقُّۚ وَلَهُ ٱلۡمُلۡكُ يَوۡمَ يُنفَخُ فِي ٱلصُّورِۚ عَٰلِمُ ٱلۡغَيۡبِ وَٱلشَّهَٰدَةِۚ وَهُوَ ٱلۡحَكِيمُ ٱلۡخَبِيرُ
และพระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง คือ ผู้ที่ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินด้วยความจริง และวันที่พระองค์ทรงตรัสแก่สรรพสิ่ง ว่า : เจ้าจงเป็นขึ้น แล้วพวกมันก็จะเป็นขึ้นมา หรือขณะที่พระองค์ทรงตรัสขึ้นในวันกิยามะฮฺว่า : เจ้าจงยืนขึ้น แล้วมันก็จะยืนขึ้น พระดำรัสของพระองค์คือความจริงที่จะเกิดขึ้น ที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน และอำนาจทั้งหลายนั้นก็เป็นของพระองค์ ในขณะที่อิสรอฟีลนั้นเป่าเข้าไปในแตรครั้งที่สอง พระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับ และในสิ่งเปิดเผย และพระองค์คือผู้ทรงปรีชาญาณในการสร้างและการบริหารของพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่ไม่มีสิ่งใดเลยจะสามารถซ่อนไปจากพระองค์ได้ ดังนั้นส่วนลึกภายในของทุก ๆ สิ่ง ณ ที่พระองค์นั้น เปรียบเสมือนส่วนภายนอกของมันที่แลเห็น
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الداعية إلى الله تعالى ليس مسؤولًا عن محاسبة أحد، بل هو مسؤول عن التبليغ والتذكير.
ผู้ที่เรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺ ตะอาลา นั้น เขามิได้มีหน้าที่คิดบัญชีต่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทว่าเขานั้น คือ ผู้ที่มีหน้าที่ป่าวประกาศและเตือนสติเท่านั้น

• الوعظ من أعظم وسائل إيقاظ الغافلين والمستكبرين.
การแนะนำตักเตือนนั้นคือสื่อหนึ่งที่ยิ่งไหญ่ ที่จะช่วยฉุดคิดให้แก่บรรดาผู้ที่เผลอเรอหรือบรรดาผู้ที่โอ้อวด

• من دلائل التوحيد: أن من لا يملك نفعًا ولا ضرًّا ولا تصرفًا، هو بالضرورة لا يستحق أن يكون إلهًا معبودًا.
จากบรรดาหลักฐานต่าง ๆ ทางความเชื่อ : ผู้ใดที่เขานั้นมิได้ครอบครองซึ่งคุณประโยชน์หรือโทษหรืออำนาจการจัดการ แน่นอนเขาย่อมที่จะไม่ได้รับสิทธิ์การเป็นพระเจ้าที่ถูกกราบไหว้

۞ وَإِذۡ قَالَ إِبۡرَٰهِيمُ لِأَبِيهِ ءَازَرَ أَتَتَّخِذُ أَصۡنَامًا ءَالِهَةً إِنِّيٓ أَرَىٰكَ وَقَوۡمَكَ فِي ضَلَٰلٖ مُّبِينٖ
และโอ้เราะซูล จงรำลึกขณะที่อิบรอฮีม อลัยฮิสสลาม ได้กล่าวแก่บิดาของเขาผู้ที่ตั้งภาคี คืออาซัรว่า : โอ้บิดาของฉัน ท่านจะยึดถือเอาบรรดาเจว็ดเป็นพระเจ้า โดยที่ท่านนั้นจะเคารพสักการะมันนอกเหนือไปจากอัลลอฮฺกระนั้นหรือ?! แท้จริงฉันเห็นว่าท่านและกลุ่มชนของท่านนั้นที่กำลังเคารพสักการะบรรดาเจว็ดนั้นอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้งและงงงวย หันเหออกไปจากหนทางที่เที่ยงแท้ ด้วยสาเหตุการเคารพสักการะของพวกท่านที่มิใช่ต่ออัลลอฮฺ ดังนั้นพระองค์คือผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้ และอื่น ๆ ที่มิใช่พระองค์นั้นมันถูกกราบไหว้โดยมดเท็จ
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ نُرِيٓ إِبۡرَٰهِيمَ مَلَكُوتَ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ وَلِيَكُونَ مِنَ ٱلۡمُوقِنِينَ
และในทำนองนั้นแหละ เราได้ให้เขา (อิบรอฮีม) เห็นถึงความหลงผิดของบิดาเขาและกลุ่มชนของเขา ซึ่งเราจะให้เขาเห็นถึงความเป็นเจ้าแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินอันกว้างขวาง เพื่อที่เขาจะได้นำสิ่งนั้น (ความเป็นเจ้าอันกว้างขวาง) มาพิสูจน์ถึงความเป็นเอกะของอัลลอฮฺ และสิทธิของพระองค์ต่อการเคารพสักการะแต่เพียงผู้เดียว เพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้เชื่อมั่นว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่มีภาคีใด ๆ เลยสำหรับพระองค์ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงมีความสามารถเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
अरबी तफ़सीरें:
فَلَمَّا جَنَّ عَلَيۡهِ ٱلَّيۡلُ رَءَا كَوۡكَبٗاۖ قَالَ هَٰذَا رَبِّيۖ فَلَمَّآ أَفَلَ قَالَ لَآ أُحِبُّ ٱلۡأٓفِلِينَ
ครั้นเมื่อกลางคืนได้ปกคลุมเขา เขาได้เห็นดาวดวงหนึ่ง แล้วเขากล่าวว่า : นี้คือพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อดาวดวงนั้นมันลับไป เขาก็กล่าวว่า : ฉันไม่ชอบบรรดาสิ่งที่ลับไป เพราะแท้จริงแล้วพระเจ้าที่เที่ยงแท้นั้นจะต้องยืนยงไม่ไปไหน
अरबी तफ़सीरें:
فَلَمَّا رَءَا ٱلۡقَمَرَ بَازِغٗا قَالَ هَٰذَا رَبِّيۖ فَلَمَّآ أَفَلَ قَالَ لَئِن لَّمۡ يَهۡدِنِي رَبِّي لَأَكُونَنَّ مِنَ ٱلۡقَوۡمِ ٱلضَّآلِّينَ
ครั้นเมื่อเขาเห็นดวงจันทร์กำลังขึ้น เขาก็กล่าวว่า : นี้คือพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่า : ถ้าพระเจ้าของฉันมิได้ทรงแนะนำฉันให้รู้ถึงความเป็นเอกะของพระองค์และการเคารพสักการะต่อพระองค์แด่เพียงผู้เดียวแล้วนั้น แน่นอนฉันก็จะกลายเป็นคนหนึ่งในกลุ่มชนที่ห่างไกลไปจากศาสนาของพระองค์ที่เที่ยงแท้
अरबी तफ़सीरें:
فَلَمَّا رَءَا ٱلشَّمۡسَ بَازِغَةٗ قَالَ هَٰذَا رَبِّي هَٰذَآ أَكۡبَرُۖ فَلَمَّآ أَفَلَتۡ قَالَ يَٰقَوۡمِ إِنِّي بَرِيٓءٞ مِّمَّا تُشۡرِكُونَ
ครั้นเมื่อเขาเห็นดวงอาทิตย์กำลังขึ้น เขาก็กล่าวว่า : นี้แหละคือพระเจ้าของฉัน สิ่งที่ขึ้นมานี้ใหญ่กว่าดวงดาวและดวงจันทร์ แต่เมื่อมันได้ลับไป เขาก็กล่าวว่า : โอ้กลุ่มชนของฉัน! แท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านได้ตั้งภาคีขึ้นมาพร้อมกับอัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
إِنِّي وَجَّهۡتُ وَجۡهِيَ لِلَّذِي فَطَرَ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضَ حَنِيفٗاۖ وَمَآ أَنَا۠ مِنَ ٱلۡمُشۡرِكِينَ
แท้จริงข้าพระองค์ได้ทำให้ศาสนาของข้าพระองค์นั้นบริสุทธิ์แด่ผู้ที่ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินโดยที่ไม่เหมือนสิ่งใดมาก่อนหน้านี้ เอนเอียงออกไปจากการตั้งภาคีไปสู่การให้เอกภาพอันบริสุทธิ์ และข้าพระองค์มิใช่คนหนึ่งในหมู่ผู้ที่ตั้งภาคี ที่เคารพสักการะต่อสิ่งอื่นๆ พร้อมกันกับพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَحَآجَّهُۥ قَوۡمُهُۥۚ قَالَ أَتُحَٰٓجُّوٓنِّي فِي ٱللَّهِ وَقَدۡ هَدَىٰنِۚ وَلَآ أَخَافُ مَا تُشۡرِكُونَ بِهِۦٓ إِلَّآ أَن يَشَآءَ رَبِّي شَيۡـٔٗاۚ وَسِعَ رَبِّي كُلَّ شَيۡءٍ عِلۡمًاۚ أَفَلَا تَتَذَكَّرُونَ
และกลุ่มชนของเขา บรรดาผู้ตั้งภาคีในความเป็นเอกะของอัลลอฮฺผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ ได้โต้เถียงเขา และได้ข่มขู่ด้วยบรรดาเจว็ดของพวกเขา แล้วเขาได้กล่าวว่า : พวกท่านจะโต้เถียงฉันในเรื่องของความเป็นเอกะของอัลลอฮฺและความเป็นหนึ่งเดียวของพระองค์ต่อการเคารพสักการะกระนั้นหรือ และแท้จริงพระองค์ได้ทรงแนะนำฉันไปสู่มันแล้ว และฉันก็มิได้กลัวต่อบรรดาเจว็ดของพวกท่านเลย แท้จริงพวกมันนั้นมิได้ครอบครองโทษหรือให้คุณประโยชน์ใด ๆ เลย การที่มันจะให้โทษหรือประโยชน์แก่ฉันนั้น เว้นแต่เพียงอัลลอฮฺจะทรงประสงค์ แล้วสิ่งที่อัลลอฮฺได้ประสงค์ไว้แล้วนั้นย่อมเป็นขึ้นแน่นอน และพร้อมกับการรอบรู้ของอัลลอฮฺถึงทุก ๆ สิ่ง ดังนั้นจะไม่มีสิ่งใดเลยในแผ่นดินและชั้นฟ้าที่จะซุกซ่อนต่อพระองค์ได้ แล้วพวกเจ้าจะไม่รำลึกกันหรือ?! โอ้กลุ่มชนของฉัน ถึงสิ่งที่พวกท่านนั้นได้ปฏิเสธต่ออัลลอฮฺและตั้งภาคีต่อพระองค์ ฉะนั้นพวกท่านจงศรัทธาต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเถิด
अरबी तफ़सीरें:
وَكَيۡفَ أَخَافُ مَآ أَشۡرَكۡتُمۡ وَلَا تَخَافُونَ أَنَّكُمۡ أَشۡرَكۡتُم بِٱللَّهِ مَا لَمۡ يُنَزِّلۡ بِهِۦ عَلَيۡكُمۡ سُلۡطَٰنٗاۚ فَأَيُّ ٱلۡفَرِيقَيۡنِ أَحَقُّ بِٱلۡأَمۡنِۖ إِن كُنتُمۡ تَعۡلَمُونَ
และฉันจะกลัวสิ่งที่พวกท่านบูชาโดยปราศจากอัลลอฮฺ ที่มาจากบรรดาเจว็ดได้อย่างไร? โดยที่พวกท่านเองก็ไม่ได้กลัวครั้งตอนที่พวกท่านนั้นได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซึ่งสิ่งที่พระองค์มิได้ทรงให้มีหลักฐานใด ๆ ลงมาแก่พวกเจ้าในสิ่งนั้น! แล้วฝ่ายใดเล่าในสองฝ่ายนั้น : ฝ่ายบรรดาผู้ศรัทธาหรือฝ่ายบรรดาผู้ตั้งภาคี เป็นฝ่ายที่คู่ควรแก่ความปลอดภัยยิ่งกว่า? หากพวกท่านรู้ว่าฝ่ายใดที่คู่ควร พวกท่านก็จงปฏิบัติตามมัน และฝ่ายที่คู่ควรยิ่ง ที่ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ นั้น คือ ฝ่ายบรรดาผู้ศรัทธา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الاستدلال على الربوبية بالنظر في المخلوقات منهج قرآني.
การนำเอาหลักฐานมายืนยันถึงความเป็นพระเจ้า โดยการใช้การใคร่ครวญในสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น เป็นแนวทางของอัลกุรอ่าน

• الدلائل العقلية الصريحة توصل إلى ربوبية الله.
หลักฐานทางด้านสติปัญญาต่างๆ ที่ชัดเจนนั้น มันจะนำพาไปสู่การรับรู้ถึงการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮฺ

ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ وَلَمۡ يَلۡبِسُوٓاْ إِيمَٰنَهُم بِظُلۡمٍ أُوْلَٰٓئِكَ لَهُمُ ٱلۡأَمۡنُ وَهُم مُّهۡتَدُونَ
บรรดาผู้ที่ศรัทธาในอัลลอฮฺและได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ได้บัญญัติมา โดยที่มิได้ให้การศรัทธาของพวกเขาปะปนกับการอธรรมนั้น ชนเหล่านี้แหละเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจะได้รับความปลอดภัย และพวกเขาคือผู้ที่รับเอาคำแนะนำไว้ ซึ่งผู้อภิบาลของเขาได้แนะนำพวกเขาไปสู่ซึ่งหนทางแห่งทางนำ
अरबी तफ़सीरें:
وَتِلۡكَ حُجَّتُنَآ ءَاتَيۡنَٰهَآ إِبۡرَٰهِيمَ عَلَىٰ قَوۡمِهِۦۚ نَرۡفَعُ دَرَجَٰتٖ مَّن نَّشَآءُۗ إِنَّ رَبَّكَ حَكِيمٌ عَلِيمٞ
และหลักฐานนั้น มันคือคำกล่าวของพระองค์ที่ว่า : (แล้วฝ่ายใดเล่าในสองฝ่ายนั้น เป็นฝ่ายที่คู่ควรแก่ความปลอดภัยยิ่งกว่า) ที่อิบรอฮีมได้นำมันมาเอาชนะเหนือกลุ่มชนของเขา จนกระทั่งทำให้การโต้แย้งของพวกเขานั้นถูกตัดออก มันคือหลักฐานของเรา เราได้ชี้นำเขาด้วยมันเพื่อเป็นเครื่องมือโต้แย้งกับกลุ่มชนของเขา และเราก็ได้มอบมันให้แก่เขา เราจะยกขึ้นหลายขั้นในโลกดุนยานี้และก็โลกอาคีเราะฮฺ ผู้ที่เราประสงค์จากบรรดาปวงบ่าวของเรา โอ้เราะซูล แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น เป็นผู้ทรงปรีชาญาณในการสร้างและการบริหารของพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้ต่อปวงบ่าวของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَوَهَبۡنَا لَهُۥٓ إِسۡحَٰقَ وَيَعۡقُوبَۚ كُلًّا هَدَيۡنَاۚ وَنُوحًا هَدَيۡنَا مِن قَبۡلُۖ وَمِن ذُرِّيَّتِهِۦ دَاوُۥدَ وَسُلَيۡمَٰنَ وَأَيُّوبَ وَيُوسُفَ وَمُوسَىٰ وَهَٰرُونَۚ وَكَذَٰلِكَ نَجۡزِي ٱلۡمُحۡسِنِينَ
และเราได้ประทานแก่อิบรอฮีม ซึ่งอิสฮากผู้เป็นลูกของเขา และยะอฺกูบผู้เป็นหลานของเขา และเราได้แนะนำแก่ทั้งสองคนนั้นแล้วซึ่งหนทางที่เที่ยงตรง และเราก็ได้แนะนำแล้วตั้งแต่ก่อนโน้น และเราก็ได้แนะนำซึ่งหนทางที่ถูกต้องต่อลูกหลานของนูฮฺทุกคน ตั้งแต่ดาวูดและสุลัยมานลูกของเขา และอัยยูบ และยูซุฟ และมูซา และฮารูนพี่ของเขา อลัยฮิมุสสลาม และเช่นเดียวกับการตอบแทนนี้ ที่เราได้ตอบแทนมันแก่บรรดาศาสนทูต ในคุณงามความดีของพวกเขา ในทำนองนั้นเราก็จะตอบแทนมันแก่ผู้กระทำดีทั้งหลายที่นอกจากพวกเขา ในคุณงามความดีของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَزَكَرِيَّا وَيَحۡيَىٰ وَعِيسَىٰ وَإِلۡيَاسَۖ كُلّٞ مِّنَ ٱلصَّٰلِحِينَ
และเราก็ได้แนะนำเช่นเดียวกันทั้งซะกะรียา และยะฮฺยา และอีซาบุตรของมัรยัม และอิลยาส อลัยฮิมุสสลาม และบรรดานบีเหล่านั้นทุก ๆ คน ที่อยู่ในหมู่ของคนดีที่อัลลอฮฺได้ทรงเลือกพวกเขาให้เป็นบรรดาศาสนทูต
अरबी तफ़सीरें:
وَإِسۡمَٰعِيلَ وَٱلۡيَسَعَ وَيُونُسَ وَلُوطٗاۚ وَكُلّٗا فَضَّلۡنَا عَلَى ٱلۡعَٰلَمِينَ
และเราก็ได้แนะนำเช่นเดียวกัน ทั้งอิสมาอีล และอัล-ยะสะอฺ และยูนุส และลูฏ อลัยฮิมุสสลาม และบรรดานบีเหล่านั้นทุก ๆ คน และหัวหน้าของพวกเขานั้น คือนบีมูฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม เรานั้นได้ให้พวกเขามีความดีเด่นเหนือกว่าประชาชาติทั้งหลาย
अरबी तफ़सीरें:
وَمِنۡ ءَابَآئِهِمۡ وَذُرِّيَّٰتِهِمۡ وَإِخۡوَٰنِهِمۡۖ وَٱجۡتَبَيۡنَٰهُمۡ وَهَدَيۡنَٰهُمۡ إِلَىٰ صِرَٰطٖ مُّسۡتَقِيمٖ
และเราก็ได้แนะนำซึ่งส่วนหนึ่งจากบรรพบุรุษของพวกเขา และลูกหลานของพวกเขา และส่วนหนึ่งจากพี่น้องของพวกเขาจากผู้ที่เราได้ประสงค์ความสำเร็จให้แก่เขา และเราก็ได้เลือกพวกเขา และได้แนะนำพวกเขาไปสู่หนทางอันเที่ยงตรง เป็นหนทางแห่งการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺและการเชื่อฟังต่อพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
ذَٰلِكَ هُدَى ٱللَّهِ يَهۡدِي بِهِۦ مَن يَشَآءُ مِنۡ عِبَادِهِۦۚ وَلَوۡ أَشۡرَكُواْ لَحَبِطَ عَنۡهُم مَّا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาซึ่งจากคำแนะนำ มันคือ คำแนะนำของอัลลอฮฺ โดยที่พระองค์จะทรงแนะนำผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์ ด้วยคำแนะนำนั้น และหากพวกเขาได้มีการตั้งภาคีอื่นขึ้นมาพร้อมกับอัลลอฮฺแล้ว แน่นอนสิ่งที่พวกเขาเคยกระทำกันมา ก็สูญสิ้นไปจากพวกเขา เพราะการตั้งภาคีนั้นเป็นสิ่งที่มาโมฆะการงานที่ดี
अरबी तफ़सीरें:
أُوْلَٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ءَاتَيۡنَٰهُمُ ٱلۡكِتَٰبَ وَٱلۡحُكۡمَ وَٱلنُّبُوَّةَۚ فَإِن يَكۡفُرۡ بِهَا هَٰٓؤُلَآءِ فَقَدۡ وَكَّلۡنَا بِهَا قَوۡمٗا لَّيۡسُواْ بِهَا بِكَٰفِرِينَ
บรรดานบีเหล่านั้นที่ถูกกล่าวมาขางต้น พวกเขาคือ บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา และให้คติพจน์ และให้การเป็นนบีด้วย แต่ถ้าหากกลุ่มชนของเจ้าได้ปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งที่เราได้มอบให้แก่พวกเขาจากสามสิ่งนี้ แน่นอนเราได้เตรียมไว้สำหรับมันและได้มอบความไว้วางใจไว้แล้วแก่กลุ่มชนหนึ่งที่พวกเขามิใช่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อมัน แต่ทว่าพวกเขานั้นคือบรรดาผู้ที่ศรัทธาที่ยึดมั่นในสิ่งเหล่านั้น และเขานั่นก็คือชาวมุฮาญิรีนและชาวอันศ็อร และบรรดาผู้ที่ติดตามพวกเขาด้วยการทำความดีเพื่อไปสู่วันแห่งการตอบแทน
अरबी तफ़सीरें:
أُوْلَٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ هَدَى ٱللَّهُۖ فَبِهُدَىٰهُمُ ٱقۡتَدِهۡۗ قُل لَّآ أَسۡـَٔلُكُمۡ عَلَيۡهِ أَجۡرًاۖ إِنۡ هُوَ إِلَّا ذِكۡرَىٰ لِلۡعَٰلَمِينَ
บรรดานบีเหล่านี้ และผู้ที่ถูกกล่าวมาพร้อมกันกับพวกเขาจากบรรพบุรุษของพวกเขา ลูกหลานของพวกเขาและพี่น้องของพวกเขา พวกเขาคือกลุ่มชนที่ได้รับทางนำที่แท้จริง ดังนั้นเจ้าจงเจริญรอยตามพวกเขาเถิด และจงกล่าวเถิด โอ้เราะซูล แก่กลุ่มชนของเจ้าว่า : ฉันจะไม่ขอต่อพวกท่าน ซึ่งค่าจ้างใด ๆ ในการเผยแผ่อัลกุรอ่านอันนี้ แน่นอนอัลกุรอ่านนั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากคำตักเตือนสำหรับประชาชาติทั้งหลายที่รวมทั้งมนุษย์และญิน เพื่อที่พวกเขานั้นได้นำมันมาเป็นทางนำไปสู่หนทางที่เที่ยงตรงและหนทางที่ถูกต้อง
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• من فضائل التوحيد أنه يضمن الأمن للعبد، خاصة في الآخرة حين يفزع الناس.
ความประเสริฐของผู้ให้ความเป็นเอกะต่ออัลลอฮฺคือการที่เขาจะได้รับการประกันความปลอดภัยโดยเฉพาะในวันกิยามะฮฺขณะที่มนุษย์ผู้อื่นตกอยู่ในความหวาดกลัว

• تُقَرِّر الآيات أن جميع من سبق من الأنبياء إنما بَلَّغوا دعوتهم بتوفيق الله تعالى لا بقدرتهم.
โองการทั้งหลายได้เห็นพ้องตรงกันว่า บรรดานบีทั้งหลายก่อนหน้านี้แท้จริงพวกเขาได้ป่าวประกาศการเชิญชวนของพวกเขานั้น ด้วยการได้รับบรรลุผลสำเร็จจากอัลลอฮฺ ตะอาลา ไม่ใช่ด้วยความสามารถของพวกเขาเอง

• الأنبياء يشتركون جميعًا في الدعوة إلى توحيد الله تعالى مع اختلاف بينهم في تفاصيل التشريع.
บรรดานบีทั้งหลายต่างมีเป้าหมายอันเดียวกันในการเรียกร้องไปสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา หากแต่จะมีบทบัญญัติที่แตกต่างกันในการเคารพสักการะ

• الاقتداء بالأنبياء سنة محمودة، وخاصة في أصول التوحيد.
การยึดถือปฏิบัติตามบรรดานบีนั้นคือแนวทางที่ดี และโดยเฉพาะในเรื่องหลักการต่าง ๆ ของเตาฮีด (ให้ความเป็นเอกะต่ออัลลอฮฺ)

وَمَا قَدَرُواْ ٱللَّهَ حَقَّ قَدۡرِهِۦٓ إِذۡ قَالُواْ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ عَلَىٰ بَشَرٖ مِّن شَيۡءٖۗ قُلۡ مَنۡ أَنزَلَ ٱلۡكِتَٰبَ ٱلَّذِي جَآءَ بِهِۦ مُوسَىٰ نُورٗا وَهُدٗى لِّلنَّاسِۖ تَجۡعَلُونَهُۥ قَرَاطِيسَ تُبۡدُونَهَا وَتُخۡفُونَ كَثِيرٗاۖ وَعُلِّمۡتُم مَّا لَمۡ تَعۡلَمُوٓاْ أَنتُمۡ وَلَآ ءَابَآؤُكُمۡۖ قُلِ ٱللَّهُۖ ثُمَّ ذَرۡهُمۡ فِي خَوۡضِهِمۡ يَلۡعَبُونَ
และพวกที่ตั้งภาคีทั้งหลายนั้นมิได้ให้ความยิ่งใหญ่แก่อัลลอฮ์อย่างแท้จริง ขณะที่พวกเขาได้กล่าวต่อท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งเป็นนบีของพวกเขา ว่า : อัลลอฮ์มิได้ทรงประทานสิ่งใดแก่ปุถุชนคนใด ซึ่งจากการวะฮ์ยู โอ้เราะสูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า : ผู้ใดเล่าที่ได้ทรงประทานลงมา ซึ่งคัมภีร์อัตเตารอฮ์แก่มูซาเพื่อมาเป็นแสงสว่าง ทางนำและคำแนะนำแก่กลุ่มชนของพวกเขา? ซึ่งพวกยิวนั้นได้บันทึกมันไว้ในกระดาษ โดยพวกเขาจะเปิดเผยมัน เฉพาะสิ่งที่มันตรงกับอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาเท่านั้น และก็จะปกปิดสิ่งที่มันมีข้อขัดแย้งกับอารมณ์พวกเขา เช่น คุณลักษณะของท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และพวกเจ้าถูกสอนมาแล้ว โอ้อาหรับเอ๋ย จากคำภีร์อัลกุรอาน ในสิ่งที่พวกเจ้านั้นไม่รู้ และบรรพบุรุษของพวกเจ้าก็มิได้รู้มาก่อน โอ้เราะสูล จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า : อัลลอฮ์นั้นได้ทรงประทานมันมา แล้วเจ้าก็จงปล่อยพวกเขาให้ตกอยู่ในความโง่เขลาและการหลงทางของพวกเขาเถอะ จนกว่าจะมีความแน่นอนมาพบประสบแด่พวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَهَٰذَا كِتَٰبٌ أَنزَلۡنَٰهُ مُبَارَكٞ مُّصَدِّقُ ٱلَّذِي بَيۡنَ يَدَيۡهِ وَلِتُنذِرَ أُمَّ ٱلۡقُرَىٰ وَمَنۡ حَوۡلَهَاۚ وَٱلَّذِينَ يُؤۡمِنُونَ بِٱلۡأٓخِرَةِ يُؤۡمِنُونَ بِهِۦۖ وَهُمۡ عَلَىٰ صَلَاتِهِمۡ يُحَافِظُونَ
นี่คืออัลกุรอาน เป็นคัมภีร์ที่เราได้ประทานลงมาให้แก่เจ้า โอ้นบีเอ๋ย และมันคือคัมภีร์ที่มีความจำเริญ ที่ยืนยันถึงสิ่งที่มาก่อนหน้านี้จากบรรดาคัมภีร์แห่งชั้นฟ้า เพื่อที่เจ้าจะได้ตักเตือนชาวมักกะฮ์และมนุษย์ทุก ๆ คนในหน้าแผ่นดินตั้งแต่ทิศตะวันออกไปสุดยังทิศตะวันตกจนกว่าพวกเขาจะได้รับทางนำ และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อการมีชีวิตในปรโลก พวกเขาก็จะศรัทธาต่อคัมภีร์อัลกุรอานนี้ และรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในนั้น และพวกเขาก็จะรักษาการละหมาดของพวกเขา ด้วยการดำรงปฏิบัติสิ่งที่เป็นรูกุน (สิ่งที่เป็นหลัก) และสิ่งที่เป็นฟัรฎู (จำเป็น) และสุนนะฮ์ (สิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ) ทั้งหลาย ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของมันที่บทบัญญัติได้กำหนดไว้
अरबी तफ़सीरें:
وَمَنۡ أَظۡلَمُ مِمَّنِ ٱفۡتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا أَوۡ قَالَ أُوحِيَ إِلَيَّ وَلَمۡ يُوحَ إِلَيۡهِ شَيۡءٞ وَمَن قَالَ سَأُنزِلُ مِثۡلَ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُۗ وَلَوۡ تَرَىٰٓ إِذِ ٱلظَّٰلِمُونَ فِي غَمَرَٰتِ ٱلۡمَوۡتِ وَٱلۡمَلَٰٓئِكَةُ بَاسِطُوٓاْ أَيۡدِيهِمۡ أَخۡرِجُوٓاْ أَنفُسَكُمُۖ ٱلۡيَوۡمَ تُجۡزَوۡنَ عَذَابَ ٱلۡهُونِ بِمَا كُنتُمۡ تَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ غَيۡرَ ٱلۡحَقِّ وَكُنتُمۡ عَنۡ ءَايَٰتِهِۦ تَسۡتَكۡبِرُونَ
ไม่มีใครคนใดเลยที่อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่เขานั้นได้อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮฺ โดยการที่เขาได้กล่าวว่า : อัลลอฮฺนั้นมิได้ทรงประทานสิ่งใดเลยให้แก่มนุษย์คนใดคนหนึ่ง หรือกล่าวเท็จว่า : แท้จริงอัลลอฮฺนั้นได้ทรงวะฮฺยูแก่เขา แต่ความเป็นจริงแล้วอัลลอฮฺนั้นมิได้วะฮฺยูสิ่งใดมาแก่เขาเลย หรือกล่าวว่า : ฉันจะทำให้ลงมาเช่นเดียวกับสิ่งที่อัลลอฮฺให้ลงมา ซึ่งอัลกุรอ่าน และหากเจ้าได้เห็น โอ้เราะซูล ขณะที่บรรดาผู้อธรรมเหล่านั้นได้ประสบกับความเจ็บปวดแห่งความตาย และมลาอิกะฮฺ กำลังแบมือของพวกเขาไปยังพวกเขาด้วยลงโทษและทุบตี โดยกล่าวกับพวกเขาอย่างทารุณว่า จงให้ชีวิตของพวกท่านออกมา แล้วเราก็จะจับขังมัน ในวันนี้พวกท่านจะได้รับการตอบแทน ซึ่งการลงโทษที่มันจะทำให้พวกเจ้าต่ำต้อยและน่าอัปยศ เนื่องจากที่พวกท่านกล่าวให้ร้ายแก่อัลลอฮฺด้วยการกล่าวอ้างถึงการเป็นนบีและการวะฮฺยู และการทำให้ลงมาเช่นเดียวกับสิ่งที่อัลลอฮฺให้ลงมา และเนื่องจากความยโสโอหังของพวกท่านต่อการศรัทธาด้วยบรรดาโองการต่าง ๆ ของพระองค์ หากเจ้ามองเห็นสิ่งนั้น แน่นอนเจ้าจะได้เห็นสิ่งที่น่ากลัว
अरबी तफ़सीरें:
وَلَقَدۡ جِئۡتُمُونَا فُرَٰدَىٰ كَمَا خَلَقۡنَٰكُمۡ أَوَّلَ مَرَّةٖ وَتَرَكۡتُم مَّا خَوَّلۡنَٰكُمۡ وَرَآءَ ظُهُورِكُمۡۖ وَمَا نَرَىٰ مَعَكُمۡ شُفَعَآءَكُمُ ٱلَّذِينَ زَعَمۡتُمۡ أَنَّهُمۡ فِيكُمۡ شُرَكَٰٓؤُاْۚ لَقَد تَّقَطَّعَ بَيۡنَكُمۡ وَضَلَّ عَنكُم مَّا كُنتُمۡ تَزۡعُمُونَ
และได้มีการกล่าวขึ้นแก่พวกเขาในวันกิยามะฮฺว่า : แน่นอนพวกเจ้าได้มายังเราในวันนี้อย่างลำพัง โดยจะไม่มีทรัพย์สินหรือตำแหน่งใดๆ ที่จะมาพร้อมกับพวกเจ้า เยี่ยงที่เราได้บังเกิดพวกเจ้ามาในครั้งแรกอย่างเปล่าเปลือย และพวกเจ้าก็ได้ละทิ้งสิ่งนั้นที่เราได้มอบให้แก่พวกเจ้าไว้เบื้องหลังของพวกเจ้าในโลกดุนยา ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าไม่พอใจ และเราก็ไม่เห็นเลยว่าวันนี้พระเจ้าของพวกเจ้าจะมาอยู่กับพวกเจ้า ซึ่งบรรดาผู้ที่พวกเจ้าได้อ้างไว้ว่าพวกเขานั้นคือผู้ไกล่เกลี่ยของพวกเจ้า และอ้างว่าพวกเขานั้นคือบรรดาหุ้นส่วนของอัลลอฮฺในการขอรับสิทธิ์การเคารพสักการะ แน่นอนความสัมพันธ์ในระหว่างพวกเจ้าได้ถูกตัดขาดให้เป็นเสี่ยง ๆ แล้ว และมันก็ได้ห่างหายไปจากพวกเจ้า สิ่งที่พวกเจ้าได้อ้างไว้ ซึ่งการช่วยเหลือของพวกเขา และที่แท้แล้วพวกเขานั้นเป็นหุ้นส่วนของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• إنزال الكتب على الأنبياء هو سُنَّة الله في المرسلين، والنبي عليه الصلاة والسلام واحد منهم.
การประทานคัมภีร์ต่าง ๆ ให้แก่บรรดานบีนั้น คือ แนวทางแห่งอัลลอฮฺต่อบรรดาเราะซูลผู้ที่ถูกบังเกิดขึ้นทั้งหลาย และท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะสัลลัม ก็เป็นหนึ่งจากบรรดานบีเหล่านั้น

• أعظم الناس كذبًا وفرية هو الذي يكذب على الله تعالى، فينسب أو ينفي ويثبت في حق الله تعالى أمرًا ليس عليه دليل صحيح.
บุคคลที่มุสาและโกหกที่ใหญ่หลวงที่สุด คือ บรรดาผู้ที่โกหกต่ออัลลอฮ หลังจากนั้นเขาก็ได้พาดพิงหรือปฏิเสธ และได้พิสูจน์ในสิทธิ์ของอัลลอฮฺเรื่องหนึ่ง ๆ โดยที่เขานั้นไร้ซึ่งหลักฐานที่ถูกต้อง

• كل أحد يبعث يوم القيامة فردًا متجردًا عن المناصب والألقاب، فقيرًا، ويحاسب وحده.
ทุก ๆ คนจะฟื้นคืนชีพมาในวันกิยามะฮฺ โดยสันโดษ ตัวคนเดียว ไร้ซึ่งตำแหน่งและตระกูล ยากจนน่าสงสาร และเขาจะถูกคิดบัญชีตัวคนเดียว

۞ إِنَّ ٱللَّهَ فَالِقُ ٱلۡحَبِّ وَٱلنَّوَىٰۖ يُخۡرِجُ ٱلۡحَيَّ مِنَ ٱلۡمَيِّتِ وَمُخۡرِجُ ٱلۡمَيِّتِ مِنَ ٱلۡحَيِّۚ ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُۖ فَأَنَّىٰ تُؤۡفَكُونَ
แท้จริงอัลลอฮ์เพียงองค์เดียว เป็นผู้ทรงปริเมล็ดพืชแล้วต้นกล้าก็จะออกมาจากมัน และทรงปริเมล็ดอินทผลัมแล้วต้นพันธุ์ก็จะออกมาจากมัน พระองค์ทรงให้สิ่งที่มีชีวิตออกจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต คือการที่มนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ออกมาจากน้ำอสุจิ และทรงให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตออกจากสิ่งที่มีชีวิต คือการที่อสุจิได้หลั่งออกมาจากมนุษย์และไข่ที่ออกมาจากไก่ กล่าวคือ ผู้ที่กระทำเช่นนี้ได้ก็คืออัลลอฮ์ ผู้ที่ทรงสร้างพวกท่านมา โอ้พวกที่ตั้งภาคีทั้งหลาย พวกเจ้าหันเหออกจากความจริงได้อย่างไรเล่า ทั้งที่สิ่งที่พวกเจ้ามองเห็นมันนั้น คือความมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้สร้างมันมา?!
अरबी तफ़सीरें:
فَالِقُ ٱلۡإِصۡبَاحِ وَجَعَلَ ٱلَّيۡلَ سَكَنٗا وَٱلشَّمۡسَ وَٱلۡقَمَرَ حُسۡبَانٗاۚ ذَٰلِكَ تَقۡدِيرُ ٱلۡعَزِيزِ ٱلۡعَلِيمِ
และพระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง คือ ผู้ที่ทรงทำให้แสงรุ่งอรุณสว่างไสวขึ้นจากความมืดของกลางคืน และทรงทำให้กลางคืนเป็นที่พักผ่อนให้แก่มนุษย์ ซึ่งพวกเขาก็จะได้หยุดพักจากกิจกรรมการงาน หยุดพักความอ่อนล้าจากการทำงานของพวกเขาในตอนกลางวัน และพระองค์ก็ทรงทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่กำลังโคจรอยู่นั่นเป็นสิ่งคำนวณเวลา ที่กล่าวมานั้นมันมาจากการสร้างอันสวยงาม นั่นคือการกำหนดให้มีขึ้นของผู้ทรงเดชานุภาพที่ไม่มีผู้เหนือไปกว่าพระองค์ ผู้ทรงปรีชาญาณถึงการสร้างของพระองค์ และสิ่งที่เหมาะสำหรับพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلَّذِي جَعَلَ لَكُمُ ٱلنُّجُومَ لِتَهۡتَدُواْ بِهَا فِي ظُلُمَٰتِ ٱلۡبَرِّ وَٱلۡبَحۡرِۗ قَدۡ فَصَّلۡنَا ٱلۡأٓيَٰتِ لِقَوۡمٖ يَعۡلَمُونَ
และพระองค์คือผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง คือ ผู้ที่ทรงให้มีแก่พวกเจ้า โอ้ลูกหลานของอาดัม ซึ่งดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้รับการชี้นำด้วยดวงดาวเหล่านั้นในการเดินทางของพวกเจ้า เมื่อไหร่ที่ถนนหนทางมันมีความสลับซับซ้อนทั้งในทางบกและทางทะเล แน่นอนเราได้แสดงหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของเราไว้แล้ว สำหรับกลุ่มชนที่สดับรับรู้ถึงหลักฐานและข้อพิสูจน์อันนั้น แล้วพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์จากมัน
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلَّذِيٓ أَنشَأَكُم مِّن نَّفۡسٖ وَٰحِدَةٖ فَمُسۡتَقَرّٞ وَمُسۡتَوۡدَعٞۗ قَدۡ فَصَّلۡنَا ٱلۡأٓيَٰتِ لِقَوۡمٖ يَفۡقَهُونَ
และพระองค์คือผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง คือ ผู้ที่ทรงสร้างพวกเจ้าขึ้นมาจากชีวิตหนึ่ง คือ จากบิดาของพวกเจ้า ซึ่งอาดัม แท้จริงการสร้างพวกเจ้านั้นได้เริ่มต้นด้วยการสร้างพ่อของพวกเจ้าที่มาจากดินก่อน แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดพวกเจ้ามาจากเขา และพระองค์ก็ได้ทรงสร้างให้แก่พวกเจ้า ซึ่งสิ่งที่พวกเจ้าจะต้องพำนักอยู่ในนั้น คือบรรดามดลูกมารดาของพวกเจ้า และคลังที่ฝาก ที่พวกเจ้าถูกสะสมไว้ในนั้น คือกระดูกสันหลังของบรรพบุรุษของพวกเจ้า แน่นอนเราได้แจกแจงโองการทั้งหลายไว้แล้ว สำหรับกลุ่มชนที่เข้าใจในวจนะของอัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلَّذِيٓ أَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءٗ فَأَخۡرَجۡنَا بِهِۦ نَبَاتَ كُلِّ شَيۡءٖ فَأَخۡرَجۡنَا مِنۡهُ خَضِرٗا نُّخۡرِجُ مِنۡهُ حَبّٗا مُّتَرَاكِبٗا وَمِنَ ٱلنَّخۡلِ مِن طَلۡعِهَا قِنۡوَانٞ دَانِيَةٞ وَجَنَّٰتٖ مِّنۡ أَعۡنَابٖ وَٱلزَّيۡتُونَ وَٱلرُّمَّانَ مُشۡتَبِهٗا وَغَيۡرَ مُتَشَٰبِهٍۗ ٱنظُرُوٓاْ إِلَىٰ ثَمَرِهِۦٓ إِذَآ أَثۡمَرَ وَيَنۡعِهِۦٓۚ إِنَّ فِي ذَٰلِكُمۡ لَأٓيَٰتٖ لِّقَوۡمٖ يُؤۡمِنُونَ
และพระองค์คือผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง นั้นคือ ผู้ที่ทรงให้น้ำฝนลงมาจากฟากฟ้า แล้วทรงให้ออกมาด้วยน้ำนั้น ซึ่งพันธุ์พืชทุกชนิด และเราได้ให้ออกจากพันธุ์พืชนั้น ซึ่งกล้าพันธุ์และต้นไม้ที่มีสีเขียว จากสิ่งที่มีสีเขียวนั้นเราได้ให้ออกมาซึ่งเมล็ดที่ซ้อนตัวทับกันอยู่ดั่งในช่อในรวง และจากต้นอินทผาลัมนั้น จั่นของมันจะออกมาเป็นทลายต่ำ ๆ ไม่ว่าผู้ที่ยืนหรือที่นั่งกันอยู่ก็สามารถเก็บเกี่ยวมันได้ และเราก็ได้ให้ออกมาด้วยน้ำนั้นอีก ซึ่งสวนองุ่น และเราก็ได้ให้ออกมา ซึ่งซัยตูน และทับทิม โดยที่ใบของมันทั้งสองมีสภาพคล้ายกัน แต่มีผลที่แตกต่างกัน โอ้มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าจงมองดู ผลของมัน เมื่อมันเริ่มออกผลและเมื่อมันแก่สุก โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงในสิ่งเหล่านั้น แน่นอนมันคือข้อพิสูจน์หลักฐานอันชัดแจ้งที่ชี้ให้เห็นถึงความปรีชาสามารถของอัลลอฮฺ แก่หมู่ชนผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ดังนั้นพวกเขาคือบรรดาผู้ที่ได้รับประโยชน์จากหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่าง ๆ เหล่านี้
अरबी तफ़सीरें:
وَجَعَلُواْ لِلَّهِ شُرَكَآءَ ٱلۡجِنَّ وَخَلَقَهُمۡۖ وَخَرَقُواْ لَهُۥ بَنِينَ وَبَنَٰتِۭ بِغَيۡرِ عِلۡمٖۚ سُبۡحَٰنَهُۥ وَتَعَٰلَىٰ عَمَّا يَصِفُونَ
และพวกที่ตั้งภาคีนั้นได้ทำให้ญินเป็นคู่ภาคีต่ออัลลอฮ์ในการเคารพสักการะ ครั้นเมื่อพวกเขาได้เชื่อว่าญินนั้นเป็นผู้ให้ประโยชน์และให้โทษ ซึ่งแท้จริงนั้นพระองค์ทรงได้บังเกิดพวกเขามา ซึ่งไม่มีใครอื่นเลยที่สร้างพวกเขามา ดังนั้นพระองค์คือผู้ที่สมควรยิ่งที่จะถูกเคารพสักการะ และพวกเขาได้อุปโลกษ์ขึ้นมาให้แก่พระองค์ซึ่งบรรดาบุตรชาย ดั่งเช่นที่ยิวได้กระทำต่ออุซัยร์ และที่คริสเตียนได้กระทำกับอีซา และเช่นเดียวกันพวกเขาก็ได้อุปโลกษ์บรรดาบุตรหญิงให้แก่พระองค์ ดั่งเช่นที่พวกตั้งภาคีกระทำต่อมลาอิกะฮ์ พระองค์ได้ทรงปราศจากและทรงบริสุทธิ์ จากสิ่งที่พวกคนอธรรมเหล่านั้นได้ให้ลักษณะไว้
अरबी तफ़सीरें:
بَدِيعُ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِۖ أَنَّىٰ يَكُونُ لَهُۥ وَلَدٞ وَلَمۡ تَكُن لَّهُۥ صَٰحِبَةٞۖ وَخَلَقَ كُلَّ شَيۡءٖۖ وَهُوَ بِكُلِّ شَيۡءٍ عَلِيمٞ
และพระองค์คือผู้ทรงมหาบริสุทธิ์และสูงส่ง คือ พระผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินโดยที่ไม่เหมือนสิ่งใดมาก่อนหน้านี้ อย่างไรเล่าที่พระองค์จะทรงมีพระบุตรโดยที่พระองค์มิได้ทรงมีคู่ครอง?! และพระองค์นั้นทรงบังเกิดทุกสิ่งทุกอย่าง และพระองค์ก็ทรงรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สิ่งใดเลยที่จะปิดบังพระองค์ได้
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الاستدلال ببرهان الخلق والرزق (تخليق النبات ونموه وتحول شكله وحجمه ونزول المطر) وببرهان الحركة (حركة الأفلاك وانتظام سيرها وانضباطها)؛ وكلاهما ظاهر مشاهَد - على انفراد الله سبحانه وتعالى بالربوبية واستحقاق الألوهية.
การนำเอามาเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อพิสูจน์ทางด้านการสร้างและด้านปัจจัยยังชีพ (การสร้างพืชและการงอกเงยของมัน และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดของมัน และการลงมาของฝน) และข้อพิสูจน์ทางด้านการเคลื่อนขยับ (การโคจรของดวงดาว และระบบการเดินทางของมัน และการคงที่ของมัน) และทั้งสองสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจน มองเห็นชัดถึงความเป็นหนึ่งเดียวของอัลลอฮฺ ตะอาลา ในการเป็นผู้อภิบาล และสิทธิในการเป็นพระเจ้า

• بيان ضلال وسخف عقول المشركين في عبادتهم للجن.
เป็นการบ่งบอกถึงความหลงและความปัญญาอ่อนของบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีในการเคารพสักการะของพวกเขาที่มีต่อญิน

ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُ رَبُّكُمۡۖ لَآ إِلَٰهَ إِلَّا هُوَۖ خَٰلِقُ كُلِّ شَيۡءٖ فَٱعۡبُدُوهُۚ وَهُوَ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ وَكِيلٞ
กล่าวคือ โอ้มนุษย์ ผู้ที่มีคุณลักษณะเช่นนั้นคือ พระผู้ทรงอภิบาลของพวกเจ้า แน่นอนไม่มีผู้อภิบาลอื่นใดแล้วที่นอกจากพระองค์สำหรับพวกเจ้า และไม่มีผู้ที่ถูกกราบไหว้อื่นใดโดยเที่ยงแท้นอกจากพระองค์ พระองค์คือผู้ทรงบังเกิดทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นพวกเจ้าจงเคารพสักการะต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเถิด พระองค์คือผู้ที่สมควรได้รับการเคารพสักการะ และพระองค์ก็ทรงเป็นผู้รับมอบหมายให้คุ้มครองรักษาในทุกสิ่งทุกอย่าง
अरबी तफ़सीरें:
لَّا تُدۡرِكُهُ ٱلۡأَبۡصَٰرُ وَهُوَ يُدۡرِكُ ٱلۡأَبۡصَٰرَۖ وَهُوَ ٱللَّطِيفُ ٱلۡخَبِيرُ
สายตาทั้งหลายนั้นไม่สามารถคลอบคลุมไปถึงพระองค์ได้ แต่พระองค์นั้นทรงรู้ตระหนักถึงสายตาเหล่านั้น และคลอบคลุมไปถึงมัน และพระองค์ก็คือ ผู้ที่ทรงอ่อนโยนต่อปวงบ่าวของพระองค์ที่ดีทั้งหลาย ผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วนถึงพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قَدۡ جَآءَكُم بَصَآئِرُ مِن رَّبِّكُمۡۖ فَمَنۡ أَبۡصَرَ فَلِنَفۡسِهِۦۖ وَمَنۡ عَمِيَ فَعَلَيۡهَاۚ وَمَآ أَنَا۠ عَلَيۡكُم بِحَفِيظٖ
โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงบรรดาหลักฐานที่ชัดเจนและข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ที่ชัดแจ้งจากพระเจ้าของพวกเจ้านั้นได้มายังพวกเจ้าแล้ว แล้วผู้ใดที่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญมันและยอมจำนน แน่นอนผลประโยชน์นั้นก็จะย้อนกลับไปหาเขา และผู้ใดมองไม่เห็นมัน และไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญมัน และไม่ยอมจำนนต่อมัน แน่นอนโทษภัยนั้นมันถูกกักกั้นไว้บนตัวเขา และฉันมิใช่เป็นผู้เฝ้าคอยสังเกตการณ์พวกท่าน หรือคำนวณนับการทำงานของพวกท่าน แท้จริงแล้ว ฉันนั้นคือเราะซูลคนหนึ่งที่มาจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์นั้นต่างหากเป็นผู้เฝ้าคอยสังเกตการณ์พวกท่าน
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ نُصَرِّفُ ٱلۡأٓيَٰتِ وَلِيَقُولُواْ دَرَسۡتَ وَلِنُبَيِّنَهُۥ لِقَوۡمٖ يَعۡلَمُونَ
และในทำนองเดียวกัน เราได้แจกแจงบรรดาหลักฐานและข้อพิสูจน์ทั้งหลายที่ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของอัลลอฮฺ เราก็จะแจกแจงบรรดาโองการต่าง ๆ ในสัญญา และการข่มขู่ และการตักเตือน และพวกที่ตั้งภาคีก็จะกล่าวว่า : นี่ไม่ใช่วะฮฺยู แท้จริงเจ้านั้นได้ศึกษามันมาจากชาวคัมภีร์ที่มาก่อนหน้าเจ้า เพื่อที่เราจะได้ให้ความจริงนั้นแจ่มแจ้งแก่มนุษย์ด้วยการแจกแจงของเราซึ่งบรรดาโองการต่าง ๆ เหล่านี้ และแก่บรรดาผู้ศรัทธาจากประชาชาติของมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ดังนั้นพวกเขาคือบรรดาผู้ที่ยอมรับความจริงและปฏิบัติตามมัน
अरबी तफ़सीरें:
ٱتَّبِعۡ مَآ أُوحِيَ إِلَيۡكَ مِن رَّبِّكَۖ لَآ إِلَٰهَ إِلَّا هُوَۖ وَأَعۡرِضۡ عَنِ ٱلۡمُشۡرِكِينَ
โอ้เราะซูลเอ๋ย จงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า ซึ่งสัจธรรม ที่มาจากพระเจ้าของเจ้าเถิด ดังนั้นเขาคือพระผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ ไม่มีผู้ถูกกราบไหว้ใด ๆ โดยเที่ยงแท้นอกจากพระองค์ และเจ้าอย่าได้ทำให้หัวใจของเจ้านั้นไปยุ่งอยู่กับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและความดื้อรั้นของพวกเขาเลย แน่นอนเรื่องของพวกเขานั้นอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ
अरबी तफ़सीरें:
وَلَوۡ شَآءَ ٱللَّهُ مَآ أَشۡرَكُواْۗ وَمَا جَعَلۡنَٰكَ عَلَيۡهِمۡ حَفِيظٗاۖ وَمَآ أَنتَ عَلَيۡهِم بِوَكِيلٖ
และหากว่าอัลลอฮฺได้ทรงประสงค์ที่จะไม่ให้พวกเขาได้ตั้งภาคีใดภาคีหนึ่งต่อพระองค์ แน่นอนพวกเขาก็จะไม่ตั้งภาคีหนึ่งภาคีใดต่อพระองค์ และเราก็มิได้ให้เจ้า โอ้เราะซูล เป็นผู้เฝ้าคอยสังเกตการณ์ คำนวณนับการงานของพวกเขา และเจ้าก็มิใช่เป็นผู้รับผิดชอบต่อพวกเขา แท้จริงเจ้านั้นเป็นเพียงเราะซูล และไม่มีสิ่งใดเลยเหนือตัวเจ้าเว้นเสียจากการประกาศให้รู้
अरबी तफ़सीरें:
وَلَا تَسُبُّواْ ٱلَّذِينَ يَدۡعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ فَيَسُبُّواْ ٱللَّهَ عَدۡوَۢا بِغَيۡرِ عِلۡمٖۗ كَذَٰلِكَ زَيَّنَّا لِكُلِّ أُمَّةٍ عَمَلَهُمۡ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّهِم مَّرۡجِعُهُمۡ فَيُنَبِّئُهُم بِمَا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
และพวกเจ้า โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงอย่าด่าว่าบรรดาเจว็ดที่พวกตั้งภาคีนั้นกำลังเคารพบูชามันพร้อมกับอัลลอฮฺเถิด และถึงแม้ว่ามันเป็นสิ่งที่น่าอัปยศยิ่งและสมควรแก่การด่าว่ามัน ก็เพื่อไม่ให้พวกตั้งภาคีนั้นด่าว่าอัลลอฮฺเป็นการยืดเยื้อ และปราศจากความรู้ต่อสิ่งที่เหมาะสมคู่ควรต่อพระองค์ และในขณะที่พวกเขาเหล่านั้นได้ถูกทำให้เห็นดีเห็นงามบนสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ ซึ่งการหลงทาง เราได้ให้เห็นดีเห็นงามแก่ทุกประชาชาติ ซึ่งการงานของพวกเขาที่ดีงามและที่ชั่วช้า แล้วพวกเขาก็ได้นำมันมา ซึ่งสิ่งที่เรานั้นได้ทำมันให้เห็นดีเห็นงามสำหรับพวกเขา จากนั้นสถานที่กลับไปของพวกเขา ก็คือการกลับไปยังพระเจ้าของพวกเขาในวันกิยามะฮฺ แล้วพระองค์ก็จะทรงบอกแก่พวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำกันไว้ในโลกดุนยา และพระองค์ก็จะทรงตอบแทนต่อพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَأَقۡسَمُواْ بِٱللَّهِ جَهۡدَ أَيۡمَٰنِهِمۡ لَئِن جَآءَتۡهُمۡ ءَايَةٞ لَّيُؤۡمِنُنَّ بِهَاۚ قُلۡ إِنَّمَا ٱلۡأٓيَٰتُ عِندَ ٱللَّهِۖ وَمَا يُشۡعِرُكُمۡ أَنَّهَآ إِذَا جَآءَتۡ لَا يُؤۡمِنُونَ
และพวกที่ตั้งภาคีนั้นได้สาบานต่ออัลลอฮฺ ซึ่งกับการสาบานของพวกเขาที่มันหนักแน่นยิ่ง ว่า : ถ้าหากมูฮัมมัดได้มายังพวกเขา พร้อมด้วยสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งจากบรรดาสัญญาณทั้งหลายที่พวกเขานั้นได้เสนอแนะมัน แน่นอนพวกเขาจะศรัทธาต่อมัน จงกล่าวแก่พวกเขาเถิด โอ้เราะซูล ว่า : แท้จริงสัญญาณทั้งหลายนั้นมิได้อยู่ ณ ที่ฉัน แท้จริงมันอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ พระองค์จะประทานมันลงมาเมื่อใดก็ได้ตามที่พระองค์ได้ประสงค์ โอ้ผู้ศรัทธาเอ๋ย และอะไรเล่าที่จะทำให้พวกเจ้ารู้ได้ว่าสัญญานทั้งหลายเหล่านี้ หากมันได้มาตามที่พวกเขาได้เสนอแนะแล้ว พวกเขาจะศรัทธา? แน่นอนพวกเขาก็จะไม่ศรัทธา แต่ทว่าพวกเขานั้นจะยังคงยืนกรานอยู่บนความความดื้อรั้นและความเย่อหยิ่งของพวกเขา เพราะว่าพวกเขานั้นไม่ต้องการรับทางนำ
अरबी तफ़सीरें:
وَنُقَلِّبُ أَفۡـِٔدَتَهُمۡ وَأَبۡصَٰرَهُمۡ كَمَا لَمۡ يُؤۡمِنُواْ بِهِۦٓ أَوَّلَ مَرَّةٖ وَنَذَرُهُمۡ فِي طُغۡيَٰنِهِمۡ يَعۡمَهُونَ
และเราจะพลิกบรรดาหัวใจของพวกเขาและดวงตาของพวกเขา ด้วยการสกัดกั้นระหว่างมันกับการชี้นำไปสู่สัจธรรมที่แท้จริง เช่นเดียวกับที่เรานั้นเคยได้สกัดกันระหว่างพวกเขากับการศรัทธาต่ออัลกุรอ่านในครั้งแรก เนื่องด้วยความดื้อรั้นของพวกเขา และเราจะปล่อยพวกเขาให้ระเหเร่ร่อนอยู่ในการหลงทางของพวกเขา และการละเมิดของพวกเขาที่มีต่อพระเจ้าของพวกเขา อย่างสับสนซุ่มซ่ามต่อไป
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• تنزيه الله تعالى عن الظلم الذي ترسِّخُه عقيدة (الجَبْر)، وبيان أن كفر العباد وشركهم أمر يحدث باختيارهم.
การทำให้อัลลอฮฺ ตะอาลา บริสุทธิ์จากการอธรรม ที่หลักความเชื่อ (ของพวกอัลญับรฺ) นั้นได้กำหนดมันไว้ และบ่งบอกว่าการปฏิเสธของบ่าวและการตั้งภาคีของพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาโดยการเลือกของพวกเขาเอง

• ليس بمقدور نبي من الأنبياء أن يأتي بآية من عند نفسه، أو متى شاء، بل ذلك أمر مردود لله تعالى، فهو القادر وحده على ذلك، وهو الحكيم الذي يُقَدِّر نوع الآية ووقت إظهارها.
ไม่ใช่ด้วยการกำหนดของนบีคนหนึ่งคนใดจากบรรดานบี ที่เขานั้นจะสามารถมาพร้อมกับสัญญาณหนึ่ง ๆ โดยตัวของเขาเอง หรือจะนำมันมาเมื่อใดก็ได้ตามที่เขาประสงค์ แต่ทว่าแท้จริงแล้วเรื่องนั้นมันต้องกลับไปหาอัลลอฮฺ ตะอาลา แน่นอนพระองค์ คือ ผู้ที่มีความสามารถเพียงองค์เดียวต่อสิ่งนั้น และพระองค์ คือ ผู้ทรงมีความรอบรู้ ซึ่งทรงกำหนดประเภทต่าง ๆ ของสัญญาณและเวลาการปรากฎขึ้นของมัน

• النهي عن سب آلهة المشركين حذرًا من مفسدة أكبر وهي التعدي بالسب على جناب رب العالمين.
ห้ามการด่าทอพระเจ้าของบรรดาผู้ตั้งภาคี เพื่อเป็นการให้ระมัดระวังถึงผลเสียอันใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้น และมันก็คือ การละเมิดสิทธิด้วยการด่าทอพระผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก

• قد يحول الله سبحانه وتعالى بين العبد والهداية، ويُصرِّف بصره وقلبه على غير الطاعة؛ عقوبة له على اختياره الكفر.
แท้จริงอัลลอฮฺ ตะอาลา นั้น ทรงสกัดกั้นระหว่างบ่าวกับทางนำ และทรงหันเหดวงตาของเขา และหัวใจของเขาไปสู่การไม่เชื่อฟัง เพื่อเป็นการลงโทษต่อเขา ในการสิ่งที่เขาเลือก ซึ่งการปฏิเสธศรัทธา

۞ وَلَوۡ أَنَّنَا نَزَّلۡنَآ إِلَيۡهِمُ ٱلۡمَلَٰٓئِكَةَ وَكَلَّمَهُمُ ٱلۡمَوۡتَىٰ وَحَشَرۡنَا عَلَيۡهِمۡ كُلَّ شَيۡءٖ قُبُلٗا مَّا كَانُواْ لِيُؤۡمِنُوٓاْ إِلَّآ أَن يَشَآءَ ٱللَّهُ وَلَٰكِنَّ أَكۡثَرَهُمۡ يَجۡهَلُونَ
และแม้ว่าเรา(อัลลอฮ์)ได้ตอบรับพวกเขา ตามที่พวกเขาได้เสนอไว้ แล้วเราได้ส่งมลาอิกะฮ์ลงมายังพวกเขาและได้เห็นบรรดามลาอิกะฮฺเหล่านั้น และทำให้บรรดาคนตายได้พูดกับพวกเขา และได้บอกไปยังพวกเขาถึงความสัจจริงของเจ้าในสิ่งที่เจ้าได้นำมา และเราได้รวบรวมทุกสิ่งที่พวกเขาได้เสนอมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็ใช่ว่าพวกเขาจะศรัทธาในสิ่งที่เจ้าได้นำมา นอกจากผู้ที่อัลลอฮ์จะทรงประสงค์ให้ทางนำแก่เขาเท่านั้น แต่ทว่าส่วนมากในหมู่พวกเขานั้นไม่รู้ถึงสิ่งนั้นเลย และพวกเขาไม่ใช่ว่าจะหันไปยังอัลลอฮ์ เพื่อที่จะให้พระองค์นั้นทรงให้ทางนำแก่พวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ جَعَلۡنَا لِكُلِّ نَبِيٍّ عَدُوّٗا شَيَٰطِينَ ٱلۡإِنسِ وَٱلۡجِنِّ يُوحِي بَعۡضُهُمۡ إِلَىٰ بَعۡضٖ زُخۡرُفَ ٱلۡقَوۡلِ غُرُورٗاۚ وَلَوۡ شَآءَ رَبُّكَ مَا فَعَلُوهُۖ فَذَرۡهُمۡ وَمَا يَفۡتَرُونَ
และในทำนองเดียวกัน ที่เราได้ทดสอบเจ้าด้วยการเป็นศัตรูของบรรดาผู้ตั้งภาคีที่มีต่อเจ้า เราได้ทดสอบบรรดานบีก่อนหน้าเจ้ามาแล้ว โดยเราได้ให้ทุกๆนบีมีศัตรูจากคนพาลในหมู่มนุษย์และญิน โดยบางส่วนจะคอยกระซิบคำโกหกที่สวยงามแก่อีกบางส่วน เพื่อเป็นการหลอกลวงพวกเขา และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ที่จะไม่ให้พวกเขากระทำเช่นนั้น แน่นอนพวกเขาก็จะไม่ทำ แต่พระองค์ทรงประสงค์ที่จะให้พวกเขากระทำเช่นนั้นเพื่อเป็นการทดสอบ ดังนั้นเจ้าจงปล่อยพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นที่เป็นการปฏิเสธศรัทธาและความเท็จเถิด และอย่าเอาใจใส่พวกเขาเลย
अरबी तफ़सीरें:
وَلِتَصۡغَىٰٓ إِلَيۡهِ أَفۡـِٔدَةُ ٱلَّذِينَ لَا يُؤۡمِنُونَ بِٱلۡأٓخِرَةِ وَلِيَرۡضَوۡهُ وَلِيَقۡتَرِفُواْ مَا هُم مُّقۡتَرِفُونَ
และเพื่อหัวใจของบรรดาผู้ไม่ศรัทธาในปรโลกเกิดการโน้มเอียงสู่สิ่งที่พวกเขาได้กระซิบกระซาบระหว่างกัน และเพื่อพวกเขาจะได้ยอมรับและพึงพอใจเพื่อตัวของพวกเขาเอง และเพื่อให้พวกเขาได้กระทำการผิดศีลธรรมและบาปที่พวกเขามักทำกัน
अरबी तफ़सीरें:
أَفَغَيۡرَ ٱللَّهِ أَبۡتَغِي حَكَمٗا وَهُوَ ٱلَّذِيٓ أَنزَلَ إِلَيۡكُمُ ٱلۡكِتَٰبَ مُفَصَّلٗاۚ وَٱلَّذِينَ ءَاتَيۡنَٰهُمُ ٱلۡكِتَٰبَ يَعۡلَمُونَ أَنَّهُۥ مُنَزَّلٞ مِّن رَّبِّكَ بِٱلۡحَقِّۖ فَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلۡمُمۡتَرِينَ
จงกล่าวเถิดโอ้เราะสูลเอ๋ย แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีที่สักการะสิ่งอื่นพร้อมกับอัลลอฮ์ มันเป็นไปได้หรือที่ฉันจะยอมรับอื่นจากอัลลอฮ์เป็นผู้ชี้ขาดระหว่างฉันกับพวกท่าน? ในเมื่ออัลลอฮฺผู้ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอานอันชัดแจ้งและเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างลงมาแก่พวกท่าน และชาวยิวที่เราได้มอบคัมภีร์ อัตเตารอตแก่พวกเขา และชาวคริสต์ที่เราได้มอบคัมภีร์ อัลอินญีลแก่พวกเขา พวกเขารู้ดีว่า แท้จริงอัลกุรอานนั้นถูกประทานลงมาแก่เจ้าที่ประกอบด้วยความจริงทุกอย่าง เพราะพวกเขาได้พบในคัมภีร์ทั้งสองของพวกเขาที่พูดถึงอัลกุรอาน ดังนั้นเจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยในสิ่งที่เราได้ประทานลงมาแก่เจ้าเป็นอันขาด
अरबी तफ़सीरें:
وَتَمَّتۡ كَلِمَتُ رَبِّكَ صِدۡقٗا وَعَدۡلٗاۚ لَّا مُبَدِّلَ لِكَلِمَٰتِهِۦۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلۡعَلِيمُ
และอัลกุรอานนั้นได้บรรลุถึงความสูงสุดแห่งความจริง ทั้งในด้านคำกล่าวและเรื่องราวต่างๆ จะไม่มีผู้ใดทำการเปลี่ยนแปลงบรรดาถ้อยคำของพระองค์ได้ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยินคำพูดของปวงบ่าวของพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้ ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นไปจากพระองค์ได้ และพระองค์จะทรงตอบแทนผู้ที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงถ้อยคำของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَإِن تُطِعۡ أَكۡثَرَ مَن فِي ٱلۡأَرۡضِ يُضِلُّوكَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِۚ إِن يَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّ وَإِنۡ هُمۡ إِلَّا يَخۡرُصُونَ
และหากเจ้า -โอ้ เราะสูลเอ๋ย- เชื่อฟังคนส่วนมากในแผ่นดินแล้ว พวกเขาจะทำให้เจ้าหลงจากศาสนาของอัลลอฮ์ เพราะกฎเกณฑ์ของอัลลอฮ์ได้กำหนดไว้แล้วว่า สัจธรรมจะอยู่กับคนส่วนน้อย และคนส่วนใหญ่มักจะไม่ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากการสันนิษฐานที่ไม่มีที่มา โดยพวกเขาสันนิษฐานว่าบรรดารูปปั้นที่พวกเขาเคารพสักการะนั้นจะทำให้พวกเขาใกล้ชิดอัลลอฮ์ และพวกเขาได้โกหกในเรื่องดังกล่าวนั้น
अरबी तफ़सीरें:
إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعۡلَمُ مَن يَضِلُّ عَن سَبِيلِهِۦۖ وَهُوَ أَعۡلَمُ بِٱلۡمُهۡتَدِينَ
แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้า -โอ้ เราะสูลเอ๋ย- ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่หลงทางไปจากทางของพระองค์ในหมู่มนุษย์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่ได้รับการชี้นำสู่ทางนำ ไม่มีสิ่งใดถูกซ่อนเร้นจากพระองค์ได้
अरबी तफ़सीरें:
فَكُلُواْ مِمَّا ذُكِرَ ٱسۡمُ ٱللَّهِ عَلَيۡهِ إِن كُنتُم بِـَٔايَٰتِهِۦ مُؤۡمِنِينَ
โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย ดังนั้นพวกเจ้าจงบริโภคจากสิ่งที่พระนามของอัลลอฮ์ถูกกล่าวบนมันขณะเชือดเถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาอย่างสัตย์จริงในหลักฐานอันชัดแจ้งของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• يجب أن يكون الهدف الأعظم للعبد اتباع الحق، ويطلبه بالطرق التي بيَّنها الله، ويعمل بذلك، ويرجو عَوْن ربه في اتباعه، ولا يتكل على نفسه وحوله وقوته.
จำเป็นสำหรับบ่าวทุกคนต้องมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นคือการปฏิบัติตามสัจธรรม และการแสวงหามันด้วยวิธีการที่อัลลอฮ์ได้ทรงชีแจงไว้ การปฏิบัติตามสิ่งนั้นและหวังความช่วยเหลือจากพระเจ้าของเขาในการปฏิบัติตามพระองค์ และจะไม่มอบหมายต่อตัวเองและพลังอำนาจของตัวเอง(แต่จะมอบหมายต่ออัลลอฮ์)

• من إنصاف القرآن للقلة المؤمنة العالمة إسناده الجهل والضلال إلى أكثر الخلق.
ความยุติธรรมอย่างหนึ่งที่อัลกุรอานมอบให้กับชนกลุ่มน้อยที่เป็นผู้ศรัทธาและผู้มีความรู้ คือการพากพิงความเขลาและการหลงทางนั้นเป็นของคนส่วนใหญ่

• من سنّته تعالى في الخلق ظهور أعداء من الإنس والجنّ للأنبياء وأتباعهم؛ لأنّ الحقّ يعرف بضدّه من الباطل.
กฎเกณฑ์ประการหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้กำหนดไว้คือการมีศัตรูจากมวลมนุษย์และญินสำหรับบรรดานบีและผู้ติดตามพวกเขา เพราะความสัจธรรมนั้นจะรู้ได้ด้วยสิ่งที่ตรงกันข้ามของมันจากความเท็จ

• القرآن صادق في أخباره، عادل في أحكامه،لا يُعْثَر في أخباره على ما يخالف الواقع، ولا في أحكامه على ما يخالف الحق.
คัมภีร์กุรอานเป็นความจริงเสมอในเรื่องราวต่างๆ และยุติธรรมในกฎหมายของมัน ไม่มีเรื่องราวใดที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่มีอยู่ และไม่มีหลักนิติธรรมใดที่ขัดต่อความจริง

وَمَا لَكُمۡ أَلَّا تَأۡكُلُواْ مِمَّا ذُكِرَ ٱسۡمُ ٱللَّهِ عَلَيۡهِ وَقَدۡ فَصَّلَ لَكُم مَّا حَرَّمَ عَلَيۡكُمۡ إِلَّا مَا ٱضۡطُرِرۡتُمۡ إِلَيۡهِۗ وَإِنَّ كَثِيرٗا لَّيُضِلُّونَ بِأَهۡوَآئِهِم بِغَيۡرِ عِلۡمٍۚ إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعۡلَمُ بِٱلۡمُعۡتَدِينَ
อะไรเป็นเหตุทำให้พวกเจ้า -โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย- ไม่บริโภคจากสิ่งพระนามของอัลลอฮ์ได้ถูกกล่าวบนมัน(ในยามที่เชือดมัน) และแน่นอนอัลลอฮ์ได้แจกแจ้งอย่างกระจ่างแล้วแก่พวกเจ้าถึงสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ดังนั้นจำเป็นเหนือพวกเจ้าต้องละทิ้งมัน เว้นแต่เมื่อพวกเจ้าต้องอาศัยมัน(กินมัน)โดยความจำเป็นที่คับขัน เพราะสถานภาพที่คับขันทำให้สิ่งต้องห้ามเป็นที่อนุญาตได้ และส่วนมากในหมู่ผู้ตั้งภาคีจะพยายามทำให้ผู้ตามของพวกเขาให้ห่างไกลจากสัจธรรมเนื่องด้วยทัศนะคติที่ไม่ดีที่เกิดจากความไม่รู้ของพวกเขา โดยพวกเขาจะอนุมัติสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงห้ามเช่นซากสัตว์และอื่นๆ และจะไม่อนุมัติในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุมัติ และพวกเขาได้ทำให้เป็นที่ต้องห้าม เช่น บะฮีเราะฮฺ(แม่อูฐที่ผ่าหูอย่างกว้างและมันได้ออกลูกมาแล้ว 5 ตัว) และอื่นๆ แท้จริงพระเจ้าของเจ้า -โอ้ เราะสูลเอ๋ย- คือผู้ทรงรอบรู้ยิ่งต่อผู้ละเมิดขอบเขตของพระองค์ทั้งหลายและพระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขาต่อการละเมิดของพวกเขาต่อขอบเขตของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَذَرُواْ ظَٰهِرَ ٱلۡإِثۡمِ وَبَاطِنَهُۥٓۚ إِنَّ ٱلَّذِينَ يَكۡسِبُونَ ٱلۡإِثۡمَ سَيُجۡزَوۡنَ بِمَا كَانُواْ يَقۡتَرِفُونَ
โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าจงละเสียซึ่งการกระทำบาปที่เปิดเผยและบาปที่ปกปิด แท้จริงบรรดาผู้ที่กระทำบาปที่เปิดเผยและบาปที่ปกปิดอยู่นั้น อัลลอฮ์จะทรงตอบแทนพวกเขาตามที่พวกเขากระทำกัน
अरबी तफ़सीरें:
وَلَا تَأۡكُلُواْ مِمَّا لَمۡ يُذۡكَرِ ٱسۡمُ ٱللَّهِ عَلَيۡهِ وَإِنَّهُۥ لَفِسۡقٞۗ وَإِنَّ ٱلشَّيَٰطِينَ لَيُوحُونَ إِلَىٰٓ أَوۡلِيَآئِهِمۡ لِيُجَٰدِلُوكُمۡۖ وَإِنۡ أَطَعۡتُمُوهُمۡ إِنَّكُمۡ لَمُشۡرِكُونَ
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย พวกเจ้าจงอย่าบริโภคจากสิ่งที่พระนามของอัลลอฮ์มิได้ถูกกล่าวบนมัน แม้ว่าจะมีการกล่าวชื่ออื่นจากอัลลอฮ์หรือไม่ก็ตาม และแท้จริงการกินจากสิ่งนั้นเป็นการเนรคุณต่ออัลลอฮ์ และแท้จริงบรรดาชัยฏอนนั้นจะกระซิบกระซาบแก่บรรดาสหายของมัน ด้วยการให้ความคลุมเครือเพื่อพวกเขาจะได้โต้เถียงกับพวกเจ้าในเรื่องการรับประทานสัตว์ตาย(สัตว์ที่ตายโดยไม่ถูกกล่าวพระนามของอัลลอฮ์บนมัน)โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลายเอ๋ย หากพวกเจ้าเชื่อฟังพวกเขาในสิ่งที่คลุมเครือนั้น -เพื่อนำไปสู่การอนุญาตให้รับประทานสัตว์ตายได้- แน่นอนพวกเจ้าและพวกเขาจะไม่แตกต่างกันในการตกอยู่ในสภาพของการตั้งภาคี
अरबी तफ़सीरें:
أَوَمَن كَانَ مَيۡتٗا فَأَحۡيَيۡنَٰهُ وَجَعَلۡنَا لَهُۥ نُورٗا يَمۡشِي بِهِۦ فِي ٱلنَّاسِ كَمَن مَّثَلُهُۥ فِي ٱلظُّلُمَٰتِ لَيۡسَ بِخَارِجٖ مِّنۡهَاۚ كَذَٰلِكَ زُيِّنَ لِلۡكَٰفِرِينَ مَا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
และผู้ที่ก่อนการได้รับการชี้นำสู่อัลลอฮ์ที่เปรียบดังเป็นผู้ที่ตายไปแล้ว (อันเนื่องด้วยการปฏิเสธศรัทธา ความโง่เขลา และการกระทำที่ผิดศีลธรรมต่างๆ ) แล้วเราทำให้เขามีชีวิตขึ้นมา ด้วยการชี้นำเขาสู่การศรัทธา สู่ความรู้ที่ถูกต้องและการปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ (ผู้ที่มีชีวิตในลักษณะดังกล่าวนี้) จะเหมือนกับผู้ที่มีชีวิตในความมืด ความโง่เขลา และในการกระทำที่ผิดศีลธรรม กระนั้นหรือ?! ดังเช่น การกระทำที่เป็นการตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ การกินซากสัตว์ที่ตายโดยไม่ได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ก่อนทำการเชือด และการโต้เถียงด้วยความเท็จได้ถูกประดับให้ดูสวยงามในสายตาของบรรดาผู้ตั้งภาคี ก็ได้ทำให้บรรดาผู้ปฏิเสธได้ถูกประดับให้เห็นถึงความสวยงามในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำเช่นกัน จากการกระทำที่ผิดศีลธรรมต่างๆ เพื่อพวกเขาจะได้รับการตอบแทนในวันกิยามะฮ์ด้วยการลงโทษที่แสนสาหัส
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ جَعَلۡنَا فِي كُلِّ قَرۡيَةٍ أَكَٰبِرَ مُجۡرِمِيهَا لِيَمۡكُرُواْ فِيهَاۖ وَمَا يَمۡكُرُونَ إِلَّا بِأَنفُسِهِمۡ وَمَا يَشۡعُرُونَ
และดังที่เกิดขึ้นกับผู้นำของบรรดาผู้ตั้งภาคีในมักกะฮ์ที่ได้ขวางผู้อื่นจากหนทางของอัลลอฮ์ เราได้ให้มีขึ้นในแต่ละเมือง ซึ่งบรรดาผู้นำและผู้มีอิทธิพลได้วางเล่ห์เหลี่ยม และกลอุบายในการเรียกร้องสู่หนทางของชัยฏอนและการปราบปรามบรรดาเราะสูลและผู้ติดตามของพวกเขา และในความเป็นจริงแล้วอุบายและเล่ห์เหลี่ยมของพวกเขานั้นได้กลับคืนสนองพวกเขาเอง แต่พวกเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งนั้นเพราะความโง่เขลาของพวกเขาและทำตามความปรารถนาของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَإِذَا جَآءَتۡهُمۡ ءَايَةٞ قَالُواْ لَن نُّؤۡمِنَ حَتَّىٰ نُؤۡتَىٰ مِثۡلَ مَآ أُوتِيَ رُسُلُ ٱللَّهِۘ ٱللَّهُ أَعۡلَمُ حَيۡثُ يَجۡعَلُ رِسَالَتَهُۥۗ سَيُصِيبُ ٱلَّذِينَ أَجۡرَمُواْ صَغَارٌ عِندَ ٱللَّهِ وَعَذَابٞ شَدِيدُۢ بِمَا كَانُواْ يَمۡكُرُونَ
และเมื่อมีโองการได้มายังบรรดาผู้นำของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ถูกประทานลงมาจากอัลลอฮ์แก่นบีของพระองค์ พวกเขาก็กล่าวว่า "เราจะไม่ศรัทธาเป็นอันขาดจนกว่าอัลลอฮ์จะให้เราเหมือนสิ่งที่ให้แก่บรรดานบี ซึ่งการเป็นนบีและการเป็นเราะสูล" แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงตอบแก่พวกเขาว่า พระองค์ทรงรอบรู้ดียิ่งถึงบุคคลที่เหมาะสมสำหรับการเป็นเราะสูล และสามารถที่จะทำหน้าที่ด้วยความยากลำบาก ดังนั้นจึงได้เลือกเขาเป็นนบีและเป็นเราะสูล และบรรดาผู้อธรรมจะได้รับความอัปยศ ความตกต่ำเนื่องด้วยความหยิ่งของพาต่อสัจธรรมและการลงโทษที่แสนเจ็บปวดเพราะอุบายของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الأصل في الأشياء والأطعمة الإباحة، وأنه إذا لم يرد الشرع بتحريم شيء منها فإنه باق على الإباحة.
หลักเดิมของแต่ละสิ่งและอาหารแต่ละชนิดเป็นที่อนุญาต หากไม่ได้ถูกบัญญัติว่าเป็นสิ่งต้องห้าม ก็จะยังคงเป็นที่อนุญาตตามหลักเดิม

• كل من تكلم في الدين بما لا يعلمه، أو دعا الناس إلى شيء لا يعلم أنه حق أو باطل، فهو معتدٍ ظالم لنفسه وللناس، وكذلك كل من أفتى وليس هو بكفء للإفتاء.
ทุกคนที่พูดเรื่องศาสนาโดยที่เขาไม่รู้ หรือเชิญชวนผู้อื่นไปยังสิ่งใดๆ ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นสัจธรรมหรือมดเท็จ ดังนั้นเขาผู้นั้นเป็นผู้ฝ่าฝืน อธรรมต่อตัวของเขาเองและต่อมวลมนุษย์ และเช่นนั้นเเหละผู้ที่ตอบประเด็นศาสนาโดยที่เขาไม่มีความเหมาะสมที่จะให้การตอบ

• منفعة المؤمن ليست مقتصرة على نفسه، بل مُتَعدِّية لغيره من الناس.
ประโยชน์ของผู้ศรัทธาไม่ได้จำกัดอยู่กับตัวของเขาเท่านั้น แต่จะส่งผลไปยังคนอื่นด้วย

فَمَن يُرِدِ ٱللَّهُ أَن يَهۡدِيَهُۥ يَشۡرَحۡ صَدۡرَهُۥ لِلۡإِسۡلَٰمِۖ وَمَن يُرِدۡ أَن يُضِلَّهُۥ يَجۡعَلۡ صَدۡرَهُۥ ضَيِّقًا حَرَجٗا كَأَنَّمَا يَصَّعَّدُ فِي ٱلسَّمَآءِۚ كَذَٰلِكَ يَجۡعَلُ ٱللَّهُ ٱلرِّجۡسَ عَلَى ٱلَّذِينَ لَا يُؤۡمِنُونَ
ดังนั้นผู้ใดที่อัลลอฮ์ประสงค์จะชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่เขา พระองค์จะทรงเปิดใจเขา และจัดเตรียมมันเพื่อรับอิสลามโดยเต็มใจ และใครก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์จะละทิ้งและไม่ชี้ทางให้แก่เขา พระองค์ก็จะทรงทำให้หน้าอกของเขาแคบลงอย่างยิ่งและไม่สามารถยอมรับความจริงได้ เปรียบเสมือนคนที่ขึ้นไปบนฟากฟ้าสูงจนหายใจลำบาก เฉกเช่นที่อัลลอฮ์ทรงทำให้สภาพของผู้หลงทางแคบลง พระองค์จะทรงลงโทษผู้ที่ไม่มีศรัทธาต่อพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
وَهَٰذَا صِرَٰطُ رَبِّكَ مُسۡتَقِيمٗاۗ قَدۡ فَصَّلۡنَا ٱلۡأٓيَٰتِ لِقَوۡمٖ يَذَّكَّرُونَ
นี่คือศาสนาที่เราได้บัญญัติแก่เจ้า -โอ้ เราะสูลเอ๋ย- มันคือทางของอัลลอฮ์อันเที่ยงตรงที่ไม่คดเคี้ยว แท้จริงเราได้แจกแจงโองการทั้งหลายสำหรับกลุ่มชนที่มีความตระหนักรู้และมีความเข้าใจ ซึ่งตระหนักดีว่ามาจากอัลลอฮ์
अरबी तफ़सीरें:
۞ لَهُمۡ دَارُ ٱلسَّلَٰمِ عِندَ رَبِّهِمۡۖ وَهُوَ وَلِيُّهُم بِمَا كَانُواْ يَعۡمَلُونَ
สำหรับพวกเขา คือที่พำนัก ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะปลอดภัยจากทุกสิ่งที่ไม่ดี มันคือสวรรค์นั่นเอง และอัลลอฮ์คือผู้ทรงช่วยเหลือพวกเขาและผู้ทรงสนับสนุนของพวกเขาให้ได้รับผลตอบแทนสำหรับการงานที่ดีที่พวกเขาได้ทำมา
अरबी तफ़सीरें:
وَيَوۡمَ يَحۡشُرُهُمۡ جَمِيعٗا يَٰمَعۡشَرَ ٱلۡجِنِّ قَدِ ٱسۡتَكۡثَرۡتُم مِّنَ ٱلۡإِنسِۖ وَقَالَ أَوۡلِيَآؤُهُم مِّنَ ٱلۡإِنسِ رَبَّنَا ٱسۡتَمۡتَعَ بَعۡضُنَا بِبَعۡضٖ وَبَلَغۡنَآ أَجَلَنَا ٱلَّذِيٓ أَجَّلۡتَ لَنَاۚ قَالَ ٱلنَّارُ مَثۡوَىٰكُمۡ خَٰلِدِينَ فِيهَآ إِلَّا مَا شَآءَ ٱللَّهُۚ إِنَّ رَبَّكَ حَكِيمٌ عَلِيمٞ
จงรำลึกเถิด -โอ้ เราะสูลเอ๋ย- ถึงวันที่อัลลอฮ์จะทรงชุมนุม มนุษย์และญิน แล้วอัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “โอ้หมู่ญินทั้งหลาย แท้จริงพวกเจ้าได้กระทำให้พวกมนุษย์ได้หลงทางอย่างมากมายและสกัดพวกเขาให้ห่างไกลจากหนทางของอัลลอฮ์” และสมุนของเขาที่มาจากมนุษย์ได้ตอบพระเจ้าของเขาว่า “โอ้พระผู้อภิบาลแห่งพวกข้าพระองค์ พวกเราต่างก็ได้รับประโยชน์ระหว่างกันทั้งสองฝ่าย ดังนั้นญินมีสุขกับการที่มนุษย์ได้เชื่อฟังเขา และมนุษย์มีความสุขที่ได้ตามความปรารถนาของตน และพวกเราก็ได้ถึงเวลาที่พระองค์ทรงกำหนดแก่พวกเรา” และนี้คือ วันกิยามะฮ์ อัลลอฮ์ตรัสว่า “นรกนั้นคือที่พำนักของพวกเจ้า โดยที่จะเป็นผู้อยู่ในนั้นตลอดกาล นอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์เท่านั้นที่จะทรงกำหนดระยะเวลาระหว่างที่ฟื้นคืนชีพของพวกเขาจากหลุมศพของพวกเขาไปสู่ชะตากรรมของพวกเขาไปสู่นรก” นี่คือช่วงเวลาที่อัลลอฮ์ทรงยกเว้นจากการอยู่ในนรกตลอกกาลของพวกเขา แท้จริงพระเจ้าของเจ้า- โอ้ เราะสูลเอ๋ย- ทรงปรีชาญาณยิ่งในการกำหนดและการจัดการ ผู้ทรงรอบรู้ยิ่งต่อปวงบ่าวของพระองค์และต่อผู้ที่สมควรจะได้รับบทลงโทษ
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ نُوَلِّي بَعۡضَ ٱلظَّٰلِمِينَ بَعۡضَۢا بِمَا كَانُواْ يَكۡسِبُونَ
และเช่นเดียวกับที่เราให้ญินผู้ดื้อรั้นบางคน และให้พวกมันมีอำนาจเหนือมนุษย์บางคนเพื่อหลอกล่อพวกเขาให้หลงทาง เราก็ได้ให้อำนาจแก่ผู้อธรรมเพื่อยุยงผู้อธรรมให้กระทำความชั่ว และทำให้เขาหลีกห่างจากความดี และมักน้อยในการทำดี มันเป็นรางวัลสำหรับพวกเขาต่อสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ จากการกระทำที่ผิดศีลธรรมทั้งหลาย
अरबी तफ़सीरें:
يَٰمَعۡشَرَ ٱلۡجِنِّ وَٱلۡإِنسِ أَلَمۡ يَأۡتِكُمۡ رُسُلٞ مِّنكُمۡ يَقُصُّونَ عَلَيۡكُمۡ ءَايَٰتِي وَيُنذِرُونَكُمۡ لِقَآءَ يَوۡمِكُمۡ هَٰذَاۚ قَالُواْ شَهِدۡنَا عَلَىٰٓ أَنفُسِنَاۖ وَغَرَّتۡهُمُ ٱلۡحَيَوٰةُ ٱلدُّنۡيَا وَشَهِدُواْ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمۡ أَنَّهُمۡ كَانُواْ كَٰفِرِينَ
และเราได้กล่าวแก่พวกเขาในวันกิยามะฮ์ว่า “โอ้หมู่มนุษย์และญินเอ๋ย บรรดาเราะสูลจากพวกเจ้ามิได้มายังพวกเจ้า -ซึ่งพวกเขามาจากมนุษย์- เพื่อทำการบอกเล่าแก่พวกเจ้าในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมาให้แก่พวกเขา และตักเตือนพวกเจ้าให้เกรงกลัววันแห่งการพบกันของพวกเจ้ในวันกิยามะฮ์หรอกหรือ? พวกเขากล่าวว่า “ใช่ เราขอยอมรับว่าบรรดาเราะซูลของพระองค์ได้ทำการบอกกล่าวแก่พวกเราแล้ว และเราขอยอมรับถึงวันแห่งการพบกันในวันนี้(วันกิยามะฮ์) แต่เราได้ปฏิเสธบรรดาเราะสูลของพระองค์ และเราได้ปฏิเสธวันแห่งการพบกันในวันกิยามะฮ์นี้” และชีวิตความเป็นอยู่ที่สวยหรูและสุขสบายที่ไม่มั่งคงแห่งโลกนี้ได้หลอกล่อพวกเขา และพวกเขาก็ได้ยืนยันแก่ตัวของพวกเขาเองว่า แท้จริงพวกเขาตอนอยู่ในโลกดุนยานั้นเป็นผู้ที่ปฏิเสธอัลลอฮ์และบรรดาเราะสูลของพระองค์ การยอมรับและการศรัทธานั้นไม่ได้เกิดปรโยชน์ใดๆแก่พวกเขาเลย เพราะเวลาของมันได้หมดไปแล้ว
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• سُنَّة الله في الضلال والهداية أنهما من عنده تعالى، أي بخلقه وإيجاده، وهما من فعل العبد باختياره بعد مشيئة الله.
เป็นเกณฑ์ของอัลลอฮ์ต่อการให้หลงและการให้ทางนำ ซึ่งทั้งสองนั้นมาจากพระองค์ นั่นก็คือด้วยการสร้างและการบังเกิดของพระองค์ และทั้งสองนั้น มาจากการกระทำของบ่าวด้วยการเลือกของเขาเอง หลังความประสงค์ของอัลลอฮ์

• ولاية الله للمؤمنين بحسب أعمالهم الصالحة، فكلما زادت أعمالهم الصالحة زادت ولايته لهم والعكس.
การคุ้มครองช่วยเหลือของอัลลอฮ์แก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายนั้น เป็นไปตามคุณธรรมความดีของพวกเขา เมื่อคุณธรรมความดีของพวกเขาเพิ่มขึ้น ความการคุ้มครองการช่วยเหลือของพระองค์ต่อพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และในทางกลับกันก็เช่นกัน

• من سُنَّة الله أن يولي كل ظالم ظالمًا مثله، يدفعه إلى الشر ويحثه عليه، ويزهِّده في الخير وينفِّره عنه.
ส่วนหนึ่งจากกฎเกณฑ์ของอัลลอฮ์คือการให้ผู้อธรรมมีอำนาจเหนือผู้อธรรมเช่นกัน โดยผลักดันเขาไปสู่ความชั่วและสนับสนุนเขาต่อสิ่งนั้น และให้เขามักน้อยในความดีและละทิ้งมัน

ذَٰلِكَ أَن لَّمۡ يَكُن رَّبُّكَ مُهۡلِكَ ٱلۡقُرَىٰ بِظُلۡمٖ وَأَهۡلُهَا غَٰفِلُونَ
เหตุผลในการส่งบรรดาเราะสูลไปยังมนุษย์และญินนั้น ก็เพื่อที่จะไม่มีใครถูกลงโทษสำหรับความผิดที่พวกเขาทำ โดยไม่ได้ส่งเราะสูลไปเตือนพวกเขาก่อนและคำเชิญชวนก็ไม่ถึงพวกเขา ดังนั้นเราจะไม่ลงโทษประชาชาติใด นอกจากได้ส่งเราะสูลไปหาพวกเขาเท่านั้น
अरबी तफ़सीरें:
وَلِكُلّٖ دَرَجَٰتٞ مِّمَّا عَمِلُواْۚ وَمَا رَبُّكَ بِغَٰفِلٍ عَمَّا يَعۡمَلُونَ
และสำหรับแต่ละคนในหมู่พวกเขานั้นมีหลายระดับขั้นตามการกระทำของพวกเขา ผู้ที่มีความชั่วมากจะไม่เท่าเทียมกับผู้ที่มีความชั่วน้อย หรือผู้ตามกับผู้นำ เช่นเดียวกับผลบุญของผู้กระทำคุณงามความดีก็จะไม่เท่าเทียมกัน และพระเจ้าของเจ้าไม่ทรงเมินเฉยในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน แต่พระองค์จะทรงรู้อยู่เสมอ ไม่มีสิ่งใดถูกซ่อนเร้นจากพระองค์ และพระองค์จะตอบแทนพวกเขาตามการงานของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
وَرَبُّكَ ٱلۡغَنِيُّ ذُو ٱلرَّحۡمَةِۚ إِن يَشَأۡ يُذۡهِبۡكُمۡ وَيَسۡتَخۡلِفۡ مِنۢ بَعۡدِكُم مَّا يَشَآءُ كَمَآ أَنشَأَكُم مِّن ذُرِّيَّةِ قَوۡمٍ ءَاخَرِينَ
และพระผู้อภิบาลของเจ้า -โอ้เราะซูลเอ๋ย- คือผู้ทรงมั่งมีเหนือปวงบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพระองค์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพวกเขา และต่อการเคารพภักดีของพวกเขา และการปฏิเสธของพวกเขาก็ไม่ได้กระทบอะไรต่อพระองค์ และด้วยความมั่งมีของพระองค์ต่อพวกเขาแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตาพวกเขา หากพระองค์ประสงค์ที่จะกำจัดพวกเจ้า -โอ้บ่าวผู้เนรคุณทั้งหลาย- พระองค์ก็จะทรงนำบทลงโทษจากพระองค์ไปยังพวกเจ้า และหลังจากการทำลายพวกเจ้าไปแล้ว ก็จะทรงให้มีบรรดาผู้ศรัทธาต่อพระองค์และเชื่อฟังพระองค์มาแทนที่พวกเจ้า ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ดังที่ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้ามาจากลูกหลานของกลุ่มชนอื่นที่มาก่อนหน้าพวกเจ้า
अरबी तफ़सीरें:
إِنَّ مَا تُوعَدُونَ لَأٓتٖۖ وَمَآ أَنتُم بِمُعۡجِزِينَ
แท้จริงสิ่งที่ถูกสัญญาไว้แก่พวกเจ้า -โอ้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเอ๋ย- เช่น การฟื้นคืนชีพ การพิจารณาสอบสวน และการลงโทษนั้นต้องมาอย่างแน่นอน และพวกเจ้านั้นไม่สามารถที่จะหลบหนีไปจากพระเจ้าของเจ้าได้ พระองค์จะจับที่หน้าผากหรือขมับของพวกเจ้า และทรงเป็นผู้ลงโทษพวกเจ้าด้วยบทลงโทษของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ يَٰقَوۡمِ ٱعۡمَلُواْ عَلَىٰ مَكَانَتِكُمۡ إِنِّي عَامِلٞۖ فَسَوۡفَ تَعۡلَمُونَ مَن تَكُونُ لَهُۥ عَٰقِبَةُ ٱلدَّارِۚ إِنَّهُۥ لَا يُفۡلِحُ ٱلظَّٰلِمُونَ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- “หมู่ชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงยืนหยัดตามแนวทางของพวกท่านและตามที่พวกท่านได้ปฏิเสธศรัทธาและหลงผิดเถิด แท้จริงฉันได้เตือนและนำหลักฐานและแจ้งให้พวกท่านอย่างชัดแจ้งแล้ว ดังนั้นฉันจะไม่สนต่อการปฏิเสธศรัทธาและหลงผิดของพวกท่าน แต่ฉันจะยืนหยัดกับสิ่งที่ฉันกระทำอยู่จากสัจธรรม และพวกท่านจะได้รู้ว่าใครที่จะได้ความสำเร็จในโลกนี้ และใครจะได้ครอบครองแผ่นดิน และใครจะประสบผลสำเร็จในปรโลก แท้จริงบรรดาผู้ตั้งภาคีจะไม่ประสบผลสำเร็จทั้งในโลกนี้และปรโลก แต่ผลที่พวกเขาจะได้รับคือความสูญเสีย แม้ว่าพวกเขาจะได้เพลิดเพลินกับความสุขที่พวกเขารักในโลกนี้ก็ตาม
अरबी तफ़सीरें:
وَجَعَلُواْ لِلَّهِ مِمَّا ذَرَأَ مِنَ ٱلۡحَرۡثِ وَٱلۡأَنۡعَٰمِ نَصِيبٗا فَقَالُواْ هَٰذَا لِلَّهِ بِزَعۡمِهِمۡ وَهَٰذَا لِشُرَكَآئِنَاۖ فَمَا كَانَ لِشُرَكَآئِهِمۡ فَلَا يَصِلُ إِلَى ٱللَّهِۖ وَمَا كَانَ لِلَّهِ فَهُوَ يَصِلُ إِلَىٰ شُرَكَآئِهِمۡۗ سَآءَ مَا يَحۡكُمُونَ
และบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ได้ทำการถวายส่วนหนึ่งจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างจากพืชและปศุสัตว์แด่อัลลอฮ์ แล้วพวกเขาอ้างว่าส่วนนั้นถวายสำหรับอัลลอฮ์ และถวายอีกส่วนหนึ่งแก่รูปเคารพของพวกเขา แล้วส่วนที่พวกเขาได้ให้แก่รูปเคารพของพวกเขาจะไม่ถึงบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้ผู้รับซะกาต เช่น คนยากจนและคนขัดสน แต่ส่วนที่พวกเขาถวายแด่อัลลอฮ์จะไปที่รูปเคารพของพวกเขาและจะใช้เพื่อประโยชน์ของรูปเคารพเหล่านั้น ช่างเป็นการตัดสินและการแบ่งที่ชั่วช้ามาก
अरबी तफ़सीरें:
وَكَذَٰلِكَ زَيَّنَ لِكَثِيرٖ مِّنَ ٱلۡمُشۡرِكِينَ قَتۡلَ أَوۡلَٰدِهِمۡ شُرَكَآؤُهُمۡ لِيُرۡدُوهُمۡ وَلِيَلۡبِسُواْ عَلَيۡهِمۡ دِينَهُمۡۖ وَلَوۡ شَآءَ ٱللَّهُ مَا فَعَلُوهُۖ فَذَرۡهُمۡ وَمَا يَفۡتَرُونَ
เช่นเดียวกับที่ชัยตอนทำให้การตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ดูดีในสายตาบรรดาผู้ตั้งภาคี บรรดาชัยตอนยังทำให้พวกเขารู้สึกดีกับการฆ่าลูก ๆ ของพวกเขาเพราะความกลัวความยากจน ชัยตอนเหล่านั้นได้ดลใจพวกเขาด้วยสิ่งนี้เพื่อทำลายพวกเขาโดยการให้พวกเขาได้กระทำการฆาตกรรมผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงห้ามไว้ นอกจากด้วยความถูกต้อง และทำให้พวกเขารู้สึกสับสนกับศาสนาของพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่อัลลอฮ์สั่งหรือห้ามสำหรับพวกเขา หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้พวกเขาไม่ทำเช่นนี้ พวกเขาก็จะไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงประสงค์จากพระปรีชาญาณของพระองค์ ดังนั้น จงปล่อยพวกเขาและการหลอกลวงของพวกเขาเกี่ยวกับอัลลอฮ์เถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย - เพราะสิ่งนั่นจะไม่ทำอันตรายใดๆแก่เจ้า และจงมอบหมายเรื่องของพวกเขาไว้กับอัลลอฮ์เถิด
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• تفاوت مراتب الخلق في أعمال المعاصي والطاعات يوجب تفاوت مراتبهم في درجات العقاب والثواب.
ความต่างของระดับการกระทำในความดีหรือความชั่ว ย่อมมีผลต่อระดับของการถูกลงโทษและการได้รับผลบุญ

• اتباع الشيطان موجب لانحراف الفطرة حتى تصل لاستحسان القبيح مثل قتل الأولاد ومساواة أصنامهم بالله سبحانه وتعالى.
การปฏิบัติตามชัยฏอนเป็นการเบี่ยงเบนของสัญชาตญาณดังเดิม จนถึงขั้นทำให้สิ่งที่ชั่วช้า กลายเป็นสิ่งดี เช่น การฆ่าลูกๆ และความเท่าเทียมกันของบรรดาเทวรูปของพวกเขากับอัลลอฮ์ มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์และทรงสูงส่ง

وَقَالُواْ هَٰذِهِۦٓ أَنۡعَٰمٞ وَحَرۡثٌ حِجۡرٞ لَّا يَطۡعَمُهَآ إِلَّا مَن نَّشَآءُ بِزَعۡمِهِمۡ وَأَنۡعَٰمٌ حُرِّمَتۡ ظُهُورُهَا وَأَنۡعَٰمٞ لَّا يَذۡكُرُونَ ٱسۡمَ ٱللَّهِ عَلَيۡهَا ٱفۡتِرَآءً عَلَيۡهِۚ سَيَجۡزِيهِم بِمَا كَانُواْ يَفۡتَرُونَ
และบรรดาผู้ตั้งภาคีกล่าวว่า "ปศุสัตว์และพืชผลนี้เป็นที่ต้องห้าม” ซึ่งไม่มีใครสามารถกินมันได้ นอกจากผู้ที่พวกเขาประสงค์เท่านั้น ตามสมมติฐานที่ผิดของพวกเขา ที่เป็นคนรับใช้ของรูปเคารพและอื่น ๆ และนี่คือปศุสัตว์ที่หลังของมันเป็นที่ถูกห้ามใช้ขี่ และห้ามบรรทุกของบนหลังมัน และมันคืออูฐที่เขาปล่อยทิ้งไว้ไม่ขี่หรือบรรทุก และนี้เป็นปศุสัตว์ที่พวกเขาไม่ได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์บนมันตอนเชือด แต่พวกเขาจะกล่าวชื่อรูปปั้นของพวกเขาเวลาเชือด ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์ว่าสิ่งนั้นมาจากพระองค์ ซึ่งอัลลอฮ์จะทรงตอบแทนพวกเขาด้วยบทลงโทษของพระองค์ ในสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้น
अरबी तफ़सीरें:
وَقَالُواْ مَا فِي بُطُونِ هَٰذِهِ ٱلۡأَنۡعَٰمِ خَالِصَةٞ لِّذُكُورِنَا وَمُحَرَّمٌ عَلَىٰٓ أَزۡوَٰجِنَاۖ وَإِن يَكُن مَّيۡتَةٗ فَهُمۡ فِيهِ شُرَكَآءُۚ سَيَجۡزِيهِمۡ وَصۡفَهُمۡۚ إِنَّهُۥ حَكِيمٌ عَلِيمٞ
และพวกเขากล่าวว่า "สิ่งที่อยู่ในท้องของอูฐที่เก็บไว้เพื่อทำพันธุ์ที่ไม่ขี่ไม่บรรทุก และตัวอ่อนของอูฐนั้น หากคลอดออกมาแล้วมีชีวิตก็เป็นที่อนุญาตแก่บรรดาบุรุษของเรา และเป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับบรรดาสตรีของเรา และหากว่าคลอดออกมาแล้วตาย ดังนั้นทั้งบุรุษและสตรีจะเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน" อัลลอฮ์จะทรงลงโทษพวกเขาต่อคำพูดของพวกเขาตามความเหมาะสมที่จะได้รับ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณในบทบัญญัติของพระองค์ และการจัดการสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ผู้ทรงรอบรู้เรื่องพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قَدۡ خَسِرَ ٱلَّذِينَ قَتَلُوٓاْ أَوۡلَٰدَهُمۡ سَفَهَۢا بِغَيۡرِ عِلۡمٖ وَحَرَّمُواْ مَا رَزَقَهُمُ ٱللَّهُ ٱفۡتِرَآءً عَلَى ٱللَّهِۚ قَدۡ ضَلُّواْ وَمَا كَانُواْ مُهۡتَدِينَ
แท้จริงบรรดาผู้ที่ฆ่าลูก ๆ ของพวกเขาเพราะไร้ความคิด และความโง่เขลาของพวกเขานั้นได้พินาศ และให้เป็นที่ต้องห้ามในสิ่งที่อัลลอฮ์ให้เป็นปัจจัยบยังชีพแก่พวกเขาอย่างปศุสัตว์ที่เก็บไว้โดยไม่ขี่หรือบรรทุก ทั้งนี้เป็นการอุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ แท้จริงพวกเขาห่างไกลจากทางที่เที่ยงตรงและพวกเขาจะไม่เป็นผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
۞ وَهُوَ ٱلَّذِيٓ أَنشَأَ جَنَّٰتٖ مَّعۡرُوشَٰتٖ وَغَيۡرَ مَعۡرُوشَٰتٖ وَٱلنَّخۡلَ وَٱلزَّرۡعَ مُخۡتَلِفًا أُكُلُهُۥ وَٱلزَّيۡتُونَ وَٱلرُّمَّانَ مُتَشَٰبِهٗا وَغَيۡرَ مُتَشَٰبِهٖۚ كُلُواْ مِن ثَمَرِهِۦٓ إِذَآ أَثۡمَرَ وَءَاتُواْ حَقَّهُۥ يَوۡمَ حَصَادِهِۦۖ وَلَا تُسۡرِفُوٓاْۚ إِنَّهُۥ لَا يُحِبُّ ٱلۡمُسۡرِفِينَ
และอัลลอฮ์มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์คือผู้ทรงสร้างสวนต่างๆบนพื้นแผ่นดินนี้ ทั้งที่แบบไม่มีลำต้น(ไม้เลื้อย)และแบบสูงขึ้นด้วยลำต้น(ไม้ยืนต้น) และพระองค์ผู้ทรงให้มีต้นอินทผลัม และไร่นาที่ออกผลชนิดต่างๆทั้งรูปแบบและรสชาติ และพระองค์คือผู้ทรงให้มีต้นมะกอก และต้นทับทิมและใบของทั้งสองมีความละม้ายคล้ายกัน แต่มีรสชาติที่ต่างกัน โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าจงบริโภคจากผลของมันเถิดเมื่อมันออกผล และจงจ่าย(ซะกาต)ในส่วนของมันในวันเก็บเกี่ยว และจงอย่าละเมิดขอบเขตของพระองค์ในการรับประทานและใช้จ่าย แท้จริงแล้วอัลลอฮ์ไม่ทรงโปรดบรรดาผู้ละเมิดขอบเขตของพระองค์ต่อทั้งสองสิ่งนั้นหรือสิ่งอื่นจากสองสิ่งนั้น แต่พระองค์จะทรงเกลียดเขา แท้จริงผู้ที่ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดนั้นคือผู้ที่ทรงอนุญาตให้แก่บ่าวของพระองค์ ซึ่งบรรดาผู้ตั้งภาคีก็ไม่สามารถที่จะห้ามมันได้
अरबी तफ़सीरें:
وَمِنَ ٱلۡأَنۡعَٰمِ حَمُولَةٗ وَفَرۡشٗاۚ كُلُواْ مِمَّا رَزَقَكُمُ ٱللَّهُ وَلَا تَتَّبِعُواْ خُطُوَٰتِ ٱلشَّيۡطَٰنِۚ إِنَّهُۥ لَكُمۡ عَدُوّٞ مُّبِينٞ
และพระองค์คือผู้ทรงให้มีหมู่ปศุสัตว์แก่พวกเจ้าที่เหมาะแก่การถูกบรรทุกและขี่ เช่น อูฐตัวใหญ่ และที่ไม่เหมาะแก่การถูกบรรทุกและขี่ เช่น อูฐตัวเล็ก และเช่นเดียวกันกับแพะ โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย จงบริโภคจากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งต่างๆที่ได้อนุญาตไว้สำหรับพวกเจ้าเถิด และจงอย่าตามก้าวเดินของชัยฏอนที่อนุญาตสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงห้ามไว้และห้ามในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุญาตไว้ เช่นเดียวกับที่บรรดาผู้ตั้งภาคีได้กระทำไว้ โอ้มวลมนุษย์เอ๋ย แท้จริงชัยฏอนนั้นคือศัตรูอันชัดแจ้งแก่พวกเจ้าโดยที่เขาต้องการให้พวกเจ้าเนรคุณต่ออัลลอฮ์
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• ذم الله المشركين بسبع صفات هي : الخسران والسفاهة وعدم العلم وتحريم ما رزقهم الله والافتراء على الله والضلال وعدم الاهتداء؛ فهذه أمور سبعة، وكل واحد منها سبب تام في حصول الذم.
อัลลอฮ์ทรงสาปแช่งบรรดาผู้ตั้งภาคีด้วยเจ็ดอย่าง ได้แก่ การสูญเสีย ความโฉดเขลา การขาดความรู้ และให้เป็นที่ต้องห้ามในสิ่งที่อัลลอฮ์ให้เป็นปัจจัยบยังชีพแก่พวกเขา การอุปโลกน์กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์ และหลงผิดโดยไม่ได้รับคำแนะนำ และในเจ็ดอย่างนี้ ทุกๆอย่างนั้นล้วนเป็นสาเหตุอันครบถ้วนที่จะได้รับการสาปแช่ง

• الأهواء سبب تحريم ما أحل الله وتحليل ما حرم الله.
ความปรารถนา คือ สาเหตุที่ทำให้สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุมัติกลายเป็นสิ่งต้องห้ามและทำให้สิ่งต้องห้ามเป็นที่อนุมัติ

• وجوب الزكاة في الزروع والثمار عند حصادها، مع جواز الأكل منها قبل إخراج زكاتها، ولا يُحْسَب من الزكاة.
วาญิบ(จำเป็น)ต้องจ่ายซะกาตพืชและผลไม้ในตอนเก็บเกี่ยว พร้อมกับอนุญาตให้รับประทานพืชผลก่อนที่จะทำการจ่ายซะกาต โดยไม่ได้ถูกคิดเป็นส่วนของซะกาต

• التمتع بالطيبات مع عدم الإسراف ومجاوزة الحد في الأكل والإنفاق.
สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่ดีมีประโยชน์โดยไม่ฟุ่มเฟือยและไม่ละเมิดขอบเขตของพระองค์ในการรับประทานและการใช้จ่าย

ثَمَٰنِيَةَ أَزۡوَٰجٖۖ مِّنَ ٱلضَّأۡنِ ٱثۡنَيۡنِ وَمِنَ ٱلۡمَعۡزِ ٱثۡنَيۡنِۗ قُلۡ ءَآلذَّكَرَيۡنِ حَرَّمَ أَمِ ٱلۡأُنثَيَيۡنِ أَمَّا ٱشۡتَمَلَتۡ عَلَيۡهِ أَرۡحَامُ ٱلۡأُنثَيَيۡنِۖ نَبِّـُٔونِي بِعِلۡمٍ إِن كُنتُمۡ صَٰدِقِينَ
และพระองค์ได้ทรงให้มีสัตว์แปดประเภท คือจากแกะคู่หนึ่ง ซึ่งมีตัวผู้และตัวเมีย และจากแพะสองตัว จงกล่าวเถิด- โอ้เราะสูลเอ๋ย- แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีว่า “อัลลอฮ์ ตะอาลา ได้ทรงห้ามตัวผู้สองตัวนั้นเพราะความเป็นเพศผู้ใช่ไหม?” หากพวกเขาตอบว่า “ใช่” ก็จงถามพวกเขาว่า “แล้วทำไมพวกเจ้าจึงห้ามตัวเมีย?” หรือพระองค์ทรงห้ามเพราะทั้งสองเป็นเพศเมีย?” หากพวกเขาตอบว่า “ใช่” ก็จงถามพวกเขาว่า “แล้วทำไมถึงห้ามแพะและแกะตัวผู้? หรือว่าที่ห้ามตัวเมียเพราะมีตัวอ่อนอยู่ในมดลูกของตัวเมียทั้งสอง ที่ห้ามเพราะมีตัวอ่อนในมดลูกหรือ? หากพวกเขาตอบว่า “ใช่” ก็จงถามพวกเขาว่า “ทำไมพวกท่านถึงแยกระหว่างสิ่งที่มีในมดลูกนั้น ด้วยการห้ามตัวผู้ในบางครั้งและห้ามตัวเมียในบางครั้งล่ะ โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีทั้งหลาย จงบอกให้ฉันรู้ถึงที่มาของความรู้ที่ถูกต้องหากพวกท่านสัตย์จริงต่อสิ่งที่พวกท่านได้อ้างว่า การไม่อนุญาตนั้นมาจากอัลลอฮ์
अरबी तफ़सीरें:
وَمِنَ ٱلۡإِبِلِ ٱثۡنَيۡنِ وَمِنَ ٱلۡبَقَرِ ٱثۡنَيۡنِۗ قُلۡ ءَآلذَّكَرَيۡنِ حَرَّمَ أَمِ ٱلۡأُنثَيَيۡنِ أَمَّا ٱشۡتَمَلَتۡ عَلَيۡهِ أَرۡحَامُ ٱلۡأُنثَيَيۡنِۖ أَمۡ كُنتُمۡ شُهَدَآءَ إِذۡ وَصَّىٰكُمُ ٱللَّهُ بِهَٰذَاۚ فَمَنۡ أَظۡلَمُ مِمَّنِ ٱفۡتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبٗا لِّيُضِلَّ ٱلنَّاسَ بِغَيۡرِ عِلۡمٍۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهۡدِي ٱلۡقَوۡمَ ٱلظَّٰلِمِينَ
และที่เหลือจากแปดประเภทนั้นคือจากอูฐหนึ่งคู่ และจากวัวหนึ่งคู่ จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย - แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีว่า “อัลลอฮ์ทรงห้ามเพราะความเป็นตัวผู้ของมัน หรือเพราะความเป็นตัวเมียของมัน หรือเพราะมันอยู่ในครรภ์? หรือว่าพวกเจ้า- โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีเอ๋ย- ร่วมอยู่ด้วยขณะที่อัลลอฮ์ได้ทรงรับสั่งแก่พวกเจ้า ด้วยการห้ามตามที่พวกเจ้าได้ห้ามสัตว์เหล่านี้หรือ?! ดังนั้นไม่มีใครที่จะอธรรมยิ่งหรือทำผิดที่ใหญ่ ยิ่งไปกว่าผู้ที่ได้อุปโลกน์ความเท็จต่ออัลลอฮ์ โดยการทำเป็นสิ่งต้องห้ามในสิ่งที่ไม่ได้ถูกห้าม เพื่อต้องการหลอกลวงผู้คนให้หลงจากทางที่เที่ยงตรงโดยปราศจากแหล่งอ้างอิงแห่งความรู้ที่นำมา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงชี้นำกลุ่มชนที่อธรรมที่ได้อุปโลกน์ความเท็จต่ออัลลอฮ์
अरबी तफ़सीरें:
قُل لَّآ أَجِدُ فِي مَآ أُوحِيَ إِلَيَّ مُحَرَّمًا عَلَىٰ طَاعِمٖ يَطۡعَمُهُۥٓ إِلَّآ أَن يَكُونَ مَيۡتَةً أَوۡ دَمٗا مَّسۡفُوحًا أَوۡ لَحۡمَ خِنزِيرٖ فَإِنَّهُۥ رِجۡسٌ أَوۡ فِسۡقًا أُهِلَّ لِغَيۡرِ ٱللَّهِ بِهِۦۚ فَمَنِ ٱضۡطُرَّ غَيۡرَ بَاغٖ وَلَا عَادٖ فَإِنَّ رَبَّكَ غَفُورٞ رَّحِيمٞ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้โองการแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามนอกเสียจากสิ่งที่ตายเองไม่ได้เชือด หรือเลือดที่ไหลออก หรือเนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมมเป็นที่ต้องห้าม หรือถูกเชือดด้วยนามอื่นจากอัลลอฮ์ เช่น สิ่งที่ถูกเชือดที่เป็นการบูชาต่อรูปปั้นของพวกเขา ดังนั้นผู้ใด(ถูกบังคับ)ด้วยการอยู่ในสภาพที่คับขันที่จำเป็นต้องกินสิ่งต้องห้ามเหล่านั้นเพราะความหิวโหยโดยมิใช่เป็นผู้แสวงหาที่จะกินมัน และมิใช่ผู้ละเมิดขอบเขตของความจำเป็น ก็ไม่ถือเป็นบาป โอ้เราะสูลเอ๋ย แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษสำหรับผู้ที่จำเป็นหากจะต้องกิน เป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเขาเสมอ
अरबी तफ़सीरें:
وَعَلَى ٱلَّذِينَ هَادُواْ حَرَّمۡنَا كُلَّ ذِي ظُفُرٖۖ وَمِنَ ٱلۡبَقَرِ وَٱلۡغَنَمِ حَرَّمۡنَا عَلَيۡهِمۡ شُحُومَهُمَآ إِلَّا مَا حَمَلَتۡ ظُهُورُهُمَآ أَوِ ٱلۡحَوَايَآ أَوۡ مَا ٱخۡتَلَطَ بِعَظۡمٖۚ ذَٰلِكَ جَزَيۡنَٰهُم بِبَغۡيِهِمۡۖ وَإِنَّا لَصَٰدِقُونَ
และเราได้ห้ามแก่บรรดาผู้เป็นยิวซึ่งสัตว์ที่มีเท้าเป็นกีบทุกชนิด เช่นอูฐ และนกกระจอกเทศ และเราได้ห้ามแก่พวกเขาซึ่งไขมันของวัวและแกะนอกจากไขมันที่ติดอยู่บนหลังของมันทั้งสอง หรือตามลำไส้ หรือที่ปะปนอยู่ที่กระดูก เช่น สะโพกและข้างๆ แท้จริงเราได้ลงโทษพวกเขาในความอธรรมของพวกเขาด้วยการห้ามสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขา และแท้จริงเรานั้นเป็นผู้สัตย์จริงในทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไป
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• في الآيات دليل على إثبات المناظرة في مسائل العلم، وإثبات القول بالنظر والقياس.
ในโองการเหล่านี้เป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงอนุญาตให้มีการสนทนาในประเด็นต่างๆ ทางวิชาการ และบ่งบอกถึงอนุญาตใช้หลักวินิจฉัยและหลักเปรียบเทียบ

• الوحي وما يستنبط منه هو الطريق لمعرفة الحلال والحرام.
หลักฐานและผลของการวินิจฉัยจากหลักฐานนั้นเป็นวิธีการในการรู้ถึงสิ่งที่ฮาลาลและฮารอม

• إن من الظلم أن يُقْدِم أحد على الإفتاء في الدين ما لم يكن قد غلب على ظنه أنه يفتي بالصواب الذي يرضي الله.
หนึ่งในความอธรรม คือ การที่คนคนหนึ่งได้กล่าวตัดสินในเรื่องศาสนา โดยที่เขาไม่ได้มีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งว่า เขาได้กล่าวตัดสินอย่างถูกต้องและเป็นที่พึงพอพระทัยจากอัลลอฮ์

• من رحمة الله بعباده الإذن لهم في تناول المحرمات عند الاضطرار.
หนึ่งในความเมตตาของอัลลอฮ์ต่อบ่าวของพระองค์ คือ การอนุญาตให้รับประทานสิ่งต้องห้าม เมื่อยามคับขัน

فَإِن كَذَّبُوكَ فَقُل رَّبُّكُمۡ ذُو رَحۡمَةٖ وَٰسِعَةٖ وَلَا يُرَدُّ بَأۡسُهُۥ عَنِ ٱلۡقَوۡمِ ٱلۡمُجۡرِمِينَ
โอ้เราะสูลเอ๋ย หากพวกเขาปฏิเสธเจ้า และไม่เชื่อในสิ่งที่เจ้านำมาจากพระเจ้าของเจ้าแล้ว ก็จงกล่าวแก่พวกเขาเพื่อเป็นการส่งเสริมพวกเขาว่า "พระเจ้าของพวกเจ้านั้นเป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตาอันกว้างขวาง และหนึ่งในความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อพวกเจ้า คือ การผ่อนปรนสำหรับพวกท่าน และไม่เร่งรีบที่จะลงโทษพวกเจ้า" และจงกล่าวตักเตือนพวกเขาว่า "แท้จริงบทลงโทษของพระองค์นั้นจะไม่ถูกโต้กลับให้พ้นจากกลุ่มชนที่กระทำความผิดและบาปทั้งหลาย"
अरबी तफ़सीरें:
سَيَقُولُ ٱلَّذِينَ أَشۡرَكُواْ لَوۡ شَآءَ ٱللَّهُ مَآ أَشۡرَكۡنَا وَلَآ ءَابَآؤُنَا وَلَا حَرَّمۡنَا مِن شَيۡءٖۚ كَذَٰلِكَ كَذَّبَ ٱلَّذِينَ مِن قَبۡلِهِمۡ حَتَّىٰ ذَاقُواْ بَأۡسَنَاۗ قُلۡ هَلۡ عِندَكُم مِّنۡ عِلۡمٖ فَتُخۡرِجُوهُ لَنَآۖ إِن تَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّ وَإِنۡ أَنتُمۡ إِلَّا تَخۡرُصُونَ
บรรดาผู้ตั้งภาคีจะกล่าวด้วยการนำเรื่องพระประสงค์และการกำหนดของอัลลอฮ์เป็นเหตุผลในการยอมรับถึงความถูกต้องในการตั้งภาคีของพวกเขาที่มีต่ออัลลอฮ์ว่า "หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ไม่ให้เราและบรรพบุรุษของเราตั้งภาคี แน่นอนพวกเราก็ย่อมไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์ และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ไม่ให้เราทำเป็นสิ่งต้องห้ามในสิ่งที่เราได้ทำต่อตัวของพวกเราเอง แน่นอนพวกเราก็ย่อมไม่ทำสิ่งนั้น" และด้วยเหตุผลเช่นเดียวกันนี้ บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาก็ได้กล่าวเท็จต่อบรรดาเราะสูลของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า "หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ไม่ให้เรากล่าวเท็จต่อพวกเขา แน่นอนเราก็ย่อมไม่กล่าวเท็จต่อพวกเขา และพวกเขาจะกล่าวเท็จอย่างต่อเนื่องจงกระทั่งพวกเขาได้ลิ้มรสการลงโทษของเราที่เราได้ประทานลงมาแก่พวกเขา โอ้เราะสูลเอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีเหล่านั้นเถิดว่า "การที่พวกท่านได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์และได้อนุญาตในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามและได้ห้ามในสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาตนั้นพวกท่านมีหลักฐานที่บ่งบอกว่าพระองค์นั้นพอพระทัยต่อพวกเจ้าหรือไม่? และด้วยแค่เพียงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพวกเจ้ามันไม่ใช่หลักฐานถึงความพึงพอพระทัยของพระองค์ต่อพวกท่าน ความจริงแล้วพวกท่านมิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากการคาดคิดเอาเท่านั้น และแท้จริงแล้วการคาดเดานั้นไม่ได้ช่วยอะไรต่อความสัตย์จริงเลย และพวกท่านไม่มีอื่นใดนอกจากจะกล่าวเท็จเท่านั้น
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ فَلِلَّهِ ٱلۡحُجَّةُ ٱلۡبَٰلِغَةُۖ فَلَوۡ شَآءَ لَهَدَىٰكُمۡ أَجۡمَعِينَ
โอ้เราะสูลเอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีเถิด ว่า "หากพวกเจ้าไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ นอกจากข้อโต้แย้งที่อ่อนแอนี้ ดังนั้นแท้จริงอัลลอฮ์ทรงมีข้อโต้แย้งที่ชัดเจนที่ชี้ขาดในสิ่งที่พวกท่านได้เสนอมา และทำลายข้อคลุมเคลือต่างๆที่พวกท่านยึดถือ โอ้บรรดาผู้ตั้งภาคีเอ่ย หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ในการให้พวกเจ้าได้รับทางนำกันทกคนแล้ว แน่นอนพระองค์ก็ย่อมให้ความง่ายดายเกิดขึ้นแก่พวกท่านทั้งหมดในการยอมรับในสัจธรรม
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ هَلُمَّ شُهَدَآءَكُمُ ٱلَّذِينَ يَشۡهَدُونَ أَنَّ ٱللَّهَ حَرَّمَ هَٰذَاۖ فَإِن شَهِدُواْ فَلَا تَشۡهَدۡ مَعَهُمۡۚ وَلَا تَتَّبِعۡ أَهۡوَآءَ ٱلَّذِينَ كَذَّبُواْ بِـَٔايَٰتِنَا وَٱلَّذِينَ لَا يُؤۡمِنُونَ بِٱلۡأٓخِرَةِ وَهُم بِرَبِّهِمۡ يَعۡدِلُونَ
โอ้เราะสูลเอ๋ยจงกล่าวแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีเหล่านั้นที่ได้ทำเป็นสิ่งห้ามในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุญาต และอ้างว่าอัลลอฮ์คือผู้ทรงกำหนดให้เป็นสิ่งต้องห้ามเอง "จงนำบรรดาพยานของพวกท่านที่สามารถยืนยันว่า แท้จริงฮัลลอฮ์ได้ทรงห้ามสิ่งเหล่านี้ที่พวกท่านได้ห้ามไว้ แล้วถ้าพวกเขาเป็นพยานยืนยันโดยไม่มีความรู้เป็นที่ยืนยันว่า อัลลอฮ์คือทรงห้ามมันไว้ ดังนั้น โอ้เราะซูลเอ๋ย จงอย่าเชื่อในการเป็นยืนยันของพวกเขา เพราะมันเป็นการยืนยันที่เป็นเท็จ และเจ้าจงอย่าตามความปรารถนาของบรรดาผู้ที่ใช้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นการตัดสิน เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาได้ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราในขณะที่พวกเขาได้ห้ามสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุญาตสำหรับพวกเขา และเจ้าจงอย่าตามบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อปรโลก พวกเขาตั้งภาตีต่อพระเจ้าของพวกเขา และให้สิ่งอื่นเท่าเทียมกับพระองค์ และผู้ที่มีแนวทางกับพระเจ้าของเขาเป็นแบบนี้ แล้วพวกเขาจะเป็นตัวอย่างที่ควรปฏิบัติตามได้อย่างไร?!
अरबी तफ़सीरें:
۞ قُلۡ تَعَالَوۡاْ أَتۡلُ مَا حَرَّمَ رَبُّكُمۡ عَلَيۡكُمۡۖ أَلَّا تُشۡرِكُواْ بِهِۦ شَيۡـٔٗاۖ وَبِٱلۡوَٰلِدَيۡنِ إِحۡسَٰنٗاۖ وَلَا تَقۡتُلُوٓاْ أَوۡلَٰدَكُم مِّنۡ إِمۡلَٰقٖ نَّحۡنُ نَرۡزُقُكُمۡ وَإِيَّاهُمۡۖ وَلَا تَقۡرَبُواْ ٱلۡفَوَٰحِشَ مَا ظَهَرَ مِنۡهَا وَمَا بَطَنَۖ وَلَا تَقۡتُلُواْ ٱلنَّفۡسَ ٱلَّتِي حَرَّمَ ٱللَّهُ إِلَّا بِٱلۡحَقِّۚ ذَٰلِكُمۡ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمۡ تَعۡقِلُونَ
โอ้เราะสูลเอ๋ย จงกล่าวแก่มวลมนุษย์เถิด ว่า "ท่านทั้งหลายจงมากันเถิด ฉันจะสาธยายในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงห้ามไว้แก่พวกท่าน นั่นคือ ห้ามไม่ให้พวกเจ้าตั้งภาคีใดๆต่อพระองค์ และห้ามการเนรคุณต่อผู้บังเกิดเกล้าของพวกเจ้า แต่จำเป็นสำหรับพวกเจ้าที่ต้องทำดีต่อพวกเขา และห้ามพวกเจ้าฆ่าลูกของพวกเจ้าเพราะความจน อย่างที่ผู้คนญาฮิลียะฮ์ที่ได้กระทำมา เราเป็นผู้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าและแก่พวกเขา และห้ามการเข้าใกล้สิ่งชั่วช้าทั้งหลาย ทั้งที่เปิดเผยและที่ปกปิด และห้ามการฆ่าชีวิตใดที่อัลลอฮ์ทรงห้ามไว้ นอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรมเท่านั้น เช่น ลงโทษผู้ที่ผิดประเวณีหลังจากแต่งงานแล้ว และการตกศาสนาหลังจากนับถือศาสนาอิสลาม สิ่งที่ได้กล่าวมานั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสั่งเสียไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะเข้าใจซึ่งคำบัญชาและข้อห้ามของพระองค์"
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• الحذر من الجرائم الموصلة لبأس الله؛ لأنه لا يُرَدُّ بأسه عن القوم المجرمين إذا أراده.
ระวังการกระทำบาปที่นำไปสู่การลงโทษของอัลลอฮ์ เพราะการลงโทษของพระองค์นั้น จะไม่สามารถระงับจากคนชั่วได้หากพระเจ้าประสงค์

• الاحتجاج بالقضاء والقدر بعد أن أعطى الله تعالى كل مخلوق قُدْرة وإرادة يتمكَّن بهما من فعل ما كُلِّف به؛ ظُلْمٌ مَحْض وعناد صرف.
การใช้การตัดสินและกฎกำหนดของอัลลอฮ์เป็นข้ออ้างในการทำบาป หลังจากที่อัลลอฮ์ได้ให้ความสามารถและความตั้งใจแก่ทุกคนในการปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ถือว่าเป็นการอธรรมอย่างชัดเจนและเป็นการดื้อรั้นอย่างชัดแจ้ง

• دَلَّتِ الآيات على أنه بحسب عقل العبد يكون قيامه بما أمر الله به.
โองการข้างต้นแสดงให้เห็นว่าระดับความเข้าใจของบุคคลเป็นตัวกำหนดความพร้อมในการปฏิบัติตามพระบัญญัติของอัลลอฮ์

• النهي عن قربان الفواحش أبلغ من النهي عن مجرد فعلها، فإنه يتناول النهي عن مقدماتها ووسائلها الموصلة إليها.
ข้อห้ามในการเข้าใกล้การกระทำที่ชั่วร้ายนั้นเป็นการเข้มงวดกว่าการห้ามทำสิ่งเหล่านั้น เนื่องจากการห้ามในการเข้าใกล้นั้นเป็นการห้ามสิ่งที่สามารถนำไปสู่การกระทำที่ชั่วร้ายดังกล่าวได้

وَلَا تَقۡرَبُواْ مَالَ ٱلۡيَتِيمِ إِلَّا بِٱلَّتِي هِيَ أَحۡسَنُ حَتَّىٰ يَبۡلُغَ أَشُدَّهُۥۚ وَأَوۡفُواْ ٱلۡكَيۡلَ وَٱلۡمِيزَانَ بِٱلۡقِسۡطِۖ لَا نُكَلِّفُ نَفۡسًا إِلَّا وُسۡعَهَاۖ وَإِذَا قُلۡتُمۡ فَٱعۡدِلُواْ وَلَوۡ كَانَ ذَا قُرۡبَىٰۖ وَبِعَهۡدِ ٱللَّهِ أَوۡفُواْۚ ذَٰلِكُمۡ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمۡ تَذَكَّرُونَ
และจงอย่าใช้ทรัพย์สมบัติของเด็กกำพร้า(คือผู้ที่สูญเสียบิดาก่อนบรรลุวัยฉกรรจ์)นอกจากด้วยวิถีทางที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อเขา และทำให้ทรัพย์สมบัติของเขาเพิ่มพูนขึ้น จนกว่าเขาจะบรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ และได้ห้ามพวกเจ้าถึงการลดปริมาณของการตวงและการชั่ง แต่จำเป็นที่จะต้องเที่ยงตรงต่อการเอาและให้ในการซื้อขาย เราจะไม่ทำให้เป็นภาระแก่ชีวิตใดนอกจากมันมีความสามารถ และสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของปริมาณและอื่นๆนั้น ก็จะไม่ถือโทษ และห้ามมิให้พวกเจ้าพูดสิ่งที่ไม่เป็นความจริงหรือการเป็ยพยานโดยปราศจากความลำเอียงถึงแม้เป็นคนใกล้ตัวหรือเพื่อนก็ตาม และได้ห้ามมิให้พวกเจ้าเพิกถอนพันธสัญญาของอัลลอฮ์ถ้าพวกเจ้าได้สัญญากับพระองค์ หรือพวกเจ้าได้สัญญากับอัลลอฮ์ แต่จำเป็นสำหรับพวกเจ้าที่ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาให้ครบถ้วน นั่นแหละที่อัลลอฮ์ได้ทรงสั่งมันไว้แก่พวกเจ้าซึ่งคำสั่งที่แน่นอน เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รำลึกถึงผลของการตัดสิน
अरबी तफ़सीरें:
وَأَنَّ هَٰذَا صِرَٰطِي مُسۡتَقِيمٗا فَٱتَّبِعُوهُۖ وَلَا تَتَّبِعُواْ ٱلسُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمۡ عَن سَبِيلِهِۦۚ ذَٰلِكُمۡ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمۡ تَتَّقُونَ
และได้ห้ามพวกเจ้าปฏิบัติตามแนวทางต่างๆ ที่หลงผิดและวิธีการของมัน แต่จำเป็นสำหรับพวกเจ้าต้องปฏิบัติตามแนวทางของอัลลอฮ์อันเที่ยงตรงไม่คดเคี้ยว และแนวทางที่หลงผิดนั้นจะนำพาพวกเจ้าสู่การแตกแยกและออกห่างจากทางแห่งสัจธรรม การตามแนวทางของอัลลอฮ์อันเที่ยงตรงนี่แหละที่อัลลอฮ์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรงต่อพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์และห่างไกลจากข้อห้ามของพระองค์
अरबी तफ़सीरें:
ثُمَّ ءَاتَيۡنَا مُوسَى ٱلۡكِتَٰبَ تَمَامًا عَلَى ٱلَّذِيٓ أَحۡسَنَ وَتَفۡصِيلٗا لِّكُلِّ شَيۡءٖ وَهُدٗى وَرَحۡمَةٗ لَّعَلَّهُم بِلِقَآءِ رَبِّهِمۡ يُؤۡمِنُونَ
หลังจากที่ได้กล่าวสิ่งที่ถูกกล่าวนั้นแล้ว เราได้บอกว่า แท้จริงเรานั้นได้ให้คัมภีร์ อัต-เตารอตแก่มูซา ที่จะทำให้ความโปรดปรานของเราครบครัน ซึ่งเป็นการตอบแทนการทำความดีของเขาและชี้แจงทุกรายละเอียดที่จำเป็นต่อศาสนาและหลักฐานของสัจธรรม และการเอ็นดูเมตตา เพื่อว่าพวกเขาจะได้ศรัทธาต่อการพบกับพระเจ้าของพวกเขาในวันกิยามะฮ์ ก็จงเตรียมพร้อมสำหรับการพบกับพระองค์ด้วยการทำคุณงามความดี
अरबी तफ़सीरें:
وَهَٰذَا كِتَٰبٌ أَنزَلۡنَٰهُ مُبَارَكٞ فَٱتَّبِعُوهُ وَٱتَّقُواْ لَعَلَّكُمۡ تُرۡحَمُونَ
และอัลกรุอานนี้ คือ คัมภีร์ที่เราได้ประทานลงมาที่มากด้วยความจำเริญ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ประกอบด้วยประโยชน์ต่างๆ ทั้งทางศาสนาและทางโลก จงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมานั้นเถิด และจงระวังการขัดแย้งกับมัน เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความเมตตา
अरबी तफ़सीरें:
أَن تَقُولُوٓاْ إِنَّمَآ أُنزِلَ ٱلۡكِتَٰبُ عَلَىٰ طَآئِفَتَيۡنِ مِن قَبۡلِنَا وَإِن كُنَّا عَن دِرَاسَتِهِمۡ لَغَٰفِلِينَ
เพื่อว่าพวกเจ้า -โอ้ บรรดาผู้ตั้งภาคีเอ๋ย- จะไม่กล่าวว่า "แท้จริงอัลลอฮ์ทรงประทานคัมภีร์ อัต-เตารอต และอัล-อินญีลแก่ชาวยิวและชาวคริสต์ก่อนหน้าเรา และพระองค์ยังไม่ได้ประทานลงมาแก่พวกเราสักเล่มเลย และแท้จริงเราไม่รู้เรื่องในการอ่านคัมภีร์ของพวกเขา เพราะมันเป็นภาษาของพวกเขาไม่ใช่ภาษาของพวกเรา"
अरबी तफ़सीरें:
أَوۡ تَقُولُواْ لَوۡ أَنَّآ أُنزِلَ عَلَيۡنَا ٱلۡكِتَٰبُ لَكُنَّآ أَهۡدَىٰ مِنۡهُمۡۚ فَقَدۡ جَآءَكُم بَيِّنَةٞ مِّن رَّبِّكُمۡ وَهُدٗى وَرَحۡمَةٞۚ فَمَنۡ أَظۡلَمُ مِمَّن كَذَّبَ بِـَٔايَٰتِ ٱللَّهِ وَصَدَفَ عَنۡهَاۗ سَنَجۡزِي ٱلَّذِينَ يَصۡدِفُونَ عَنۡ ءَايَٰتِنَا سُوٓءَ ٱلۡعَذَابِ بِمَا كَانُواْ يَصۡدِفُونَ
และพวกเจ้าคงจะไม่กล่าวว่า หากคัมภีร์นั้นถูกประทานลงมาแก่เราเหมือนที่ถูกประทานลงมาแก่ชาวยิวและชาวคริสต์แล้วไซร้ แน่นอนพวกเราจะปฏิบัติตามมากยิ่งกว่าพวกเขา แท้จริงคัมภีร์นั้นได้ประทานลงมาแค่นบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยภาษาของพวกเจ้าได้มายังพวกเจ้าแล้ว และนี่เพื่อเป็นหลักฐานอันชัดแจ้ง และคำแนะนำไปยังสัจธรรมและความเมตตาแก่ประชาชาติ ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าหาข้ออ้างที่ไร้น้ำหนักนี้มาอ้างเลย และใช้เหตุผลที่เป็นเท็จ และจะไม่มีใครที่อธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่กล่าวเท็จต่อโองการต่างๆ ของอัลลอฮ์และผินหลังให้แก่โองการเหล่านั้น เราจะลงโทษแก่บรรดาผู้ที่ผินหลังให้แก่โองการทั้งหลายของเรา ซึ่งการลงโทษแสนสาหัส ด้วยการเอาพวกเขาลงนรกญะฮันนัม เพื่อเป็นการตอบแทนการผินหลังของพวกเขาและการปฏิเศษของพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• لا يجوز التصرف في مال اليتيم إلّا في حدود مصلحته، ولا يُسلَّم ماله إلّا بعد بلوغه الرُّشْد.
ไม่อนุญาตใช้ทรัพย์สินของเด็กกำพร้าเว้นแต่จะอยู่ในขอบเขตที่เป็นประโยชน์สำหรับเขา และจะไม่มอบทรัพย์สินของเขาจนกว่าเขาจะบรรลุเป็นผู้ใหญ่

• سبل الضلال كثيرة، وسبيل الله وحده هو المؤدي إلى النجاة من العذاب.
ทางหลงผิดนั้นมีมากมายแต่เส้นทางของอัลลอฮ์นั้นเพียงเส้นทางเดียวมันคือทางที่จะนำไปสู่การรอดพ้นจากบทลงโทษ

• اتباع هذا الكتاب علمًا وعملًا من أعظم أسباب نيل رحمة الله.
การปฏิบัติตามคัมภีร์นี้ ทั้งในด้านความรู้และด้านปฏิบัตินั้นเป็นเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการได้รับความเมตตาจากอัลลอฮ์

هَلۡ يَنظُرُونَ إِلَّآ أَن تَأۡتِيَهُمُ ٱلۡمَلَٰٓئِكَةُ أَوۡ يَأۡتِيَ رَبُّكَ أَوۡ يَأۡتِيَ بَعۡضُ ءَايَٰتِ رَبِّكَۗ يَوۡمَ يَأۡتِي بَعۡضُ ءَايَٰتِ رَبِّكَ لَا يَنفَعُ نَفۡسًا إِيمَٰنُهَا لَمۡ تَكُنۡ ءَامَنَتۡ مِن قَبۡلُ أَوۡ كَسَبَتۡ فِيٓ إِيمَٰنِهَا خَيۡرٗاۗ قُلِ ٱنتَظِرُوٓاْ إِنَّا مُنتَظِرُونَ
โอ้เราะสูลเอ๋ย พวกเขามิได้รอคอยอะไร นอกจากการที่มลาอิกะฮ์แห่งความตายและผู้ช่วยของเขามายังพวกเขาเพื่อดึงวิญญาณของพวกเขาบนโลกนี้ หรือการที่พระเจ้าของเจ้าจะมาในวันแห่งการตัดสินเพื่อตัดสินระหว่างพวกเขา หรือการที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระเจ้าของเจ้าจะมาที่บ่งบอกถึงวันสิ้นโลก วันที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระเจ้าของเจ้ามานั้น เช่น การที่พระอาทิตย์จากทิศตะวันตก การศรัทธาของผู้ปฏิเสธจะไม่อำนวยประโยชน์แก่เขา และผู้ที่ศรัทธาแต่ไม่กระทำความดีมาก่อนจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ โอ้เราะสูลเอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีที่กล่าวเท็จเถิด ว่า "พวกท่านจงรอบางสิ่งบางอย่างเถิด แท้จริงพวกเราก็เป็นผู้รอคอย"
अरबी तफ़सीरें:
إِنَّ ٱلَّذِينَ فَرَّقُواْ دِينَهُمۡ وَكَانُواْ شِيَعٗا لَّسۡتَ مِنۡهُمۡ فِي شَيۡءٍۚ إِنَّمَآ أَمۡرُهُمۡ إِلَى ٱللَّهِ ثُمَّ يُنَبِّئُهُم بِمَا كَانُواْ يَفۡعَلُونَ
แท้จริงบรรดาผู้ที่ทำให้ศาสนาของพวกเขาแตกแยก จากชาวยิวและคริสต์ โดยที่พวกเขาได้ปฏิบัติกับบางส่วน และละทิ้งบางส่วน พวกเขานั้นได้กลายเป็นนิกายต่างๆที่แตกต่างกันไป โอ้เราะสูลเอ๋ย เจ้านั้นมิได้เป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขาแต่อย่างใด เจ้านั้นบริสุทธิ์ห่างไกลจากการหลงทางอย่างที่พวกเขาหลง ไม่มีอะไรสำหรับเจ้านอกเสียจากการตักเตือนพวกเขาเท่านั้น ส่วนเรื่องราวของพวกเขานั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของอัลลอฮ์ แล้วในวันกิยามะฮ์พระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทำกันบนโลกนี้ และพระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
مَن جَآءَ بِٱلۡحَسَنَةِ فَلَهُۥ عَشۡرُ أَمۡثَالِهَاۖ وَمَن جَآءَ بِٱلسَّيِّئَةِ فَلَا يُجۡزَىٰٓ إِلَّا مِثۡلَهَا وَهُمۡ لَا يُظۡلَمُونَ
บรรดาผู้ศรัทธาที่นำความดีมาในวันกิยามะฮ์ อัลลอฮ์จะทรงเพิ่มให้เขาสิบเท่าของความดีนั้น และผู้ใดนำความชั่วมา เขาจะไม่ถูกลงโทษ นอกจากเท่าความชั่วนั้นเท่านั้นทั้งเบาและหนัก จะไม่มีเพิ่มไปจากนั้น และในวันกิยามะฮ์พวกเขาจะไม่ถูกอธรรมโดยการลดความดีหรือเพิ่มความชั่วแก่พวกเขา
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ إِنَّنِي هَدَىٰنِي رَبِّيٓ إِلَىٰ صِرَٰطٖ مُّسۡتَقِيمٖ دِينٗا قِيَمٗا مِّلَّةَ إِبۡرَٰهِيمَ حَنِيفٗاۚ وَمَا كَانَ مِنَ ٱلۡمُشۡرِكِينَ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีที่ปฏิเสธเถิดว่า "แท้จริงฉันนั้น พระเจ้าของฉันได้ชี้นำฉันไปสู่ทางอันเที่ยงตรง คือ ทางแห่งศาสนาที่หยึดบนหลักของประโยชน์ทางโลกนี้และปรโลก มันคือแนวทางของอิบรอฮีมผู้ที่เอนเอียงไปทางสัจธรรม และเขา(อิบรอฮีม) ไม่เคยอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคีเลย
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ إِنَّ صَلَاتِي وَنُسُكِي وَمَحۡيَايَ وَمَمَاتِي لِلَّهِ رَبِّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- ว่าแท้จริงการละหมาดของฉัน และการเชือดสัตว์ของฉันเพื่ออัลลอฮ์และด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ไม่ใช่ผู้อื่นใดนอกจากพระองค์ และการมีชีวิตของฉันและการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสิ่งถูกสร้างทั้งปวงเพียงองค์เดียวเท่านั้น และไม่มีผู้อื่นที่มีส่วนในเรื่องนี้
अरबी तफ़सीरें:
لَا شَرِيكَ لَهُۥۖ وَبِذَٰلِكَ أُمِرۡتُ وَأَنَا۠ أَوَّلُ ٱلۡمُسۡلِمِينَ
และมหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ ไม่มีสิ่งใดเป็นภาคีสำหรับพระองค์ และไม่มีผู้ใดที่ต้องเคารพบูชาที่แท้จริงนอกจากพระองค์ และด้วยการศรัทธาต่อความเป็นเอกภาพที่บริสุทธิ์จากภาคีนี้แหละที่อัลลอฮ์ทรงบัญชาให้แก่ฉัน และฉันเป็นคนแรกในหมู่ผู้นอบน้อมยอมจำนนต่อพระองค์ในประชาชาตินี้
अरबी तफ़सीरें:
قُلۡ أَغَيۡرَ ٱللَّهِ أَبۡغِي رَبّٗا وَهُوَ رَبُّ كُلِّ شَيۡءٖۚ وَلَا تَكۡسِبُ كُلُّ نَفۡسٍ إِلَّا عَلَيۡهَاۚ وَلَا تَزِرُ وَازِرَةٞ وِزۡرَ أُخۡرَىٰۚ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّكُم مَّرۡجِعُكُمۡ فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمۡ فِيهِ تَخۡتَلِفُونَ
จงกล่าวเถิด -โอ้เราะสูลเอ๋ย- แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีเหล่านั้นเถิด ว่า "อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาพระเจ้า ทั้งๆที่พระองค์ มหาบริสุทธิ์และทรงสูงส่งนั้น เป็นพระผู้ทรงอภิบาลของทุกสิ่ง ดังนั้นพระองค์คือพระผู้อภิบาลของทุกสิ่งที่พวกเจ้าเคารพบูชาที่นอกเหนือพระองค์ และไม่มีผู้บริสุทธิ์คนใดแบกบาปของผู้อื่นได้ แล้วยังพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าเพียงองค์เดียวที่พวกเจ้าต้องกลับไปในวันกิยามะฮ์ แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกันในโลกนี้ถึงเรื่องของศาสนา
अरबी तफ़सीरें:
وَهُوَ ٱلَّذِي جَعَلَكُمۡ خَلَٰٓئِفَ ٱلۡأَرۡضِ وَرَفَعَ بَعۡضَكُمۡ فَوۡقَ بَعۡضٖ دَرَجَٰتٖ لِّيَبۡلُوَكُمۡ فِي مَآ ءَاتَىٰكُمۡۗ إِنَّ رَبَّكَ سَرِيعُ ٱلۡعِقَابِ وَإِنَّهُۥ لَغَفُورٞ رَّحِيمُۢ
และอัลลอฮ์คือผู้ทรงทำให้พวกเจ้าเป็นผู้สืบทอดบนแผ่นดินแทนคนที่มาก่อนหน้าพวกเจ้า เพื่อบริหารจัดการมัน และได้ทรงยกฐานะของพวกเจ้าบางคนในการสร้างและการให้ปัจจัยยังชีพและสิ่งอื่นๆ ให้เหนือกว่าอีกบางคนหลายขั้น เพื่อที่พระองค์จะทรงทดสอบพวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่พวกเจ้า โอ้เราะสูลเอ๋ย แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น เป็นผู้รวดเร็วในการลงโทษ เพราะทุกสิ่งที่กำลังมา มันเป็นสิ่งที่ใกล้เสมอ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยสำหรับบ่าวของพระองค์ที่กลับตัวกลับใจ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ
अरबी तफ़सीरें:
इस पृष्ठ की आयतों से प्राप्त कुछ बिंदु:
• أن الدين يأمر بالاجتماع والائتلاف، وينهى عن التفرق والاختلاف.
ศาสนาได้ใช้ให้รวมตัวเป็นสังคมกันและสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน และห้ามการแตกแยกและการขัดแย้งกัน

• من تمام عدله تعالى وإحسانه أنه يجازي بالسيئة مثلها، وبالحسنة عشرة أمثالها، وهذا أقل ما يكون من التضعيف.
จากความยุติธรรมที่สมบูรณ์และความดีของพระองค์นั้น คือ การที่พระองค์ทรงลงโทษต่อความชั่วเท่าที่ได้กระทำไว้ และตอบแทนความดีถึงสิบเท่าจากความดีที่ได้กระทำ ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่จะทวีคูณได้

• الدين الحق القَيِّم يتطَلب تسخير كل أعمال العبد واهتماماته لله عز وجل، فله وحده يتوجه العبد بصلاته وعبادته ومناسكه وذبائحه وجميع قرباته وأعماله في حياته وما أوصى به بعد وفاته.
ศาสนาที่แท้จริงและเที่ยงตรง เรียกร้องให้ทุกการงานของบ่าวและการทุ่มเทต่างๆ ของเขานั้นเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์ผู้ทรงฤทธานุภาพ ดังนั้นการละหมาด การทำอิบาดะฮฺ การทำฮัจญ์ การเชือดสัตว์ และทุกสิ่งที่เป็นการกระทำที่ทำให้ใกล้ชิดพระองค์ในชีวิตของเขา และสิ่งที่ถูกสั่งเสียหลังจากการตายของบ่าวนั้น ไปยังอัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเท่านั้น

 
अर्थों का अनुवाद सूरा: सूरा अल्-अन्आम
सूरों की सूची पृष्ठ संख्या
 
क़ुरआन के अर्थों का अनुवाद - الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم - अनुवादों की सूची

الترجمة التايلندية للمختصر في تفسير القرآن الكريم، صادر عن مركز تفسير للدراسات القرآنية.

बंद करें